Connect with us

Featured

รีวิว realme X2 Pro แรงเต็มขั้น พลังเรือธงรุ่นแรกของแบรนด์ จัดเต็มด้วยหน้าจอ Refresh Rate 90Hz, CPU S855+, ลำโพงคู่ และรองรับ SuperVOOC 50W

Published

on

รีวิว realme X2 Pro สมาร์ทโฟน “แรงเต็มขั้น พลังเรือธง” รุ่นแรกของแบรนด์ ที่ถือว่าให้สเปคและฟีเจอร์ต่างๆ แบบเรือธงของแท้ ชูโรงด้วยหน้าจอสุดลื่น Refresh Rate 90Hz บนขุมพลัง CPU ตัวแรงสุด ณ ตอนนี้อย่าง Snapdragon 855+ มี RAM 12GB และหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 แถมแบตเตอรี่ก็อึด รองรับ SuperVOOC Flash Charge ถึง 50W พร้อมด้วยฟีเจอร์กล้องที่ให้มาเพียบ

 

สรุปสเปค realme X2 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 161 × 75.7 × 8.7 มม.
  • น้ำหนัก : 199 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR10+ พร้อม 90Hz Ultra Smooth Display, พื้นที่หน้าจอแสดงผล 91.7% และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
  • GPU : Adreno 640
  • ความจุ RAM 12GB + ROM 256GB (UFS 3.0)
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GW1
    • เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 115 องศา ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 ซูม Optical ได้ 5 เท่า และ Hybrid ได้ 20 เท่า
    • เลนส์ Depth sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh รองรับ 50W SuperVOOC Flash Charge (10V/5A)

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่องดูอุปกรณ์ภายในกันครับว่ามีอะไรบ้าง โดยตัวกล่องมาในสไตล์เรียบง่าย เป็นกล่องสีขาวพร้อมชื่อรุ่นและสเปคเบื้องต้น โดยอุปกรณ์ภายในมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง realme X2 Pro พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์ SuperVOOC 50W
  • สาย USB Type-C
  • เคสใส
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 

สีที่เราได้มาในการรีวิวครั้งนี้เป็นสีน้ำเงิน Neptune Blue ที่จะไม่ได้มีการไล่เฉดครับ แต่จะมีการสะท้อนแสงเล่นเงากับพื้นผิวกระจกเป็นอย่างดีครับ และใครที่ชอบสีเข้มๆ ก็ต้องเลือกสีนี้เลย

 

ส่วนอีกสีอย่างสีขาว Lunar White ที่จะไม่ใช่สีขาวไปสะทีเดียวครับ แต่จะมีการไล่เฉดสีขาว, ฟ้า และม่วงอ่อนๆ อย่างสวยงามแบบเรียงลงมา แถมหากมีการสะท้อนแสงอาทิตย์ก็จะได้เฉดสีรุ่งออกมาผสมๆ กันไป ใครที่ชอบสีละมุนๆ ดูนุ่มๆ ต้องไม่ควรพลาดเด็ดขาดครับ

 

ตัวเครื่องของ realme X2 Pro ถือว่าดีไซน์ออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีความโค้งด้วยกระจก 3D ที่ด้านหลัง ทำให้เวลาจับถือทั้งตอนโทรหรือตอนดูวิดีโอจะไม่มีอาการบาดมือแน่นอน

 

หากใครที่สังเกตเรื่องโลโก้ของแบรนด์ realme ที่ดูแปลกๆ ในส่วนนี้น่าจะเป็นเรื่องของการจับถือเครื่องเพื่อไม่ให้บังชื่อแบรนด์ในเวลาที่ถือโทรหรือใช้งานทั่วไปครับ

 

ด้านดีไซน์ว่าสวยแล้ว หน้าจอแสดงผลใน realme X2 Pro ก็มีเทคโนโลยีที่ให้ความสวยงามของหน้าจอเหมือนกัน ตั้งแต่การใช้พาเนล Super AMOLED กว้างถึง 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) และยังรองรับการแสดงผล HDR10+ และ DCI-P3 Color gamuts อีกด้วย ใครที่รักการชมภาพยนตร์หรือดูซีรี่ย์ในสมาร์ทโฟนต้องชอบเรื่องความสดความใสของหน้าจอรุ่นนี้แน่ๆ

 

ทั้งนี้ หน้าจอของ realme X2 Pro ยังครอบทับด้วยกระจกสุดแข็งแกร่งอย่าง Corning Gorilla Glass 5 รวมไปถึงมีการตรวจสอบและรองรับโดย TÜV Rheinland สถาบันรับรองความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากประเทศเยอรมัน ซึ่งตรงนี้จะช่วยเรื่องการตัดแสงสีฟ้าออกไป แต่ยังคงความสดใสของหน้าจอได้เหมือนเดิมด้วย

 

และสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในเรื่องหน้าจอคือความไหลลื่นขั้นสุดจริงๆ ครับ เพราะมาพร้อมกับ Refresh Rate ถึง 90Hz ทำให้เราใช้งานสมาร์ทโฟนหรือจ้องหน้าจอได้นานๆ โดยไม่เมื่อยล้าดวงตา แถมยังได้ความลื่นในการสัมผัสและการกดที่ไปตามนิ้วได้ดีมากๆ แทบไม่มีความหน่วงหรือความเบลอขณะเลื่อนหน้าจอไปมาเลย และเดี๋ยวเราจะมีทดสอบการใช้งานเล่นเกมจากประโยชน์ของจอ Refresh Rate 90Hz ที่ด้านล่างครับ

 

มาต่อที่รอบเครื่องกันครับ เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีรอยบากทรงหยดน้ำที่ฝังกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเข้าไป ถัดไปด้านบนหน่อยก็จะมีลำโพงที่ใช้สำหรับทั้งสนทนาและเป็นลำโพงตัวที่ 2 ในรูปแบบของ Dolby Atmos อีกด้วย

 

ทางซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่มและลดเสียงเท่านั้น

 

ที่ฝั่งขวามีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่ MicroSD Card ถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Power

 

ด้านบนตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

 

ด้านล่างจะมีทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1

 

และสุดท้ายที่ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช Dual LED ที่ฝั่งขวาของเลนส์ และมีแบรนด์ realme ประกอบอยู่

 

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

realme X2 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย ColorOS 6.1 ที่จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของระบบไปใช้กันกันเต็มที่เลยครับ แถมยังช่วยเรื่องการจัดสรรทรัพยากรภายในเครื่อง ทำให้ใช้งานได้ลื่นกว่าเดิม

 

realme X2 Pro จะมีหน้าจอหลักที่เวลาเราโหลดแอปพลิเคชั่นมาก็จะมาอยู่ที่หน้านี้โดยอัตโนมัติ แต่ก็ยังมีหน้ารวมแอปที่เรียงตามตัวอักษร และมีหมวดหมู่ที่คาดว่าเราใช้งานบ่อยที่สุดด้วย

 

ใครที่ชอบวอลเปเปอร์หรือธีมที่หลากหลาย ในรุ่นนี้ก็มีให้เลือกเพียบเลยครับในแอป “ร้านขายธีม” ที่จะมีธีมให้เลือกประมาณ 10 แบบ และวอลเปเปอร์สวยๆ งามๆ อีกเพียบเลย

 

ดูข้อมูลได้ง่ายๆ ไม่ต้องเปิดจอด้วย Always on Display

ใน realme X2 Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์ Always on Display ที่จะแสดงผลทั้งเรื่องเวลา, วันที่, แบตเตอรี่ และไอคอนการแจ้งเตือนต่างๆ ครับ โดยเราไม่จำเป็นต้องกดปุ่มล็อคเครื่องเพื่อดูให้เสียเวลาอีกต่อไป โดยส่วนนี้เราสามารถตั้งแต่เริ่มและสิ้นสุดการแสดงผลได้เพื่อไม่ให้ใช้งานแบตเตอรี่มากเกินไปได้

 

Dark Mode ที่ไม่ธรรมดา รองรับเกือบทุกแอปในเครื่อง

น่าจะชอบแน่ๆ สำหรับใครที่ใช้งาน Dark Mode บ่อยๆ เพราะต้องบอกว่ารุ่นนี้นั้นรองรับแอปพลิเคชั่นแทบทั้งหมดในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, IG, Line หรือ Twitter โดยไม่จำเป็นต้องไปเปิดในแอปให้ยุ่งยาก

 

ระบบความปลอดภัยขั้นสูง

ด้วยความที่เป็นเรือธง แน่นอนว่า realme X2 Pro ต้องมีการปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแน่นอน รองรับทั้งหมด 5 ลายนิ้วมือ โดยการทำงานถือว่ารวดเร็วมากๆ เพียง 0.23 วินาทีเท่านั้นก็ใช้งานได้ทันที แต่ก็ไม่ได้มีดีแค่เร็วเพราะมีความแม่นยำด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีระบบสแกนใบหน้าที่รวดเร็วพอๆ กับการสแกนลายนิ้วมือเลย หลังจากที่เราลงทะเบียนใบหน้าเสร็จ เพียงแค่ปลดล็อคเครื่องปุ๊บ กุญแจสัญลักษณ์ปลดล็อคหน้าจอก็ปลดให้ทันที ไม่น่าจะถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ

 

ลำโพงคู่ ชิปเสียง Dolby Atmos

realme X2 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอคู่แบบ Dolby Atmos พร้อมคุณภาพเสียง Hi-Res ที่มีการแยกลำโพงฝั่งซ้ายขวาได้อย่างชัดเจนเลยครับ ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังในการใช้งานด้วย แถมไม่ว่าจะรับชมภาพยนตร์, เล่นเกม หรือดูวิดีโอต่างๆ ก็เพิ่มอรรสรสให้เต็มอิ่มกว่าเดิมแน่นอน

 

ตรวจเวลาในการใช้งานสมาร์ทโฟนด้วยสุขภาวะดิจิตอล

สุขภาวะดิจิตอลถือเป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาให้เรารู้ว่าเราใช้งานสมาร์ทโฟนนานเท่าไหร่ ซึ่งจะแยกแต่ละแอปพลิเคชั่นให้อย่างชัดเจน รวมไปถึงจำนวนการปลดล็อคเครื่องและการแจ้งเตือนเช่นกัน และหากใครที่คิดว่าเราเล่นนานเกินไปก็สามารถจำกัดระยะเวลาของแต่ละแอปได้ทันที

 

ใช้งาน 2 บัญชีด้วยโคลนแอป

ในรุ่นนี้ก็ยังสามารถโคลนแอปพลิเคชั่นได้ด้วยเหมือนเดิมครับ เช่น หากเราต้องการใช้ Line 2 บัญชีก็สามารถโคลนเพื่อลงทะเบียนอีก 1 แอปได้เลย โดยทั้ง 2 บัญชีจะแยกกันอย่างสิ้นเชิง

 

 

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ขึ้นชื่อเป็นเรือธง realme X2 Pro ก็ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลตัวท็อปสุดในยุคนี้จาก Qualcomm อย่าง Snapdragon 855+ ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตรเท่านั้น ทั้งยังมี GPU Adreno 640 ที่เร็วกว่าเดิมถึง 5% และประมวลผลกราฟิคเร็วกว่าเดิมถึง 15% และมีชิป AI ประมวลผลได้เร็วกว่าเดิม 3 เท่า เรียกว่าหายห่วงเรื่องการใช้งานไปได้เลย แต่เท่านี้ยังไม่พอครับ เพราะยังมี RAM ถึง 12 GB ควบคู่กับ ROM 256 GB แบบ UFS 3.0 ที่อ่านข้อมูลเร็วกว่าเดิม 3 เท่ามาให้อีกต่างหาก ทำให้การโหลด, ติดตั้ง, สลับแอป และเล่นเกมทำได้ไหลลื่น แทบไม่ต้องเสียเวลารอนานๆ เลยด้วย

 

สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำคะแนนได้ไปได้ที่ 454,618

 

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 579 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,771

 

ฟีเจอร์การเล่นเกม

realme X2 Pro ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Space ที่นอกจากจะเป็นการรวบรวมเกมไว้ในที่เดียวกันแล้ว ยังสามารถปิดกั้นการแจ้งเตือน, ล็อคความสว่าง, เพิ่มความไหลลื่นในการเล่นเกม ทั้งยังสามารถปรับโหมดต่างๆ ได้ 3 แบบ ได้แก่ โหมดการแข่งขัน, โหมดสมดุล และโหมดใช้กำลังไฟต่ำ

 

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี HyperBoost 2.0 ที่ช่วย 2 เรื่องหลักๆ คือ FrameBoost ที่ปรับเฟรมเรทให้คงที่ตลอดทั้งเกม และ TouchBoost ที่เสริมประสิทธิภาพการสัมผัสให้ไหลลื่นไปตามนิ้วมากยิ่งขึ้น

 

ทดสอบการเล่นเกม

เราทดสอบ 4 เกมด้วยกันในครั้งนี้ ได้แก่ ROV, Call of duty: Mobile, PUBG Mobile และ Asphalt 9 : Legends โดยผลทดสอบที่ได้มีตามด้านล่างนี้เลย

ROV

เริ่มตั้งแต่เกม ROV ในด้านการปรับกราฟิก เราปรับสูงที่สุดทั้งหมดครับ โดยตั้งแต่เริ่มเกมมาในโหมด 5 VS 5 เฟรมเรทจะวิ่งอยู่ที่ 59-60fps ตลอดครับ ทั้งช่วงที่บวกใส่สกิลทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบครบทั้งทีมก็จะอยู่ที่ประมาณนี้ตลอด และที่สำคัญเรื่องความลื่นของการสัมผัสและการแสดงผลบนหน้าจอ Refresh Rate 90Hz ก็ทำได้ยอดเยี่ยมด้วย

 

Call of duty: Mobile

มาต่อที่เกมแนว FPS กันครับอย่าง Call of duty: Mobile โดยเราปรับทุกอย่างสูงที่สุดเหมือนเดิม และเล่นในโหมด Battle Royale 100 คน ผลที่ออกมาก็ทำได้ดีตามคาดครับ ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุกอะไรเกิดขึ้นเลย แถมการกดและการสัมผัสนี่ก็ฟินสุดๆ เพราะมันไหลลื่นมากๆ

 

ที่สำคัญเรื่องของลำโพงคู่ Dolby Atmos ก็ช่วยได้มาก ไม่จำเป็นต้องใส่หูฟัง เพราะลำโพงก็แยกซ้ายขวาให้อย่างชัดเจนอยู่แล้วครับ ต้องบอกว่าลำโพงคู่ของเขาแจ่มจริงๆ นะ

 

PUBG Mobile

อีกเกมแนวเดียวกันกับข้างบนอย่าง PUBG Mobile โดยกราฟิกเราปรับเป็น HDR HD เพราะ Ultra HD ยังไม่เปิดใช้งาน ซึ่งการเล่นในแผนที่และทรัพยากรที่เยอะกว่า Call of duty: Mobile ก็เล่นได้ไม่ต่างกันเลย ไหลลื่นสุดๆ เหมือนกัน รวมไปถึงลำโพงคู่ Dolby Atmos ที่บอกฝีเท้าและตำแหน่งของศัตรูได้ชัดเจนมากขึ้น

 

Asphalt 9 : Legends

ต่อมากับเกม Asphalt 9 : Legends เราปรับในค่าเริ่มต้น (เพราะไม่มีให้ปรับสูง) โดยการเล่นในหลายๆ รอบถือว่าทำได้ไหลลื่นทุกรอบ ไม่มีเฟรมเรทดรอปเลยสักรอบครับ แถมกราฟิกที่ได้ออกมาถือว่าสุดยอดมากๆ และด้วยหน้าจอ Refresh Rate 90Hz ก็ทำให้ทุกฉากในเกมดูไหลลื่นไปหมด

 

นอกจากนี้ เมื่อเราลองเล่นไปเกือบๆ 2 ชั่วโมง จะสังเกตว่าตัวเครื่องไม่ร้อนมากจนเกินไปครับ เพราะ realme X2 Pro มีเทคโนโลยี VC liquid cooling เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิเครื่องเวลาใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหากเครื่องไม่ร้อน ความเร็ว Clock ของ CPU ก็จะไม่ลดทอนลงไปด้วย

 

แบตอึดพร้อมชาร์จไวด้วย Super VOOC 50W

realme X2 Pro จัดเต็มเรื่องแบตเตอรี่มาให้มากๆ ถึงความจุ 4000mAh ช่วยให้ใช้งานทั่วไปได้ตลอดทั้งวันครับ แต่ใครที่เล่นเกมก็อาจจะต้องพกที่ชาร์จ Super VOOC ไปด้วย แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะนั่งรอชาร์จจนเปื่อยแน่นอน เพราะจากที่เราทดสอบนั้นจะมีเปอร์เซนต์แบบย่อยบอกให้ด้วย แถมขยับขึ้นไม่มีหยุดระหว่างชาร์จ โดยเราชาร์จจาก 4% ถึง 100% เพียง 27 นาทีเท่านั้น และคาดว่าจาก 0% – 100% น่าจะเร็วกว่าที่ realme เคลมไว้อีกครับท่าน (realme เคลมไว้ว่า 35 นาที) หรือใครที่หาปลั๊กเสียบอะแดปเตอร์ได้ก็สามารถชาร์จไปเล่นเกมไป ซึ่ง 30 นาทีจะได้ 80% ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็หายห่วงเพราะมีระบบป้องกันความปลอดภัยดีเยี่ยม

 

 

กล้องถ่ายรูป

มาถึงจุดเด่นและเป็นตัวชูโรงของ realme X2 Pro กันบ้างกับพลังกล้อง 4 เลนส์สูงสุด 64 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่มีมาให้เพียบ ซึ่งแต่ละเลนส์มีความสามารถดังนี้

  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GW1
  • เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 115 องศา ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 ซูม Optical ได้ 5 เท่า และ Hybrid ได้ 20 เท่า
  • เลนส์ Depth sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมด้วยโหมด AI ใบหน้าสวยอีกด้วย

คมชัดขั้นสุดด้วยกล้อง 64MP

ด้วยเลนส์หลักของ realme X2 Pro สามารถให้ความคมชัดได้มากสุดถึง 64 ล้านพิกเซล เก็บรายละเอียดส่วนต่างๆ ได้ชัดเจนขั้นสุดจริงๆ ตรงนี้เราสามารถซูมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ชัดเจน แถมยังนำภาพเหล่านี้ที่ถ่ายไปใช้งานเป็นป้ายใหญ่ๆ โดยที่ภาพไม่แตกด้วย

ภาพปกติ / ครอป

 

กล้อง AI อัจฉริยะ

realme X2 Pro ยังมาพร้อมกับ AI ที่สามารถแยกแยะวัตถุให้เราโดยอัตโนมัติและมีความแม่นยำสูงด้วย ใครที่คิดอะไรไม่ออก เพียงแค่เปิดกล้องแล้วกดถ่ายได้เลยครับ AI จะปรับแสงและสีให้เข้ากับวัตถุที่ถ่ายได้เอง

ถ่ายบุคคลด้วย AI ก็สวยงามไม่แพ้กันครับ

 

ไกลแค่ไหนก็คือใกล้ด้วยเลนส์ซูมสูงสุด 20 เท่า

ด้วยเลนส์ Telephoto นั้นสามารถซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า และแบบ Optical ได้ถึง 5 เท่า โดยต้องบอกว่าเลนส์นี้ช่วยให้เราถ่ายในระยะไกลได้ดีมากๆ ซึ่งการซูมไปถึง 5 เท่าก็ยังให้ความคมชัดแทบไม่ต่างจากระยะปกติ ส่วนการซูม 20 เท่า จริงๆ ก็อาจจะเสียรายละเอียดไปบ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องบอกว่าความคมชัดและการมองเห็นรายละเอียดก็ยังคงทำได้ดีอยู่ครับ

ซูมระยะ 1x, 2x, 5x และ 20x


ซูมระยะ 1x, 5x และ 20x


ซูมระยะ 1x, 5x และ 20x

 

มุมกว้างก็เก็บได้ครบด้วยเลนส์ Ultra Wide Angle

realme X2 Pro สามารถถ่ายมุมกว้าง 115 องศาด้วยเลนส์ Ultra Wide Angle ได้อย่างสบายๆ ใครที่ชอบเก็บบรรยากาศช่วงท่องเที่ยวหรือยิ่งเป็นช่วงใกล้สิ้นปีก็จะมีต้นไม้ประดับสูงๆ แต่ไม่อยากถอยออกไกลก็ต้องใช้เลนส์นี้มาช่วยครับ โดยเรื่องของรายละเอียดก็หายห่วงเพราะทำออกมาได้ดีมาก เรื่องเฉดสีความความสวยงามก็ยังเก็บมาได้ครบครันเลย ทั้งนี้ เรื่องของระบบโฟกัสก็ยังทำได้ไวเพราะใช้ระบบ PDAF ที่โฟกัสได้ดีและรวดเร็วกว่าเดิม


ปิด Ultra Wide Angle / เปิด ปิด Ultra Wide Angle


ปิด Ultra Wide Angle / เปิด ปิด Ultra Wide Angle

ด้วยเลนส์ Ultra Wide Angle ก็ยังถ่ายภาพให้กับคุณสาวๆ ได้เหมือนกันนะ ยิ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ พร๊อพเยอะๆ ก็ต้องเก็บวัตถุให้ครบครับ

 

เจาะลึกลงรายละเอียดผ่านฟีเจอร์ Macro

ถ่ายไกลไปแล้ว ถ่ายมุมกว้างไปแล้ว เรามาถ่ายใกล้ๆ กันบ้างด้วยฟีเจอร์ Macro ที่ใช้ประโยชน์ของเลนส์ Ultra Wide Angle มาช่วย ซึ่งสามารถถ่ายได้ใกล้สุดถึง 2.5 เซนติเมตรเลยทีเดียว ใครชอบถ่ายให้เห็นพวกดอกไม้ใบหญ้าหรือแมลงเล็กๆ ก็ใช้ฟีเจอร์ในการเก็บรายละเอียดได้ครับ โดยเรื่องสีสันก็ไม่มีซีดจางลงไปเลย แถมยังสดใสเหมือนเดิม

 

ถ่ายกลางคืนก็ชัดแจ๋วผ่านฟีเจอร์ Night Scape 2.0

แน่นอนว่าสเปคเรือธงขนาดนี้ realme X2 Pro ก็ต้องมาพร้อมฟีเจอร์ Night Scape 2.0 ที่ใช้ AI และฟีเจอร์ Multi-frame Synthesis เข้ามาเพื่อลด Noise ในภาพ ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อยสวยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระยะเวลาในการถือเครื่องก็เหมือนจะน้อยลงด้วยครับ ทำให้ไม่ต้องรอประมวลผลนานเกินไป

 

ถ่าย Portrait สวยคมชัด เบลอหลังได้เนียนพร้อมใบหน้าสวย

ในการถ่าย Portrait หน้าชัดหลังเบลอ เราสามารถถ่ายได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แถมยังได้เรื่อง AI Beauty เข้ามาเพิ่มด้วย ซึ่งในเรื่องของการเบลอก็มีการตัดขอบได้เนียนตามากๆ แทบไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งโดนกลืนไปกับพื้นหลังเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมหรือบริเวณคอหรือไหล่ ทั้งยังสามารถปรับความเบลอ (Bokeh) ได้ตั้งแต่ 1 – 100%

ปิด Portrait / เปิด Portrait

 

ส่วนกล้องหน้าก็สามารถปรับหน้าชัดหลังเบลอได้เช่นกันครับ

 

ใบหน้าสวยด้วยกล้องหน้า AI

ขณะที่การปรับใบหน้าสวยด้วยการใช้ AI ก็ทำได้เนียนกริบ โดยเฉพาะกล้องหน้าที่สามารถปรับโครงหน้าหรือส่วนต่างๆ ได้หลากหลายมาก เช่น ผิวเรียบ, ใบหน้าเรียว, คาง, ตาโต หรือจมูกเล็กลง เป็นต้น ซึ่งแต่ละหมวดจะปรับได้ตั้งแต่ 0 – 100 ระดับกันไปเลย หรือใครไม่ชอบปรับอะไรเลยก็ปล่อยให้ AI นั้นประมวลผลเองได้เช่นกัน

 

เพิ่มมิติในการถ่ายด้วยฟิลเตอร์หลายรูปแบบ

นอกจากฟีเจอร์แบบจัดเต็มแล้ว การถ่ายภาพด้วยฟิลเตอร์เพิ่มมิติและลูกเล่นก็ยังมีให้เหมือนเดิมครับ โดยที่กล้องหลังมีให้เลือกมากกว่า 10 แบบ หรือจะเป็นกล้องหน้าก็ได้เช่นกันที่ประมาณ 15 แบบ ซึ่งเฉดสีของกล้องหน้าและหลังจะมีความแตกต่างกันบ้างตามสไตล์เลยครับ

กล้องหน้า

กล้องหลัง

 

สรุปจุดเด่น

  • หน้าจอแสดงผลสุดลื่น Refresh Rate 90Hz พร้อมด้วยหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ใช้งานได้คมชัดและเต็มตา
  • หน่วยประมวลผลระดับเรือธงในตอนนี้อย่าง Snpadragon 855+ ควบคู่กับ RAM 12GB + ROM 256GB (UFS 3.0) ทำให้ใช้งานได้เต็มที่ ไม่มีสะดุด
  • มีกล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ทั้งยังมีเลนส์ Telephoto ซูมสูงสุด 20 เท่า และเลนส์ Ultra Wide Angle มาให้ด้วย
  • แบตเตอรี่อึด 4000mAh และยังชาร์จได้ไวสุดๆ ด้วยเทคโนโลยี Super VOOC กำลังไฟ 50W ชาร์จครึ่งชั่วโมงก็เต็ม 100%
  • มีลำโพงคู่ พร้อมชิปเสียง Dolby Atmos และรองรับ Hi-Res ทำให้ได้เสียงที่ชัดเจนและมีมิติยิ่งขึ้น

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่อง
Apple News3 นาที ago

ลือ ! Apple กำลังสร้าง ‘LLM Siri’ ในปี 2026 บน iOS 19

ตามรายงานของ Bloombe...

Android News15 ชั่วโมง ago

เช็คกัน !! OPPO เผยตารางอัปเดต ColorOS 15 บน Android 15 ทั่วโลก

ในวันนี้ OPPO ได้เปิ...

Apple News15 ชั่วโมง ago

อย่างสวย ! YouTuber โชว์ดีไซน์ iPhone 17 Air กล้องหลัง 1 เลนส์ พร้อมจอ Dynamic Island

เราได้ยินมาแค่ข่าวลื...

HUAWEI IdeaHub HUAWEI IdeaHub
IT News16 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่

หัวเว่ยเปิดตัว IdeaH...

Smart Review18 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook S 14 OLED (S5406) โน้ตบุ๊คดีไซน์มินิมอล l Intel Core Ultra 7 258V l ใช้นานสุด 27 ชม. และคีย์บอร์ดมีไฟ RGB !

รีวิว ASUS Vivobook ...

Android News19 ชั่วโมง ago

มาอีก ! หลุดสเปค vivo X200S จัดเต็มด้วยชิป Dimensity 9400 Plus และรองรับสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ...

IT News20 ชั่วโมง ago

Facebook Messenger เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ผสานรวมกับ Siri, ข้อความเสียงและวิดีโอ และอื่นๆ เพียบ

ในวันนี้ Meta ได้ทำก...

Android News21 ชั่วโมง ago

น่าสนนะ ! หลุดสเปคแท็บเล็ต OnePlus Pad Pro โมเดลใหม่ เตรียมใช้หน้าจอ 13″ คมชัดระดับ 3K

OnePlus Pad Pro เคยเ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก