IT News
กลุ่มทรู รายงานกำไรสุทธิ 5.6 พันล้านบาท ในปี 2562 ทรูมูฟ เอช โตเด่นสุดเหนืออุตสาหกรรมต่อเนื่อง
กลุ่มทรู รายงานกำไรสุทธิ 5.6 พันล้านบาท ในปี 2562 ทรูมูฟ เอช โตเด่นสุดเหนืออุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำ 5G และบริการด้านดิจิทัลครบวงจร เสริมความแข็งแกร่งจากการชนะประมูลคลื่นที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดทั้ง 2600MHz และ 26GHz
กลุ่มทรู รายงานผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ผลักดันกำไรสุทธิปี 2562เป็น 5.6 พันล้านบาท โดยกำไรจากการดำเนินงานซึ่งไม่รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) เติบโตเป็น 4.7 พันล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนประมาณ 1.0 พันล้านบาทในปีก่อน ผลประกอบการที่เติบโตสูงขึ้นนี้มาจากรายได้ของทรูมูฟ เอช ที่เพิ่มสูงเหนืออุตสาหกรรม ที่ร้อยละ 6.7 จากปีก่อน ด้วยฐานผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.4 ล้านรายในปี 2562 พร้อมเดินหน้านำคลื่นความถี่ใหม่ที่ประมูลได้มาอย่างคุ้มค่าตามแผนที่วางไว้ทั้งคลื่นย่าน 2600MHz และ 26GHz มาเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มทรูในฐานะผู้นำเครือข่ายที่ดีที่สุด โดยปัจจุบัน ทรูเป็นโอเปอเรเตอร์ที่มีคลื่นครบมากสุดในอุตสาหกรรม และครอบคลุมถึง 7 ย่านความถี่ ผนวกกับการมีพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลก รวมถึงระบบนิเวศด้านดิจิทัลของกลุ่มทรูที่ครอบคลุมและครบครัน จะสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยในยุคปัจจุบันได้โดดเด่นและเหนือกว่า ทั้งนี้ ทรูเดินหน้าสู่การจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล 3.0 พันล้านบาท คิดเป็น 0.09 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “ผลประกอบการและกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มทรูในปี 2562 เป็นผลมาจากรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในไตรมาส 4 ปี 2562 รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูเติบโตแข็งแกร่งร้อยละ 11.3 จากปีก่อนและร้อยละ 3.0 จากไตรมาสก่อน อีกทั้งธุรกิจบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตยังคงเติบโตแม้การแข่งขันยังคงอยู่ในระดับที่สูง อันเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการเพิ่มคุณภาพและประสบการณ์ในการใช้บริการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการอัปเกรดความเร็วและเทคโนโลยี รวมถึงอุปกรณ์ล้ำสมัย ในขณะที่ คอนเทนต์คุณภาพสูงและเอ็กซ์คลูซีฟของทรูวิชั่นส์สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของกลุ่มทรูได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระบบนิเวศและบริการด้านดิจิทัลที่ครบครันของทรูดิจิทัลกรุ๊ปเป็นจุดแข็งและกุญแจสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มทรู โดยเฉพาะแพลตฟอร์มดิจิทัลและสิทธิประโยชน์ของกลุ่ม พร้อมสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งรายได้จากการสมัครรับชมคอนเทนต์และการโฆษณาผ่านช่องทางดิจิทัล อีกทั้งการใช้ big data หรือการวิเคราะห์ข้อมูล (analytics) ทำให้กลุ่มทรูเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ ร่วมกับ กลยุทธ์ทางการตลาดแบบจุลภาคเจาะจงแต่ละพื้นที่และกลุ่มลูกค้า รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและเข้มแข็งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตและสร้างรากฐานทางการเงินของกลุ่มทรูให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป”
นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีที่กลุ่มทรูมีผลการดำเนินงานและตัวเลขทางการเงินที่ดีขึ้น โดยมีฐานลูกค้าที่เติบโตสูงทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต รวมถึงกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2562 อันเป็นผลจากการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก โดยกลุ่มทรูได้วางรากฐานด้านเครือข่ายคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาตลอด ทั้ง FTTx และ 4G พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี 5G รวมถึงบริการและแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครบครัน ทั้งนี้ การได้คลื่นความถี่ย่าน 2600MHz และ 26GHz จากการประมูลคลื่น 5G ครั้งนี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งทำให้กลุ่มทรูได้ “คลื่นที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุด” มาเสริมกระบวนทัพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายด้วยจุดเด่นทั้งเรื่องความครบครันและครอบคลุมของคลื่นความถี่ โดยทรูเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวที่มีคลื่นครบถึง 7 ย่านความถี่ โดยมีคลื่นย่านความถี่ต่ำที่หลากหลายและมีแบนด์วิธมากที่สุด ทั้ง คลื่น 700 MHz, 850 MHz และ 900 MHz รวมทั้งยังมีคลื่นย่านความถี่กลางทั้ง 1800MHz, 2100 MHz, 2600 MHz และคลื่นย่านความถี่สูง 26 GHz ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ผสานกับความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญอย่างไชน่า โมบายล์ โอเปอเรเตอร์รายใหญ่สุดในโลก ที่มีลูกค้าใช้บริการ 5G คลื่น 2600 MHz มากที่สุดในโลก พร้อมสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ ความชำนาญ การออกแบบโครงข่าย ตลอดจนการจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ นับเป็นตัวแปรสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันให้กับกลุ่มทรู นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังมีความพร้อมด้านระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมและครบวงจรที่สามารถนำมาต่อยอด เดินหน้าเป็นผู้นำที่เติมเต็มบริการ 5G และตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ทรูมูฟ เอช เติบโตเหนืออุตสาหกรรมทั้งในด้านรายได้และฐานผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาส 4 และร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 7.77 หมื่นล้านบาทในปี 2562 นับเป็นการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรมติดต่อกันเป็นปีที่เจ็ด โดยการเติบโตแข็งแกร่งนี้เป็นผลหลักมาจากรายได้ระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลัก ผลตอบรับที่ดีต่อแคมเปญที่ผสานกับดีไวซ์ โดยเฉพาะรุ่นที่เอ็กซ์คลูซีฟกับทรูมูฟ เอช รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผสานเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกัน ทรูมูฟ เอช มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุดมากขึ้นด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดแบบจุลภาค ส่งผลให้เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงรายเดียวที่มีฐานผู้ใช้บริการระบบเติมเงินเพิ่มขึ้นสุทธิในระหว่างปี ทำให้มีรายได้จากบริการระบบเติมเงินเพิ่มขึ้นแม้สภาวะการแข่งขันยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ในปี 2562 ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิประมาณ 1.4 ล้านราย ส่งผลให้ฐานลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 30.6 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบรายเดือน 8.3 ล้านรายและลูกค้าระบบเติมเงิน 22.3 ล้านราย ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของทรูมูฟ เอช ในการเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยให้กับผู้บริโภค แพลตฟอร์มดิจิทัลและสิทธิประโยชน์ การวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ทรูมูฟ เอช เติบโตอย่างยั่งยืน ในยุค 5G ที่กำลังจะมาถึง
ทรูออนไลน์ เสริมความแข็งแกร่งให้กับความเป็นผู้นำบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต มุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพและประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในระดับกิกกะบิต หรือ 1Gbps ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยี Gigatex Fiber Router และโซลูชั่น Premium Mesh WiFi รวมถึงแคมเปญร่วมกับกล่อง TrueID TV ที่นำเสนอพรีเมียมคอนเทนต์และบริการแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายของผู้บริโภคได้ตรงใจ ส่งผลให้ทรูออนไลน์ มีจำนวนผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิสูงที่สุดในอุตสาหกรรมหรือเพิ่มขึ้นสุทธิกว่า 320,000 ราย ผลักดันให้ฐานลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 ล้านรายและรายได้บรอดแบนด์เติบโตเป็น 2.59 หมื่นล้านบาทในปี 2562 หนุนโดยรายได้ในไตรมาส 4 ที่เติบโตสูงขึ้นในอัตราร้อยละ 5.2 จากปีก่อน แม้ในอุตสาหกรรมมีการแข่งขันด้วยการให้ส่วนลดเพื่อดึงจูงใจลูกค้า ทั้งนี้ ทรูออนไลน์จะเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับความเป็นผู้นำทั้งด้านความเร็วและเทคโนโลยีนวัตกรรม รวมถึงการนำเสนอแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม อันจะเป็นปัจจัยที่สร้างการเติบโตด้วยการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ร่วมกับบริการอื่นภายใต้กลุ่มทรู
ทรูวิชั่นส์ มุ่งนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพชั้นนำและเอ็กซ์คลูซีฟหลากหลาย โดยเฉพาะลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแพลตฟอร์มและบริการอื่น ๆ ของกลุ่มทรู พร้อมตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้งานผ่านช่องทางออนดีมานด์ ช่องทางออนไลน์และช่องทางดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ภายใต้กลุ่มทรู ในขณะเดียวกัน การเติบโตของธุรกิจเกมออนไลน์และเครือข่าย Influencer ภายใต้ชื่อ ออนไลน์ สเตชั่น ของทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป เริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ทั้งด้านรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการขยายฐานลูกค้าให้กับกลุ่มทรูผ่านการทำการตลาดที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในปี 2562 ทรูวิชั่นส์มีฐานลูกค้ารวมประมาณ 4 ล้านรายและมีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท
ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจและการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบบริการด้านดิจิทัลคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้า นับเป็นจุดแข็งและสร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มทรู โดยแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง TrueID ได้รับการตอบรับอย่างสูงและมีฐานผู้ใช้บริการต่อเดือนที่เติบโตกว่าสองเท่าจากปีก่อนเป็น 24.6 ล้านราย อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในปัจจุบัน อาทิ การแชทและการโทรหากันผ่านแอปพลิเคชั่น ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ จำนวนการสมัครดูคอนเทนต์ทรูไอดีเติบโตแข็งแกร่งกว่าร้อยละ 56 จากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ กล่องทรูไอดี ทีวี มียอดขายกว่า 5 แสนกล่อง ณ สิ้นปี หลังจากเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2562 ขณะที่ระบบสิทธิประโยชน์และสะสมแต้มทรูพอยท์สำหรับลูกค้าทรู ภายใต้ทรูยู ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าและสร้างฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ยังได้เปิดตัวบัตร ทรู ดิจิทัล การ์ด (True Digital Card) บัตรมาสเตอร์การ์ดแบบเติมเงิน เพิ่มความสะดวก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัล พร้อมรับทรูพอยท์เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมาย โดย ณ สิ้นปี 2562 ได้มีลูกค้าเปิดใช้งาน ทรู ดิจิทัล การ์ด แล้วกว่า 250,000 ใบ กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น มุ่งมั่นพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเพิ่มจำนวนอุปกรณ์เซ็นเซอร์ IoT ที่เชื่อมต่อและใช้บริการได้กว่า 237,000 อุปกรณ์ คิดเป็นการเติบโตกว่าร้อยละ 50 จากปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่นได้พัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความท้าทายแบบครบวงจรในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมภาคการเกษตร (Agriculture) อุตสาหกรรมภาคการค้าปลีก (Retails) อุตสาหกรรมภาคการผลิต (Manufacturing) อุตสาหกรรมด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) อุตสาหกรรมคมนาคมขนส่ง (Logistics) และอุตสาหกรรมภาคสุขภาพและสาธารณสุข (Healthcare)