Apple News
ราคาล่าสุด iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เริ่มต้น 1,990 บาท เดือนสิงหาคม 2019
อัพเดทราคาล่าสุด iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เริ่มต้น 1,990 บาท ประจำเดือนสิงหาคม สำหรับใครที่อยากได้ในราคาไม่แพงก็พอมีบางช้อปที่หาซื้อได้ และราคาก็ปรับลงมาให้ซื้อกันได้ง่ายมากขึ้นด้วย
ราคาล่าสุด iPhone 6s และ iPhone 6s Plus
iPhone 6s และ iPhone 6s Plus สมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก Apple ที่มาพร้อมหน้าจอ 3D Touch รับรู้แรงกดได้ และกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ 4K
- iPhone 6s Plus 32GB ราคา 11,900 บาท หรือเริ่มต้น 10,400 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ
รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
- iPhone 6s Plus 32GB ราคา 11,900 บาท หรือเริ่มต้น 5,900 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจและย้ายค่ายเบอร์เดิม
รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
- iPhone 6s (รองรับเครือข่ายทรูมูฟ เอช เท่านั้น) 32GB เริ่มต้น 1,990 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจและย้ายค่ายเบอร์เดิม
- iPhone 6s Plus 32GB ราคา 13,800 บาท หรือเริ่มต้น 4,900 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจและย้ายค่ายเบอร์เดิม
รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากทางร้านค้าเมื่อใดก็ได้ ควรสอบถามข้อมูลที่จุดขายอีกครั้ง
สรุปฟีเจอร์ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอ 3D Touch รับรู้แรงสัมผัสในระดับที่แตกต่างกันได้ดีกว่า Force Touch บน Apple Watch และกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ 4K
1. หน้าจอ 3D Touch
iPhone 6s และ iPhone 6s Plus มาพร้อมหน้าจอที่เรียกว่าเทคโนโลยี 3D Touch สามารถรับรู้แรงสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ถูกกดลงบนจอภาพ และตอบสนองด้วยการสั่นเบา ๆ จากเทคโนโลยี Taptic Engine แบบเดียวกับบน Apple Watch
ฟีเจอร์ที่เข้ามากับหน้าจอ 3D Touch อย่างเช่น Peek และ Pop ช่วยให้สามารถดูตัวอย่างคอนเทนต์หรือทำอะไรกับคอนเทนต์นั้นก็ได้ โดยไม่ต้องเปิดขึ้นมาจริงๆ ตัวอย่างเช่น แค่กดเบา ๆ เพื่อเรียกใช้คุณสมบัติ Peek เปิดดูตัวอย่างข้อความบางส่วนของอีเมลแต่ละฉบับในกล่องเข้าได้ และถ้าเกิดอยากจะเปิดอีเมลแบบเต็ม ๆ ก็แค่ออกแรงกดเพิ่มเพื่อให้คุณสมบัติ Pop เปิดอีเมลนั้น ๆ
2. หน้าจอแสดงผล
iPhone 6s มีหน้าจอแบบ Retina HD พร้อม 3D Touch ขนาดกว้าง 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 × 750 พิกเซล (326ppi) พิกเซลโดเมนคู่ (Dual-domain) เพื่อการมองในมุมที่กว้างขึ้น และกันรอยนิ้วมือบนหน้าจอ (Oleophobic Coating) พร้อมฟีเจอร์การดึงจอลงเพื่อแตะ (Reachability) และการซูม ในขณะที่ iPhone 6s Plus มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว เทคโนโลยีหน้าจอแบบเดียวกับ iPhone 6s แต่ความละเอียดสูงกว่าคือ Full HD 1080 x 1920 พิกเซล (401ppi)
3. ตัวเครื่องอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000
iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ใช้วัสดุหลักเป็นอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ซึ่งถือว่าเป็นโลหะผสมที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าเท่าที่เคยมีมาบน iPhone มีความแข็งแรงกว่า 60% เมื่อเทียบกับอะลูมิเนียมทั่วไป และมีความหนาแน่นเพียง 1 ใน 3 ของสแตนเลส ซึ่งหมายความว่าจะทำให้มีตัวเครื่องมีน้ำหนักเบานั่นเอง
ดีไซน์ของ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เป็นแบบ Unibody ไร้รอยต่อเป็นชิ้นเดียว มาพร้อมสีสันให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีทอง สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ และสีโรสโกลด์ ซึ่งเป็นโทนสีทองอมชมพูใหม่
4. Touch ID รุ่นที่ 2
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน iPhone 6s และ iPhone 6s Plus อัปเกรดเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งทำงานได้เร็วขึ้น สามารถใช้ลงชื่อเข้าใช้และยืนยันการซื้อภายในแอพที่เข้าร่วมรายการได้อีกด้วย
5. ชิปประมวลผล Apple A9
iPhone 6s และ iPhone 6s ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Apple A9 สถาปัตยกรรม 64 บิต ประมวลผลเร็วขึ้น 70% และกราฟิกดีขึ้น 90% เมื่อเทียบกับชิปประมวลผล A8 นอกจากนี้ยังยังทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลร่วม M9 ซึ่งเป็นตัวประมวลผลการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะมาพร้อมความสามารถใหม่ในการคำนวณการขับขี่จักรยาน การวิ่ง ระยะทาง และความสูงได้ด้วย
6. กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ 4K
กล้องหลังของ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 ครอบด้วยผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์ และแฟลช True Tone ซึ่งจุดแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้คือ กล้องบน iPhone 6s Plus รุ่นใหญ่จะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) แต่บนรุ่นเล็ก iPhone 6s จะไม่มีระบบกันสั่นนี้ ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ เหมือนกัน
ตัวกล้องรองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ที่ 30 เฟรมต่อวินาที, 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีหรือ 60 เฟรมต่อวินาที และรองรับวิดีโอสโลว์โมชั่น ความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาทีและ 720p ที่ 240 เฟรมต่อวินาที
7. กล้องหน้าเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล
กล้องหน้านอกจากจะมีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านพิกเซลแล้ว ยังใช้หน้าจอเป็นแฟลชเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้อีกด้วย ซึ่งเรียกว่า Retina Flash พร้อมโหมด HDR อัตโนมัติสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอ รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ HD 720p รวมถึงใช้งานวิดีโอคอลผ่าน Wi-Fi หรือเซลลูลาร์ไปยังอุปกรณ์ทุกรุ่นที่ใช้ FaceTime ได้
8. เซ็นเซอร์
นอกเหนือจาก Touch ID ก็จะมีบารอมิเตอร์, Gyro 3 แกน, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ระบบตรวจจับระยะ, ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
9. แบตเตอรี่
ข้อมูลจาก Apple ระบุว่า iPhone 6s ระยะเวลาสนทนาสูงสุด 14 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, การใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, สูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE, สูงสุด 11 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi
ในขณะที่ iPhone 6s Plus ระยะเวลาสนทนาสูงสุด 24 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, การใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงสุด 12 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, สูงสุด 12 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE, สูงสุด 12 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi