Featured
พาส่องนวัตกรรมสุดล้ำจากทรู ในงาน True 5G Digital Thailand, The 1st Showcase powered by TrueMove H @ ICONSIAM
เปิดให้ชมกันไปเรียบร้อยกับงาน True 5G Digital Thailand, The 1st Showcase powered by TrueMove H งานโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ ซึ่งเป็นการสาธิตการทำงานของเทคโนโลยี 5G โดยทรูมูฟ เอช ผู้นำเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของคนไทยที่มีความหลากหลายด้านคลื่นความถี่มากที่สุด ได้แก่ 850/900/1800 และ 2100 MHz ได้รับอนุญาตจาก กสทช. เพื่อสาธิตการทำงานของเทคโนโลยี 5G บนคลื่นความถี่สำหรับ 5G โดยเฉพาะ คือคลื่นความถี่ในย่าน 28 GHz ในงานนี้จะได้เห็นความสามารถของเทคโนโลยีอันทันสมัยนำมาทำงานร่วมกันกับ 5G โดยจัดขึ้นที่ ทรู แบรนด์ดิ้ง ช้อป สาขาไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62
ทำไมต้อง 5G
เมื่อพูดถึง 5G แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึงความเร็ว ซึ่ง 5G นั้นมีความเร็วมากกว่า 4G ถึง 20 เท่า มี latency หรือ ค่าความหน่วงต่ำ (ค่าความหน่วงยิ่งต่ำ ยิ่งดี) ใช้เวลาในการตอบสนองต่อการรับ – ส่ง สัญญาณที่น้อยกว่า 4G ถึง 10 เท่า ทำให้เหมาะอย่างยิ่งในการใช้งานแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลในการใช้งานด้านต่างๆ เช่น การผ่าตัดทางไกล การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IOT ได้ในปริมาณที่มากกว่า จะทำให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
พาสัมผัสประสบการณ์ 5G
1. 5G Speed Test
เมื่อพูดถึง 5G ทุกคนต้องนึกถึงความเร็วมาเป็นอันดับแรก ซึ่งก็ต้องอยากทราบว่าสปีดของ 5G นั้นเร็วเท่าไหร่ โดยในโซนนี้ทุกคนจะได้สัมผัสความเร็วของ 5G มีความเร็วสูงสุดถึง 18 Gbps ซึ่งสามารถใช้งานการรับชม วิดีโอ 8K Full HD, กล้อง 8K VR 360 การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน และการปล่อยสัญญาณ Hot Spot ในที่ที่มีคนมากๆ เช่น คอนเสิร์ต ได้เป็นต้น
เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างของ 4G และ 5G มากขึ้นก่อนที่จะไปเดินกันในงานนี้ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ถึงความแตกต่าง 3 ข้อหลักๆ ดังนี้
- Speed ในด้านของความเร็ว 4G สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 1Gbps ส่วน 5G สามารถใช้ความเร็วสูงสุดที่ 20 Gbps ความเร็วของ 5G มากกว่า 4G ถึง 20 เท่า
- Latency อัตราความหน่วง อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือระยะเวลาในการส่งข้อมูลจาก Device หนึ่งไปยัง Device หนึ่ง ตัวเลขอัตราความหน่วงยิ่งต่ำ ยิ่งดี ซึ่งทำให้ไม่เกิดการดีเลย์ของข้อมูล โดยค่า Latency ของ 5G ต่ำสุด 1ms ส่วนบน 4G ต่ำสุด 10ms
- Connection จำนวนในการเชื่อมต่อ เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ IOT ต่างๆ แล้ว ในพื้นที่ๆ เท่ากัน การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เมื่อใช้ 5G สามารถเชื่อมต่อด้วยจำนวนที่มากกว่า 5G ถึง 10 เท่า
2. Dancing Robot
โซนนี้น่าจะต้องถูกใจใครหลายๆ คน นอกจากจะได้เห็นการสื่อสารข้อมูลด้วยความหน่วงต่ำบนเครือข่าย 5G แล้ว ยังได้เห็นความน่ารักลีลาการเต้นด้วยความพร้อมเพรียงของเหล่าหุ่นยนต์ multi-axis ความพิเศษของการควบคุมการเต้นของหุ่น multi-axis ไม่ได้เป็นการควบคุมหุ่นยนต์ให้เต้นพร้อมๆ กันทั้งหมด แต่หลักการทำงานมีความซับซ้อนมากกว่านั้นครับ โดยในจุดนี้ได้มีการสั่งงานให้หุ่นยนต์ตัวแรกเต้นก่อน จากนั้นหุ่นยนต์ตัวแรกจะส่งต่อคำสั่งไปยังหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ให้เต้นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้เห็นการสื่อสารข้อมูลเมื่อมีความหน่วงต่ำก็สามารถทำให้หุ่นยนต์ตัวแรกส่งต่อและสื่อสารข้อมูลกันทำงานได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้เห็นว่าหุ่นยนต์ทั้งหมดนั้นเต้นพร้อมเพรียงกัน ผู้ปกครองสามารถพาเด็กๆ ไปเรียนรู้เทคโลยีนี้ได้นะครับคิดว่าน่าจะชอบกันแน่นอน
3. Virtual Driving
สัมผัสประสบการณ์ขับรถแบบเสมือนจริง และสมจริงด้วย 5G เป็นการสาธิตการสื่อสารข้อมูลด้วยความหน่วงต่ำบนเครือข่าย 5G ผ่านระบบจำลองการขับรถ ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดๆ ว่าเมื่อใช้งานผ่าน 5G การควบคุมจะตอบสนองได้ทันทีปราศจากความหน่วง ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นได้อย่างง่ายๆ ในกรณีการเบรครถ หากทำงานบน 4G เมื่อเบรคหากมีความหน่วงสูงของการส่งสัญญาณจะทำให้การเบรคนั้นไม่เกิดขึ้นทันทีรถอาจจะไถลไปนิดหน่อย ถ้าเป็น 5G ค่าความหน่วยต่ำสามารถสั่งงานได้ทันทีเมื่อเบรคก็จะสามารถหยุดรถได้ทันทีเป็นต้น ในจุดนี้เป็นอีกจุดที่น่าสนใจและทดลองใช้งานเป็นอย่างมาก อย่างไรแล้วไปทดสอบกันที่โซนนี้ได้นะครับ
4. City Model + Connected Drone
พบกับเมืองต้นแบบอัจฉริยะในโลกอนาคต ที่เชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน และนำโดรนเข้ามาช่วยสอดส่องความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน หรือในเมือง และยังสามารถใช้เป็นระบบขนส่งอัจฉริยะในอนาคตได้อีกด้วย
5. Remote Operation with 5G (Excavator)
สาธิตการทำงานบน latency หรือค่าความหน่วงที่ต่างกัน ในการสั่งงานจากระยะไกล โดยจุดนี้ใช้รถตักจำลอง 2 คันมาทดสอบ คันแรกจะเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G ในขณะที่รถคันที่ 2 จะเชื่อมต่อกับ 5G ซึ่งตัวควบคุม (Joystick) จะส่งคำสั่งควบคุมเดียวกันไปยังรถตักทั้ง 2 คัน โดยรถตักที่ใช้ 5G จะตอบสนองต่อการควบคุมได้อย่างรวดเร็วและเรียลไทม์ไม่ว่าจะเป็นบังคับการเคลื่อนที่ การหันในทิศทางต่างๆ เมื่อความหน่วงต่างกันก็จะทำให้การสั่งงานบน 5G และการตอบสนองทำได้รวดเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
6. 3D Augmented Reality Collaboration
เป็นอีกโซนที่เรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว ในการแสดงศักยภาพการทำงานของ 3D Augmented Reality สาธิตอนาคต ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันโดยผ่านวิดีโอเสมือนจริง โดยคู่สนทนาสามารถทำงานร่วมกันจากระยะไกลแบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยการสาธิตจะเป็นในส่วนของการมองเห็นในส่วนต่างๆ ของอวัยวะของมนุษย์แบบ 3D สามารถสัมผัสให้หันไปในทิศทางต่างๆ หยิบจับเคลื่อนที่ผ่านมุมมองเสมือนได้ ซึ่งนำมาใช้กับวงการแพทย์เพื่อวินิจฉัยทางไกลได้เป็นต้น
7. Robot Arm Soccer Goal Keeper
ท้าดาวซัลโวพิชิตประตูของผู้รักษาประตูมือจักรกล แสดงให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานของ 5G ทั้งในเรื่องของความรวดเร็วและความแม่นยำในการทำงาน ซึ่ง 5G จะมีความหน่วงต่ำหลังจากที่แตะฟุตบอลแล้วระบบจะมีการควบคุมระบบการทำงานด้วย AI ซึ่งทำให้สามารถรับลูกฟุตบอลที่แตะมาอย่างรวดเร็ว โซนนี้ก็น่าสนใจพากันไปทดสอบได้ทั้งครอบครัวเลยครับ
8. Rock-Paper-Scissor with Robot Arm
เป่ายิ้งฉุบแบบไม่ธรรมดากับหุ่นยนต์มือกลที่ควบคุมการทำงานด้วย 5G ควบคู่กับ Machine Learning ที่จะทำให้ผู้ที่ไปสัมผัสจะต้องทึ่งเมื่อหุ่นยนต์มือกลสามารถเป่ายิ้งฉุบและเรียนรู้ท่าทางต่างๆ ของคนได้ ลองไปเล่นกันดูครับแล้วดูว่าหุ่นยนต์มือกลจะเรียนรู้ท่าทางจากท่าทางที่เราไปทดสอบเป่ายิ้งฉุบได้มากขนาดไหนไปลองมาแล้วสนุกดี
9. 360 VDO Live Streaming
พิสูจน์ความแรงของ 5G ด้วยการใช้งาน 360 Live VR Streaming สาธิตการชมวิดีโอที่ให้ประสบการณ์เสมือนจริงผ่านเครือข่าย 5G โดยข้อมูลจะถูกส่งผ่านด้วยความเร็วสูงและค่าความหน่วงต่ำมายังผู้ชม ซึ่งจะเห็นได้ว่าการทำงานนั้นจะเป็นแบบเรียลไทม์การมองจะสามารถเห็นในทิศทางต่างๆ ได้ทันทีในแบบ 360 องศา ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ภาพจากกล้องสามารถส่งข้อมูลมาให้ทันที ทำให้รู้สึกได้ว่าเหมือนอยู่ในสถานที่จริง
10. Robotic ARM (Future Factories)
ควบคุมแขนกลผ่าน 5G ซึ่งสามารถควบคุมได้จากระยะไกล (Remote) โดยในจุดนี้จะเห็นว่าเมื่อบังคับแขนกลทั้งการเคลื่อนที่ ขึ้น ลง ซ้าย ขวา หรือจะเป็นการหยิบจับสิ่งของทำได้แบบเรียลไทม์เมื่อการส่งข้อมูลผ่าน 5G มีความหน่วงต่ำก็สามารถสั่งงานแขนกลเพื่อให้ทำงานได้ทันที
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับงาน True 5G Digital Thailand, The 1st Showcase powered by TrueMove H ที่กำลังจัดขึ้นอยู่ในขณะนี้เรียกได้ว่าในแต่ละโซนน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว ซึ่งอีกไม่นานนี้แล้วคาดว่าจะได้เห็นการใช้ทั้ง 5G และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในด้านต่างๆ อาทิ ด้านความบันเทิง กีฬา ระบบเมืองและการขนส่งยุคอนาคต รวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ สำหรับผู้ที่สนใจทดสอบการใช้งาน 5G สามารถแวะกันไปได้ที่ ทรู แบรนด์ดิ้ง ช้อป สาขาไอคอนสยาม เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2562 เวลา 10.00 น. – 21.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม www.truemoveh-best4g.com