Android News
จัดเต็มเรื่องกล้อง OPPO Reno3 Pro สมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่คมชัดสูงสุด 44MP เครื่องแรกของโลก พร้อมดีไซน์ที่งดงามจับใจ
เชื่อได้เลยว่าผู้ที่เลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องวันนี้ ต้องเน้นในเรื่องของกล้องที่ต้องถ่ายสวยทุกช็อต เซลฟี่งามๆ มีฟีเจอร์ครบครัน แล้วสเปคก็ต้องใช้งานได้แบบไหลลื่นคุ้มค่าคุ้มราคา ซึ่งรุ่นที่มีครบหมดในตอนนี้คงไม่พ้น OPPO Reno3 Pro ที่ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่มีกล้องหน้าคู่สวยชัด 44 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับสโลแกน “Clear in Every Shot” ใครที่เป็นสายชอบถ่ายรูปหรือต้องการสมาร์ทโฟนที่มีกล้องสวยๆ ถ่ายแล้วจบในคลิกเดียว แค่เครื่องนี้เครื่องเดียวนี้ก็เกินคุ้มแล้วครับ แต่พูดแบบนี้คงยังไม่เห็นภาพกันแน่นอน
สำหรับ OPPO Reno3 Pro เรียกว่าใช้ดีไซน์ที่แปลกตาจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นพอสมควรเพราะมาพร้อมกล้องหน้าคู่ (Dual Punch-hole Camera) และถือเป็นครั้งแรกของโลกที่มีสมาร์ทโฟนกล้องหน้าชัดสูงสุดถึง 44 ล้านพิกเซล แถมเป็นกล้องคู่ด้วย
เมื่อพูดถึงกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูงที่สุดในโลกไปแล้ว เรามาเจาะลึกกันเพิ่มเติมดีกว่าครับ โดยเลนส์แรกในกล้องหน้าเป็นเลนส์หลัก Ultra-clear Main Camera ความคมชัดสูง 44 ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้รายละเอียดในภาพนั้นมีความละเอียดที่สูงและคมชัดกว่าที่เป็นมา + เลนส์ Depth of Field Lens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เพื่อเข้ามาช่วยวิเคราะห์ระดับความชัดลึกและชัดตื้นของภาพถ่ายให้ดูมีมิติมากขึ้น ไม่ได้ดูลอยเมื่อได้ภาพออกมา
ครั้งแรกของโลกกับสมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูง 44MP
พูดถึงสเปคไปคงไม่เห็นภาพกันแน่นอนครับ โดยกล้องหน้า 44 ล้านพิกเซลของ OPPO Reno3 Pro นั้นทำออกมาได้เป็นอย่างดี มีความคมชัดสูง ขณะเดียวกันเรื่องความสวยงามแบบธรรมชาติด้วย AI ก็ยังคงมีให้มาครบทั้งหมดครับ
สวยจัดเต็มไร้กังวลด้วย AI Beauty
นอกจากเรื่องความละเอียดสูง 44MP แล้ว เรื่องของสมาร์ทโฟนที่เซลฟี่ได้สวยซึ่งเป็นจุดเด่นของ OPPO มานาน โดยในรุ่นนี้มีเทคโนโลยี AI Beauty ที่ปรับแต่งความเนียนของใบหน้าให้ดูสวยเนียนขึ้นอย่างชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกินเบอร์เท่าไหร่ ซึ่งเราสามารถปรับเองได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ รวมถึงการปรับโครงหน้า, ตาโต, จมูกเล็ก, คาง และอื่นๆ ให้เพียบตามใจชอบเลย
AI Beauty ระดับอัตโนมัติ
AI Beauty ระดับอัตโนมัติ
AI Beauty ระดับอัตโนมัติ
AI Beauty ระดับอัตโนมัติ
เซลฟี่ที่มืดก็ไม่ต้องกลัวเพราะมี Ultra Night Selfie Mode
ที่สำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ OPPO Reno3 Pro นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อม Ultra Night Selfie Mode หรือการใช้งานโหมดกลางคืนที่กล้องหน้า ช่วยให้ใบหน้าของเราดูสว่างมากขึ้นชัดเจนเมื่ออยู่ในสภาวะแสงน้อยหรือในตอนกลางคืนครับ แถมความสวยงาม ความบิวตี้ก็ยังจัดให้มาแบบเต็มๆ เรียกว่าได้ทั้งใบหน้าสว่าง คมชัด และผิวเนียนๆ ครบเลยครับ
เลนส์ที่ 2 เซลฟี่ให้สวยดูมีมิติด้วย Depth of Field
เราพูดถึงฟีเจอร์หลักๆ ของกล้องหน้าด้วยเลนส์หลัก 44 ล้านพิกเซลไปแล้ว อีกเลนส์หนึ่งที่เข้าเพิ่มความสำคัญ คือ เลนส์ Depth of Field ช่วยในการตรวจจับความตื้นลึกของวัตถุ ทำให้การถ่ายโหมดโบเก้ที่กล้องหน้าทำให้ดูมีมิติมากขึ้นอย่างชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติมาก เพราะการเบลอหลังจะไล่ระดับไปเรื่อยๆ จากเบลอน้อยที่ระยะใกล้ไปยังเบลอมากขึ้นเมื่อวัตถุยิ่งอยู่ไกล หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการไล่เลเยอร์ให้เนียนๆ นั่นเองครับ
กล้องหลังก็จัดเต็ม 4 เลนส์ 64MP
เราเคลียร์เรื่องกล้องหน้าคู่ Dual Punch-hole Camera ของ OPPO Reno3 Pro กันไปแล้ว ในส่วนของกล้องหลังก็จัดเต็มไม่แพ้กัน มีให้ทั้งหมด 4 เลนส์ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ทั้งยังประกอบกับอีก 3 เลนส์ ได้แก่ เลนส์ Ultra Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถซูม 5x Hybrid Zoom, 20x Digital Zoom + เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
คมชัดอีกขั้นด้วย Ultra Clear 108MP Image
ไม่ใช่ความละเอียด 64 ล้านพิกเซลที่ทำได้เท่านั้น แต่ OPPO Reno3 Pro ยังทำงานร่วมกับซอฟตแวร์ให้มีภาพถ่ายความละเอียดสูงสุดถึง 108 ล้านพิกเซล ใครที่ชอบทำภาพโปสเตอร์หรือภาพงานขนาดใหญ่จะต้องได้ใช้ฟีเจอร์นี้แน่นอน เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในภาพ ยังคงมีความคมชัดอยู่ครับ
Ultra-wide Angle ยังไงก็เก็บได้ครบ
เลนส์ที่เพิ่มความสามารถให้ OPPO Reno3 Pro ครบองค์ประกอบ คือ เลนส์การถ่ายมุมกว้างแบบพิเศษหรือ Ultra-wide Angle ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม เห็นได้ครบทุกมุม เก็บได้ทุกรายละเอียด แถมยังถ่ายได้สวยงามไม่ต่างจากกล้องตัวหลัก ใครที่ชอบถ่ายวิวถ่ายบรรยากาศเวลาออกเดินทาง ไปเที่ยวต่างๆ เพียงแต่หยิบ OPPO Reno3 Pro ขึ้นมาก็ได้ภาพสวยๆ ไปใช้แชร์กันต่อได้เลย
ดีไซน์สวยงาม บอกถึงความเป็นธรรมชาติ
ดีไซน์สีของฝาหลังของ OPPO Reno3 Pro ก็ยังจัดเต็มเรื่องความเงางามอย่างพิถีพิถันในการออกแบบจนออกมาเป็น 3 เฉดสี ได้แก่ Auroral Blue, Midnight Black และ Sky White Limited Edition มีการสะท้อนแสงและสีทุกมุมที่เกิดการเคลื่อนไหว ซึ่งแต่ละสีได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในช่วงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Auroral Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้าคล้ายแสงเหนือ, Midnight Black เปรียบดั่งท้องฟ้ายามค่ำคืน และ Sky White Limited Edition ที่มาจากท้องฟ้ายามเช้าที่ดูแล้วละมุนสุดๆ
สเปคจัดเต็มใช้งานต้องไม่กลัวสะดุด
เหนือสิ่งอื่นใดใน OPPO Reno3 Pro ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลตัวแรงจาก MediaTek อย่าง Helio P95 ที่ชูโรงเรื่องเทคโนโลยี AI และการจัดสรรทรัพยากรภายในเครื่องเป็นหลัก ทั้งยังให้ RAM มาถึง 8GB หน่วยความจำภายใน 256GB ทำให้การใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหลายแอปพลิเคชั่นพร้อมกัน การถ่ายภาพ รวมไปถึงการเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ก็ทำได้อย่างไร้ปัญหาครับ และที่ขาดไปไม่ได้ เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น OPPO เทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วอย่าง 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่ให้กำลังไฟถึง 30W สามารถชาร์จเพียง 20 นาที ได้แบตเตอรี่มากถึง 50% และยังมีชิปความปลอดภัยถึง 5 ชั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าชาร์จเร็วแล้วไม่ปลอดภัยด้วย
ราคาและโปรโมชั่น
สำหรับ OPPO Reno3 Pro วางจำหน่ายในราคา 18,990 บาท เริ่มเปิด Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 1 – 7 พฤษภาคมนี้ และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป โดยมาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษในการพรีออเดอร์ รับฟรี! กระเป๋า OPPO Backpack 1 ใบ และรับประกันหน้าจอแตก OPPO E-VIP Service ระยะเวลา 1 ปี รวมมูลค่าของแถมทั้งหมด 7,990 บาท (สิทธิ์ไปพร้อมกับตัวเครื่องไม่มีบัตรแยก) ส่วนโปรโปรชั่นต่างๆ เมื่อ Pre-Order ผ่านผู้ให้บริการทั้ง TrueMove H, DTAC หรือ AIS จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 10,000 บาท
คู่หูตัวจิ๋วกับหูฟัง True Wireless อย่าง OPPO Enco W31
นอกจากจะมีสมาร์ทโฟนอย่าง OPPO Reno3 Pro แล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ได้แบบเข้ากันสุดๆ อย่าง OPPO Enco W31 หูฟัง True Wireless รุ่นใหม่จาก OPPO ด้วยเหมือนกัน เรียกว่ามาแบบแพ็คคู่ไปเลย
ตัวเคสของ OPPO Enco W31 มารูปแบบทรงกลม ดูเผินๆ จะคล้ายกับตลับแป้งสีขาวสวยงาม น้ำหนักเบา เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับตัวหูฟัง Enco W31 โดยในการเชื่อมต่อครั้งแรกก็ทำได้ง่ายๆ เมื่อเราเปิดบลูทูธก็ให้เลือกชื่อ “OPPO Enco W31” ก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ ส่วนครั้งต่อไปก็จะเชื่อมให้อัตโนมัติเมื่อเปิดเคสทันที ซึ่งการเชื่อมต่อถือว่ารวดเร็วและเสถียรมากเพราะรองรับการ Bluetooth 5.0
การควบคุมต่างๆ
- กดฝั่งซ้าย 2 ครั้ง : เปลี่ยนโหมดเสียง
- กดฝั่งขวา 2 ครั้ง : เล่นหรือหยุดเพลง
- เพลงจะหยุดหรือเล่นต่อเมื่อถอดหรือใส่กลับเข้าไปใหม่
สำหรับโหมดเสียงที่กด 2 ครั้งที่ฝั่งซ้ายจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ โหมดสมดุลเพื่อเน้นเสียงแบบไม่หนักมาก และโหมดไดนามิกเพื่อเน้นจังหวะหรือเบส
ในเรื่องประการณ์การใช้งานทั่วไปทั้งฟังเพลงและเล่นเกมถือว่าทำได้ดีมากแน่นอน มีการแยกฝั่งซ้าย-ขวาอย่างชัดเจน ใครที่ฟังเพลงเปิดอยากให้ลองเปิดโหมดไดนามิกดูเพราะเบสค่อนข้างหนักและแน่นเลยทีเดียว ส่วนใครที่ใช้เล่นเกมก็ได้เหมือนกันเพราะภาพและเสียงนั้นค่อนข้างตรงกันครับ นอกจากการฟังเพลงแล้วในการคุยโทรศัพท์ก็ยังมีเทคโนโลยี Dual-Microphone Beamforming และไมโครโฟนคู่เพื่อให้เสียงที่ออกไปยังอีกฝั่งชัดเจนและสมจริงยิ่งขึ้น เพราะมีการตัดเสียงรบกวนออกไป ไม่ว่าจะเป็นลมหรือเสียงผู้คนรอบข้างครับ
นอกจากนี้ OPPO Enco W31 ยังมีมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 จะใช้ออกกำลังกายหรือโดนน้ำนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวล
OPPO Reno3 Pro ราคา 18,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และโปรโมชั่นพิเศษหากซื้อร่วมแพ็กเกจของผู้ให้บริการเครือข่ายรับทันทีส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท และสำหรับหูฟังไร้สาย OPPO Enco W31 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 1,999 บาท