Smart Review
รีวิว HUAWEI Mate 40 Pro ชิปเซ็ต 5G SoC 5nm และกล้อง Leica 50 ล้าน
รีวิว HUAWEI Mate 40 Pro สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมชิปเซ็ต 5G SoC ขนาด 5nm และกล้องถ่ายรูปทั้งภาพนิ่งและวิดีโอระดับโปรด้วยเลนส์ที่พัฒนาร่วมกับ Leica ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล
สรุปข้อมูลและสเปค HUAWEI Mate 40 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 162.9 × 75.5 × 9.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 212 กรัม
- หน้าจอแสดงผลชนิด OLED กว้าง 6.76 นิ้ว ความละเอียด 1344 x 2772 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 90Hz
- หน่วยประมวลผล : Kirin 9000 5G SoC ขนาด 5nm
- GPU : Mali-G78
- RAM 8 GB
- ROM 256 GB รองรับ SD NMCard สูงสุด 256GB
- ระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 11 (HMS)
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์
- เลนส์หลัก Ultra Vision ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
- เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4 รองรับ 5x Optical Zoom
- กล้องหน้า 2 เลนส์
- เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ 3D Depth Sensing
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ซิม สลับซิมหลักได้เพื่อใช้งาน 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4400 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W, Wireless HUAWEI SuperCharge 50W, Reverse Wireless Charging
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
HUAWEI Mate 40 Pro มาในกล่องสีขาวเรียบๆ และมีชื่อรุ่นอยู่บนฝากล่อง โดยอุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง ประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง HUAWEI Mate 40 Pro
- เคสใส
- อะแดปเตอร์ SuperCharge 66W
- หูฟัง
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ด้านการดีไซน์ HUAWEI Mate 40 Pro ที่แปลกตาไปจากเดิมอยู่ที่กล้องหลังมาพร้อมดีไซน์แบบวงแหวนหรือ Space Ring Design อยู่บริเวณกลางเครื่อง
โมดูลของกล้องหลังจะนูนขึ้นมาเหลือฝาหลังเล็กน้อยและดูสวยงามด้วยโทนสีดำมันเงา และมีการจัดวางกล้องแบบสมมาตรไว้ในวงแหวน พร้อมแฟลชแบบ Dual LED (Dual Tone) ในขณะที่ตรงกลางก็จะมีข้อความคำว่า Leica
ฝาหลังมีความโค้งแบบ 3D ทั้ง 4 ด้าน ทำให้ตัวเครื่องดูสวยหรู อีกทั้งยังช่วยให้เวลาจับใช้งานกระชับมือและจับสบายด้วย โดยสีที่ใช้รีวิวในครั้งเป็นสี Black
หน้าจอแสดงผลเป็นดีไซน์แบบของโค้ง Horizon Display ทำให้ขอบด้านหน้าเหลือขอบที่บางมากๆ และมีกล้องหน้าคู่ติดตั้งไว้ที่มุมซ้ายบน ทำให้ด้านหน้าเห็นจอแสดงผลได้แบบเต็มตา
ขอบจอที่โค้งของรุ่นนี้ทำมุม 88 องศา เมื่อมองหน้าจอตรงๆ จากด้านหน้าแทบมองไม่เห็นขอบจอด้านข้างเลย
ขอบด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพง, ไมโครโฟน และอินฟราเรด
ขอบด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C, ลำโพง, ไมโครโฟน และถาดใส่ซิม
สำหรับถาดใส่ซิมเป็นแบบ 2 Nano SIM เลือกใส่ NMCard แทนในช่องซิม 2 ได้
ขอบด้านขวามีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง
ตัวเครื่อง Mate 40 Pro สามารถกันน้ำกระเด็นใส่หรือฝนตกได้ตามมาตรฐาน IP68
หน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 6.76 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรช 90Hz ทำให้เวลาเลื่อนหน้าจอมีความลื่นไหลและดูสบายมากมากขึ้น อีกทั้งหน้าจอยังมีความกว้างกว่า P40 Pro ด้วย
อัตรารีเฟรชสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ระหว่าง 60Hz และ 90Hz หรือจะเลือกแบบ Dyniamic ปรับตามการแสดงผลคอนเทนท์ก็ได้เช่นกัน สำหรับการเล่นเกมหรือการใช้งานที่ต้องการความไวก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเพราะว่ารุ่นนี้มีความไวต่อการสัมผัส 240Hz
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
HUAWEI Mate 40 Pro มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 11 ใช้บริการด้วย HMS ซึ่งจะไม่มี Google Services ติดตั้งมาในตัวเครื่อง
การดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ สามารถทำได้ผ่าน HUAWEI AppGallery ซึ่งตอนนี้ก็มีแอปยอดนิยมให้ใช้งานได้เกือบครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอปโซเชียบ เกม และแอปธนาคารต่างๆ ในไทย อีกหนึ่งความสะดวกในการค้นหาแอปพลิเคชั่นเพื่อติดตั้งบนตัวเครื่องที่ได้ง่ายมากขึ้นโดยค้นหาจาก Petal Search ที่จะแนะนำแหล่งดาวน์โหลดอื่นๆ ให้ด้วย
ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 5G ได้ทันที โดยสามารถสลับช่องซิมใดก็ได้เป็นซิมหลักเพื่อการใช้งานบนเครือข่าย 5G และอีกซิมจะสแตนด์บายบนเครือข่าย 4G LTE นอกจากนี้ก็รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC
หน้าจอหลักมีระบบธีม วอลเปเปอร์ให้เลือกเปลี่ยนได้ และในหน้าจอล็อกก็จะมี Magazin Unlock เปลี่ยนการแสดงภาพต่างๆ ทุกครั้งที่มีการกดเปิดหน้าจอ
สามารถเลือกใช้งานฟีเจอร์แสดงเสมอ (Always On Display) สำหรับแสดงข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอก็สามารถดูได้เลย เช่น วันที่ เวลา และการแจ้งเตือนสำหรับการโทรหรือข้อความ
หน้าจอของ Mate 40 Pro สามารถเลือกโหมดสีได้ 2 โหมด คือ ปกติ และสดใส ในขณะที่อุณหภูมิสีหน้าจอก็เลือกปรับได้เช่นกัน เช่น ปรับเป็นโทนสีอุ่นเพื่อให้ดูสบายตาเวลาใช้งานในที่มืด เป็นต้น
โหมดสบายตา เป็นโหมดสำหรับกรองสีฟ้าเพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับการเลือกใช้งานโหมดอุณหภูมิสีอุ่นนั่นเอง หน้าจอก็จะแสดงเป็นโทนสีเหลืองส้ม ปรับระดับความเข้มของโทนสีได้ และสำหรับการใช้งานกลางคืนสามารถเลือกเปิดโหมดมืด (Dark Mode) เพื่อเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีดำ ทำให้ดูสบายมากกว่าเมื่อใช้งานในเวลากลางคืน
หน้าจอแสดงผลรองรับการปรับความละเอียดได้สูงสุด 1344 x 2772 พิกเซล แต่ถ้าใครต้องการประหยัดแบตเตอรี่ก็สามารถปรับลดความได้ หรือจะเลือกเปิดใช้งานความละเอียดอัจฉริยะ ให้ตัวเครื่องปรับความละเอียดหน้าจอแสดงตามการแสดงผลคอนเทนท์
ขอบหน้าด้านบนสามารถเลือกปิดหรือเปิดได้ ถ้าต้องการซ่อนช่องที่ติดตั้งกล้องหน้าให้เป็นแถบสีดำทั้งหมดก็เลือกเปิดใช้งานซ่อนคัทเอาท์ได้
Sound Booster ฟีเจอร์ด้านเสียงสำหรับการฟังเสียงสนทนาหรือเสียงอื่นๆ จากระยะไกล และ HUAWEI Histen เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟัง
ด้านความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและระบบจดจำใบหน้า
ประสิทธิภาพตัวเครื่อง การเล่นเกม และแบตเตอรี่
HUAWEI Mate 40 Pro มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 9000 5G ขนาด 5nm ซีพียูแบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.13GHz และกราฟิก Mali-G78 MP24 กับ RAM 8GB รองรับการเล่น PUBG Mobile ในโหมดกราฟิกในระดับ HDR HD และภาพความละเอียดระดับ Ultra ซึ่งตัวเกมพัฒนาด้วย Unreal Engine 4 เป็นเกมที่มีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก
จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมที่ต้องการทั้งความลื่นไหล การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุก และอัตรา ความไวในการสัมผัส 240Hz ตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีขึ้นในการเล่นเกม
เกม ROV เกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับการเล่นบน Mate 40 Pro รองรับโหมดเฟรมเรตสูง ภาพระดับ HD สามารถได้ลื่นไหล ไม่มีปัญหา เฟรมเรตนิ่งมากๆ วิ่งระหว่าง 59-60fps ตลอดการเล่น และบางฉากวิ่งทะลุ 61fps แม้จะเป็นช่วงการร่วมทีมไฟต์ก็ไม่ตก
จากการลองเล่นไปเกือบชั่วโมง พบว่าตัวเครื่องแทบไม่ร้อนเลย รู้สึกอุ่นๆ เท่านั้น ถือว่าระบบการจัดการและระบายความร้อนของรุ่นนี้ทำได้ดีเลยทีเดียว
HUAWEI Mate 40 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4400 mAh ใช้งานทั่วไปได้ยาวๆ ทั้งวัน รองรับระบบการชาร์จ HUAWEI SuperCharge สูงสุด 66W โดยต้องใช้คู่กับสายและอะแดปเตอร์ของ HUAWEI และรองรับการชาร์จไร้สาย Wireless HUAWEI SuperCharge ที่ 50W นอกจากนี้ก็ยังสามารถแชร์แบตเตอรี่เพื่อชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นได้ด้วยฟีเจอร์ Wireless Reverse Charging
กล้องถ่ายรูป
HUAWEI Mate 40 Pro มีกล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ โดยเลนส์หลัก Ultra Vision ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4 รองรับ 5x Optical Zoom
กล้อง 50 ล้านพิกเซล
เลนส์หลัก Ultra Vision ความละเอียดมาสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ได้ภาพที่มีขนาดใหญ่และเก็บรายละเอียดได้คมชัดทั่วทั้งภาพ สามารถซูมเข้าไปดูรายละเอียดเล็กๆ ในภาพได้ชัดเจนมากขึ้น และมี AI เข้ามาช่วยระบุฉากที่กำลังถ่ายได้แบบอัตโนมัติ ทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายและออกมาสวยโดยไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยาก
กล้องหลังมีฟิลเตอร์ให้เลือกโทนสีสำหรับเพิ่มความโดดเด่นหรือให้ความรู้สึกใหม่ๆ แทนการถ่ายด้วยภาพโทนสีปกติ
Ultra Wide Angle 20 ล้านพิกเซล
สำหรับกล้อง Ultra Wide Cine หรือการถ่ายในโหมด Ultra Wide Angle ที่สามารถถ่ายได้ความละเอียดสูง 20 ล้านพิกเซล ให้มุมมองที่กว้างเหมือนฉากในภาพยนตร์ เก็บแสงและโทนสีได้สวยมากๆ สำหรับกล้องตัวนี้
ถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Macro
กล้อง Ultra Wide Angle ของ Mate 40 Pro สามารถถ่ายภาพระยะใกล้เหมือนกล้อง Macro ได้ แต่ว่าระยะอาจไม่ได้ใกล้มากนักเมื่อเทียบกับกล้อง Macro โดยเฉพาะ
กล้องซูมได้ไกล 50 เท่า
เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซูมได้ 5x Optical Zoom และซูม 10x โดยไม่สูญเสียรายละเอียด หรือจะซูมต่อแบบดิจิตอลได้ไกลสูงสุดถึง 50x พร้อมระบบกันสั่นที่ช่วยให้ภาพนิ่งมากๆ แม้ถือถ่ายด้วยมือในระยะ 50x ซึ่งภาพดวงจันทร์ที่เห็นนี้ก็ถือถ่ายด้วยมือโดยไม่ได้ใช้ขาตั้ง
ถ่ายภาพกลางคืนได้สว่าง
Mate 40 Pro มีโหมดกลางคืนสำหรับถ่ายภาพที่แสงน้อยได้ดีเหมือนเดิม เก็บแสงได้ดี มีความคมชัดมาก ที่สำคัญแม้ว่าจะถ่ายด้วยโหมดปกติ ก็แทบจะไม่ต้องปรับหรือเพิ่มความสว่างด้วย
ถ่าย Portrait หน้าชัดหลังละลาย
ในโหมด Portait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังละลายสามารถเบลอหลังแบบปกติ หรือเลือกใส่เอฟเฟกต์โบเก้อื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งฟีเจอร์นี้หลายคนอาจเคยเห็นกันมาบ้างแล้วในรุ่นก่อนๆ ของ HUAWEI
เซลฟี่สวยโดดเด่นด้วยกล้องคู่
กล้องหน้า 2 เลนส์ เป็นเลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และเลนส์ 3D Depth Sensing เข้ามาช่วยเก็บรายละเอียดความชัดลึกชัดตื้น ทำให้ละลายฉากหลังเวลาเซฟลี่ได้สวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้ว กล้องหลังยังมีโหมดเพิ่มเติมให้เลือกใช้งานได้เหมือนกล้องโปร ซึ่งเป็นโหมดที่ตั้งค่ามาให้เรียบร้อยแล้ว ใครๆ ก็สามารถถ่ายได้ เช่น ถ่ายภาพน้ำตก หรือแสงไฟวิ่ง เป็นต้น
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอแสดงผลชนิด OLED สีสันสดใส ความละเอียดคมชัด และรองรับ Refresh Rate 90Hz
- Kirin 9000 5G SoC ขนาด 5nm กับแรม 8GB + 256 GB รองรับ SD NMCard สูงสุด 256GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้คมชัด มี AI ช่วยให้ถ่ายได้ง่าย และระบบโฟกัสเร็ว
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 5x Optical Zoom และ 50x Ditial Zoom ระบบกันสั่นช่วยได้เยอะมาก ภาพแทบไม่สั่นเลยแม้ถือถ่ายด้วยมือ
- กล้องหน้า 2 เลนส์ มี 3D Depth Sensing ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้เนียนเป็นธรรมชาติ
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ซิม สลับซิมหลักได้เพื่อใช้งาน 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4400 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W, Wireless HUAWEI SuperCharge 50W, Reverse Wireless Charging
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- บริการต่างๆ ใช้งานผ่าน HMS (ไม่มี Google Services)
HUAWEI Mate40 Pro เปิดราคา 34,990 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. เป็นต้นไป โปรโมชั่นตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. รับฟรี HUAWEI M-Pen2, HUAWEI Ring light case และ HUAWEI Super Charge Stand มูลค่ารวม 7,970 บาท
ซื้อผ่าน AIS, dtac และ TrueMove H ราคาเริ่มต้น 14,990 บาท รับฟรี HUAWEI M-Pen2, HUAWEI Ring light case และ HUAWEI Super Charge Stand มูลค่ารวม 7,970 บาท