เปิดตัว Meizu 16s Pro ชูโรงด้วยขุมพลัง Snapdragon 855+ และกล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 48MP

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Meizu 16s Pro สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่เป็นขั้นอัปเกรดของ Meizu 16s ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี

Meizu 16s Pro มาพร้อมตัวเครื่องวัสดุกระจกทั้ง 2 ด้าน ที่มีความบางเพียง 7.65 มม. และหนักเพียง 166 กรัม โดยหน้าจอแสดงผลใช้ชนิด Super AMOLED กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2232 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18.6:9 ไร้รอยบากแต่มาพร้อมขอบด้านบนสุดบาง ทำให้มีพื้นที่การใช้งานถึง 91.53% ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Super mTouch หรือการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และปกป้องสายตาด้วย DC dimming

ภายในขับเคลื่อนด้วยด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 855+ octa-core ความเร็ว 2.96GHz, RAM 6/8GB, ROM 256GB แบบ UFS 3.0 มีแบตเตอรี่ความจุ 3,600mAh และรองรับ Rapid Charge ที่ 24W ส่วนกล้องหลังมาพร้อม 3 เลนส์ ได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รองรับ OIS + เลนส์ Telophoto ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Ultra-Wide 117 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ทรงวงแหวนล้อมรอบ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รองรับโหมด AI beauty และการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค

สรุปสเปค Meizu 16s Pro

• หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2232 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18.6:9
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
• GPU : Adreno 640
• ความจุ 6GB+128GB / 8GB+128GB / 8GB+256GB
• กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48 + 20 + 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
• กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• รองรับ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 3,600 mAh รองรับ Fast Charge 24W

Meizu 16s Pro มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (White), สีดำ (Mirror Black), สีเขียว (Twilight Forest) และสีขาวไล่เฉด (Dreamy Unicorn) มีราคาดังนี้

• ความจุ RAM 6GB + ROM 128GB : 2,699 หยวน (ประมาณ 11,500 บาท)
• ความจุ RAM 8GB + ROM 128GB : 2,999 หยวน (ประมาณ 13,000 บาท)
• ความจุ RAM 8GB + ROM 256GB : 3,299 หยวน (ประมาณ 14,000 บาท)

ทั้ง 3 เวอร์ชันได้เริ่มเปิดพรีออเดอร์แล้วที่ประเทศจีน โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคมนี้

ที่มา : GizmoChina