Featured
รีวิว SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB เปิดแอพ เล่นเกมได้ลื่นไหล และรองรับวิดีโอ 4K
SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB การ์ดความจำที่มีออกมาเพื่อกล้องแอคชั่นแคมและสมาร์ทโฟนในการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K UHD ด้วยประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งาน สามารถอ่านข้อมูลความเร็วสูงสุดถึง 160MB/วินาที และเข้าถึงแอพต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วบนตัวการ์ดความจำ
สรุปข้อมูลของ SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB
- รูปแบบ micrSDXC
- ความจุ 256GB
- ความเร็วอ่านสูงสุด 160MB/วินาที
- ความเร็วเขียนสูงสุด 90MB/วินาที
- ความเร็ววิดีโอ V30, U3, A2
SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB มาในกล่องแพ็กเกจสีดำ และมีชื่อรุ่น พร้อมข้อมูลที่เป็นจุดเด่นชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเล่นแอพได้ลื่นไหล เล่นเกมได้เร็ว และรองรับวิดีโอ 4K เหมาะสำหรับการนำใช้งานบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว และเรียกใช้งานแอพที่ติดตั้งอยู่บนการ์ดความจำได้รวดเร็วมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นการแนะนำประสิทธิภาพที่เหมาะกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงกล้องต่างๆ ด้วย
ในกล่องแพ็กเกจจะมีตัวการ์ดความจำขนาด 256GB จำนวน 1 ชิ้น และตัวแปลงอีก 1 ชิ้น โดยบนตัวการ์ดจะมีสีทองคาดแถบสีแดง พร้อมตัวหนังสือระบุชื่อรุ่น และชนิดของตัวการ์ดไว้อย่างชัดเจนด้วย ซึ่งตัวการ์ดมีคุณสมบัติในการป้องกันการกระแทก ทนอุณหภูมิ กันน้ำ กันแสงรังสีเอกซ์ เรียกได้ว่าใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญหายของมูล
ตัวเลขชื่อรุ่น ที่อยู่บนการ์ดหมายถึงอะไรบ้าง
- SD สำหรับการ์ดความจุไม่เกิน 2GB
- SDHC สำหรับความจุ 2GB-32GB
- SDXC สำหรับความจุมากกว่า 32GB ขึ้นไป ซึ่งเราก็จะเห็นชื่อนี้อยู่บน SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB ด้วยนั่นเอง
ตัวเลขเกี่ยวกับความเร็วที่อยู่บนการ์ดหมายถึงอะไรบ้าง
ความเร็วของ microSD card จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ตาม Bus Speed ได้แก่ Normal Speed ที่เรามักจะเรียกกันติดปากกว่า Class 4 หรือ Class 6 ซึ่งตัวการ์ดก็จะรองรับการบันทึกวิดีโอในระดับ HD และ Full HD ถัดมาก็จะเป็นการ์ดแบบ High Speed ซึ่งเป็นการ์ด Class 10 ที่มีความเร็วมากขึ้น และสำหรับการบันทึกวิดีโอในระดับ 4K จะเป็นการ์ด UHS-I รวมถึงแบบมาตรฐานใหม่สุด UHS-II (อ้างอิง)
จะเห็นว่าตัวเลขต่างๆ บนการ์ดนั้นสำคัญมากๆ สำหรับการนำไปใช้งานที่เหมาะสมในแต่ละประเภท ดังนั้นหากจะนำไปใช้งานกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K หรือกล้องต่างๆ ก็ควรจะเลือกเป็นการ์ดแบบ UHS-I ขึ้นไป เพราะหากความเร็วในการเขียนหรืออ่านไม่เพียงพอ ก็จะได้วิดีโอที่กระตุกหรือสะดุดได้
เห็นรูปร่างหน้าตาของการ์ดความจำตัวนี้กันไปแล้ว มาดูกันว่าเจ้าการ์ดตัวนี้จะมีความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วตามที่บอกเอาไว้หรือไม่ โดยบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีจะใช้ตัวอ่านของ Transcend card reader (รองรับ microSDXC) ด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark 5.1.2 โดยทำการทดสอบทั้งอ่านและเขียนแบบต่อเนื่องด้วยไฟล์ขนาด 1GB
- Seq Q32T1 เป็นการทดสอบความข้อมูลต่อเนื่องชุดละ 128KB ทำความเร็วในการอ่านได้ 20.34MB/วินาที และเขียน 18.38MB/วินาที
- 4K Q32T1 เป็นการทดสอบข้อมูลชุดละ 4KB แบบสุ่ม ซึ่งความเร็วที่ได้จะลดลงเนื่องจากไม่ได้เขียนต่อเนื่อง แต่ก็ถือว่ายังเป็นความเร็วในระดับที่สูง โดยอ่านได้ 2.75MB/วินาที และเขียนได้ 2.55MB/วินาที
- Seq เป็นการทดสอบข้อมูลต่อเนื่องชุดละ 1MB อ่านได้ 19.71MB/วินาที และเขียนได้ 18.03MB/วินาที
- 4K เป็นการทดสอบข้อมูลชุดละ 4KB แบบสุ่ม ซึ่งเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดความจำที่โหดมากที่สุด อ่านได้ 2.36MB/วินาที และเขียนได้ 2.23MB/วินาที
สำหรับบนสมาร์ทโฟนจะทดสอบบน Samsung Galaxy S9+ โดยใช้แอพพลิเคชั่น A1 SD Bench ที่ดาวน์โหลดมาจาก Google Play Store เพื่อทดสอบความเร็วอ่านและเขียนไฟล์แบบต่อเนื่อง
- ความเร็วในการอ่านไฟล์บนโทรศัพท์แบบต่อเนื่องทำได้ 1.6MB/วินาที
- ความเร็วในการเขียนไฟล์บนโทรศัพท์แบบต่อเนื่องทำได้ 1.6MB/วินาที
อีกหนึ่งจุดเด่นของ SanDisk Extreme microSDXC A2 คือค่า IOPS (Input/Output Operation per Second) ซึ่งหมายถึงปริมาณการอ่านและเขียนไฟล์ต่อ 1 วินาที โดยเป็นขั้นตอนพื้นฐานในโปรแกรมต่างๆ รวมถึงการเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่น ซึ่ง A2 สามารถอ่านแบบสุ่มได้ไม่น้อยกว่า 4000 IOPS และเขียนได้แบบสุ่มไม่น้อยกว่า 2000 IOPS มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่า A1 (อ้างอิง)
การติดตั้งแอพและเกมต่างๆ ไว้บนการ์ดความจำตัวนี้แล้วเรียกใช้งานได้ลื่นไหลเหมือนการติดตั้งไว้บนความจำภายในตัวเครื่อง ทำให้สามารถเรียกใช้งานแอพหรือเล่นเกมได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ต้องติดตั้งลงบนตัวเครื่องเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว
หลังจากทดสอบย้ายเกม PUBG Mobile ไปติดตั้งไว้บน SanDisk Extreme microSDXC A2 พบว่าสามารถเปิดเกมและเล่นได้อย่างลื่นไหล ความรู้สึกเหมือนกับการติดตั้งไว้บนหน่วยความจำตัวเครื่อง เรียกได้ว่าเล่นได้ลื่นๆ แทบไม่แตกต่างกันเลย
นอกจากการ์ด SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB ที่ทำการทดสอบให้เห็นถึงประสิทธิภาพความเร็วในการใช้งานแล้ว ยังมี SanDisk Extreme Portable SSD 250GB สำหรับพกพาไปใช้งานได้ทุกที่
อุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง ได้แก่ USB Type-C to Type-C และหัวแปลง USB 3.1 Type-A ทำให้ใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทุกรุ่น และมีซอฟต์แวร์ SanDisk Secure Access 3.0 สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลในแบบ 128-บิต AES ให้อีกด้วย
SanDisk Extreme Portable SSD มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดเหมือนเป็นสมาร์ทโฟนเล็กๆ หนึ่งเครื่อง มาพร้อมกับดีไซน์ทันสมัย สวยงาม และให้ความปลอดภัยด้วยการการันตีมาตรฐาน IP55 ป้องกันน้ำ ละอองฝนได้ และป้องกันแรงกระแทกได้อีกด้วย
SanDisk Extreme Portable SSD ใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สามารถใช้ได้กับทั้ง Mac และ Windows
จากการทดสอบวัดความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลทำได้สูงเกิน 400MB/วินาที ด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark จึงเหมาะกับภาพหรือวิดีโอที่มีความละเอียดสูง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง SSD ที่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบันมากๆ
สรุปจุดเด่นการใช้งานของ SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB
- เป็นการ์ดความจำที่มีประสิทธิในการใช้งานสูง สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ควรเลือกใช้ เพื่อการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K ได้แบบไม่สะดุด อีกทั้งความจุ 256GB ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน
- ให้ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูล RescuePRO Deluxe ฟรี 1 ปี สำหรับช่วยให้สามารถกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบไปอย่างไม่ตั้งใจได้ง่ายขึ้น
- ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ทั้งการป้องกันการกระแทก ทนอุณหภูมิ กันน้ำ กันแสงรังสีเอกซ์
ใครกำลังมองหาการ์ดความจำหรือ Portable SSD แบบดีๆ ไว้ใช้งานไม่ควรพลาดเด็ดขาด โดยสินค้าจะเริ่มมีขายในงาน Thailand Mobile Expo 2018 ระหว่างวันที่ 27-30 กันยายนนี้ มาพร้อมโปรโมชันพิเศษ ดังนี้
- SanDisk Extreme microSDXC A2 256GB จากราคา 5,590.- ลดเหลือ 3,950.-
- SanDisk Extreme Portable SSD 250 GB จากราคา 3,990.- ลดเหลือ 3,150.-
พิเศษสำหรับผู้ที่สนใจพรีออเดอร์ 10 ท่านแรก รับเพิ่มทันทีบัตร Starbucks 100 บาท เพียงคอมเม้นท์รุ่นที่ต้องการซื้อและชื่อ-สกุลในช่องคอมเม้นท์ด้านล่างนี้ (10 ท่านแรก ทางทีมงานจะคอมเม้นต์ตอบกลับว่าได้รับสิทธิ์พรีออเดอร์) จากนั้นไปติดต่อซื้อของที่หน้างานพร้อมแจ้งชื่อที่จองไว้ได้เลย