Smart Review
รีวิว Xiaomi Mi Air Purifier Pro H กรองฝุ่นและจำกัดสารพิษ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 72 ตร.ม.
รีวิว Xiaomi Mi Air Purifier Pro H เครื่องฟอกอากาศใหม่ล่าสุดที่สร้างอากาศบริสุทธิ์ได้ครอบคลุมพื้นที่ถึง 72 ตารางเมตร กำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ กลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายได้อย่างรวดเร็ว
สรุปข้อมูลและสเปค Xiaomi Mi Air Purifier Pro H
- ขนาดตัวเครื่อง 31 x 31 x 73.8 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 9.6 กิโลกรัม
- รองรับ Wi-Fi b/g/n
- ใช้งานกับห้องขนาดใหญ่ถึง 72 ตารางเมตร
- ผลิตอากาศบริสุทธิ์ 600 ลบ.ม./ชั่วโมง
- ไส้กรองใหญ่ขึ้น ใช้งานได้ถึง 14 เดือน
- กรองอากาศ 360 องศา ด้วยไส้กรองถึง 3 ชั้น คือ 1.Cloth Primary Filter 2.HEPA H13 Filter 3.Activated Carbon Filter ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ไมครอน ได้มากถึง 99.99% และ PM 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97%
- สามารถกำจัดไรฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรีย
- สามารถกรองก๊าซอันตราย สารฟอร์มาลดีไฮด์ (TVOC) เปลี่ยนเป็นอากาศบริสุทธิ์ได้ 220 ลบ.ม./ชั่วโมง
- หน้าจอ OLED ใหม่ ระบบสัมผัส สำหรับปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งาน และตรวจสอบ AQI แบบเรียลไทม์
- ใช้งานโหมด Auto/Sleep/Favorite และยังสามารถปรับแรงดูดอากาศได้ 3 ระดับ
- โหมด Kids Lock เพื่อป้องกันเด็กมากดตัวเครื่อง
- ใช้งานผ่านแอพ Mi Home (ภาษาไทย)
- เครื่องทำงานเสียงเบาสุดเพียง 34.1 dB(A)
- มอเตอร์ DC Brushless ใหม่ แบบไร้แปรงถ่าน พร้อมกับใบพัดแบบแรงเหวี่ยงหมุนกลับที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
แพ็กเกจกล่องที่บรรจุ Xiaomi Mi Air Purifier Pro H ดูดีมากๆ ถ้าใครใช้รุ่น Purifier 2s และ 3 จะพบว่าตัวเครื่องใหญ่กว่าชัดเจนเลย โดยอุปกรณ์ภายในกล่อง ประกอบไปด้วย
- เครื่องฟอกอากาศ (Xiaomi Air Purifier Pro H)
- ไส้กรอง (Standard Filter)
- สายไฟ
- คู่มือการใช้งาน
ด้านการดีไซน์ของ Mi Air Purifier Pro H ยังคงดูเรียบๆ ด้วยโทนสีขาว ไม่ว่าจะวางไว้มุมไหนของห้องก็ดูสะอาดตา ซึ่งวัสดุภายนอกจะเป็น ABS ป้องกันรังสี UV รอบตัวเครื่อง
ด้านหน้าจะมีหน้าจอแสดงผลและเป็นแผงหน้าจอ OLED ใหม่ รองรับระบบสัมผัส สำหรับปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งาน และตรวจสอบ AQI แบบเรียลไทม์
ด้านหลังสามารถเปิดฝาเพื่อเปลี่ยนไส้กรองได้ด้วยตนเอง
สำหรับใส่กรองของรุ่นนี้มีด้วยกัน 3 ชั้น ประกอลด้วย Cloth Primary Filter, HEPA H13 Filter และ Activated Carbon Filter ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ไมครอน ได้มากถึง 99.99% และ PM 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97% หมดกังวลเรื่องฝุ่นขนาดเล็กไปได้เลย
ถ้าใครเคยใช้ Mi Air Purifier จะเห็นว่าไส้กรองตัวใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งตามสเปคเขาบอกว่าใช้ได้นานถึง 14 เดือน ก็ต้องใช้งานกันไปยาวๆ ว่าจะได้ตามที่เขาบอกหรือไม่ ซึ่งปริมาณฝุ่นก็มีผลต่ออายุการใช้งานเช่นกัน
ด้านบนตรงนี้จะเป็นที่ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ที่ผ่านการกรองและฆ่าเชื่อโรคเรียบร้อยแล้ว
Mi Air Purifier Pro H รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Mi Home เพื่อควบคุมการสั่งงานได้จากสมาร์ทโฟน
การแสดงผลค่าอากาศบนหน้าจอของตัวเครื่อง Mi Air Purifier Pro H จะสัมพันธ์กับข้อมูลบนแอปพลิเคชั่น และเลือกโหมดการทำงานได้ผ่านตัวแอป ไม่ว่าจะเป็น โหมดที่ชอบ โหมดขณะนอนหลับ โหมดออโต้ โหมดเบา โหมดกลาง และโหมดระดับสูง
ลองเปิดโหมดออโต้ และทดสอบใช้แป้งฝุ่นเพื่อจับเวลาการทำงานของเครื่องกรองว่าจะผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้รวดเร็วขนาดไหน โดยเริ่มจากค่าฝุ่น 285 ซึ่งฝุ่นระดับนี้คงไม่มีใครใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างแน่นอน
ผ่านไปไม่ถึงนาที ค่าฝุ่นลดลงมาที่ 35 ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ ซึ่งถือว่าอากาศบริสุทธิ์เป็นสีเขียวแล้ว
ผ่านไปนาทีกว่าๆ ตัวเลขอยู่ที่ 1 และเป็นสีเขียว ซึ่งถือว่าระบบการกรองทำได้รวดเร็วมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการทดสอบในพื้นที่เล็กๆ ใกล้เครื่องกรองเท่านั้น หากสถานการณ์จริงที่มีฝุ่นทั่วทั้งห้องก็อาจจะใช้งานมากกว่านี้เนื่องจากพื้นที่กว้างมากกว่านั่นเอง
อีกหนึ่งความประทับของตัวกรองรุ่นนี้คือ โหมดขณะนอนหลับ ต้องบอกเลยว่าให้เสียงที่เงียบมากๆ แทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานเลย ซึ่งโหมดนี้หลายคนน่าจะชื่นชอบกันอย่างแน่นอนหากใช้งานในห้องนอน
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องกรองอากาศ Mi Air Purifier Pro H ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เหมาะกับห้องที่มีขนาดใหญ่ หรือขนาดย่อมๆ ก็จะได้อากาศที่บริสุทธิ์เร็วขึ้น ใช้งานง่ายทั้งการกดสั่งงานบนหน้าจอตัวเครื่องและควบคุมผ่านแอป Mi Home
Mi Air Purifier Pro H วางจำหน่ายแล้วในราคา 8,990 บาท คลิกเพื่อสั่งซื้อได้เลย http://bit.ly/3oPDDO3