Android News
วันนี้ที่รอคอย LG V40 ThinQ สมาร์ทโฟน 5 กล้อง เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
ก่อนหน้านี้ผมเคยนำเสนอเกี่ยวกับความสามารถของกล้องหลัง 3 ตัวของสมาร์ทโฟน LG V40 ThinQ มาแล้ว กล้องหลัง 3 ตัวและกล้องหน้าอีก 2 ตัวรวมกันเป็น 5 ตัวมีความสำคัญในการถ่ายรูปทั้งหมด
หลังจากวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ทำให้เรารู้ว่า LG V40 ThinQ เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่มีการถ่ายภาพมุมกว้างหรือซูมเข้าด้วยกล้องหลัง 3 ตัว
จุดเด่นที่กล้องหลัง 3 ตัวนี้จะมีเลนส์ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ตัวแรกจะมีเลนส์มุมกว้าง 107 องศา ตัวที่สองเป็นเลนส์หลังมีมุมกว้าง 78 องศา และเลนส์ที่สามเป็นเลนส์ เทเลโฟโต้มีมุมกว้าง 45 องศา ซึ่งนั่นทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ครอบคลุมการซูมแบบออปติคอล 3 เท่า
คราวนี้เราการเจาะลึกที่กล้องถ่ายรูปหลักกันบ้าง กล้องถ่ายรูปหลักด้านหลังมีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดพิกเซลอยู่ที่ 1.4pi ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า LG G7 และ V35 ที่มีขนาดพิกเซลเพียง 1.0pi มาพร้อมกับรูรับแสง f/1.5 และระบบป้องกันการสั่นไหวแบบออฟติคัล เพื่อเพิ่งประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดีขึ้น แถมยังมีออโต้กัสแบบ Dual Pixel อีกด้วย
และกล้องหลังอีก 2 ตัวของ LG V40 ThinQ จะช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพได้กว้างแบบเต็มตาหรือซูมเข้ามาใกล้ๆ ได้แบบสบายๆ กล้องรุ่นนี้ใช้เลนส์ tele camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับรูรับแสง f/2.4 และกล้องอีกตัวจะมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้างพิเศษความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
นอกจาการถ่ายภาพที่โดดเด่นแล้ว กล้องหลัง 3 ตัวด้านหลังยังสามารถบันทึกวิดีโอในโมด HDR พร้อมกับระบบป้องกันการสั่นไหวแบบดิจิตอลสำหรับวิดีโออีกด้วย นอกจากนั้นยังสามารถบันทึกวิดีโอแบบ 4K ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที่ มีโหมดบันทึกวิดีโอ 1080p อีกด้วย
คุณสมบัติของกล้องถ้ายรูป 3 ตัวนี้ยังไม่หมดเพราะทาง LG ได้ใส่ลูกเล่น Triple Shot มาใส่ไว้ในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยทำให้กล้องทั้ง 3 ตัวสมารถเก็บภาพได้พร้อมกันและเอาภาพเหล่านั้นมาทำเป็นวิดีโอหรือภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย พร้อมทั้งมี AI ที่ฉลาดขึ้นสามารถตกแต่งใบหน้าก่อนถ่ายได้ และมีระบบจดจำคนในเฟรมด้วย
มาถึงหน้าจอแสดงผลของ LG V40 ThinQ กันบ้างกล้องดีก็ต้องมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่ดีด้วย หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Fill Vision ขนาด 6.4 นิ้ว ซึ่งหน้าจอแสดงผลในรุ่น V-series นั้นส่วนมากแล้วจะเป็นแผงหน้าจอ QHD + OLED พร้อมการสนับสนุน HDR10 และอัตราส่วนภาพ 19.5:9 และก็มาพร้อมกับรอยบากเป็นเกาะน้อยๆ อยู่ด้านบน
เกาะน้อยๆ นี้เป็นตำแหน่งที่ติดตั้งกล้องหน้าทั้งหมด 2 ตัวด้วยกันซึ่งมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มุมกว้าง 80 องศา ส่วนกล้องอีกตัวจะมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมกว้าง 90 องศา
นอกจากนั้น LG V40 ThinQ ยังได้รับรองมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP67 และการรับรอง MIL-STD-810G ด้วย เรื่องของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 169 กรัม ด้วยน้ำหนักขนาดนี้ทำให้ LG V40 มีน้ำหนักที่เปล่ากว่า Galaxy Note9 และ iPhone XS Max เรื่องของคุณภาพเสียงนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นของทาง LG อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ LG ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการใช้หูฟังแบบ QuadDAC 32 บิตให้เสียงที่มีคุณภาพขึ้นอีกทั้งยังมีการติดตั้งลำโพง BoomBox มาด้วย
ระบบปฏิบัติการที่ใช้ใน LG V40 ThinQ นั้นจะเป็น Android 8.1 Oreo ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 845 พร้อมกับกำลังเสริมด้วยแรมขนาด 6GB หน่วยความจำภายใน 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD แบตเตอรี่ที่ให้มามีความจุ 3,300mAh ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบเร็ว QuickCharge 3.0 ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของทาง LG เลยทีเดียว
LG V40 ThinQ จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมที่โดยมีสีให้เลือก 2 สีคือ Aurora Black และ Moroccan Blue ราคาเริ่มต้นคือ 900 เหรียญสหรัฐ ถึง 980 เหรียญสหรัฐ
สรุปรายละเอียดของ LG V40 ThinQ อย่างเป็นทางการ
- หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Fill Vision ขนาด 6.4 นิ้ว แผงหน้าจอ QHD + OLED พร้อมการสนับสนุน HDR10 และอัตราส่วนภาพ 19.5:9
- ขุมพลัง Snapdragon 845
- แรมขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน 64GB รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD
- กล้องหลังมี 3 ตัวมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 2 ตัว และ 16 ล้านพิกเซลอีก 1 ตัว แต่ละตัวจะมีเลนส์ที่แตกต่างกันไป
- กล้องหน้าจะมี 2 ตัวความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รันบนระบบ Android 8.1 Oreo
- แบตเตอรี่ความจุ 3,300mAh รองรับ QuickChager 3.0
ที่มา gsmarena