ข่าวประชาสัมพันธ์
Bang & Olufsen เปิดตัว Beosound Level ลำโพงในบ้านเสียงทรงพลัง ออกแบบมาเพื่อให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก
Bang & Olufsen ประกาศเปิดตัว Beosound Level ลำโพงภายในบ้านแบบไร้สายที่สามารถยกไปวางที่ไหนก็ได้ในบ้าน โดยให้เสียงอันทรงพลัง พร้อมผลิตขึ้นอย่างปราณีตบรรจง และดีไซน์ที่เรียบหรูคลาสสิกเพื่อการใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยความโดดเด่นที่สุดของลำโพง Beosound Level ก็คือ งานดีไซน์ที่บางเฉียบและมือจับแบบฝังในตัวเครื่อง ที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายลำโพงไปวางที่ส่วนต่างๆของบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะตั้งไว้ในห้องครัว วางราบบนโต๊ะ หรือแขวนไว้บนผนัง ในขณะเดียวกันลำโพง Beosound Level ก็จะปรับระบบการถ่ายทอดเสียงให้สอดคล้องกับตำแหน่งและการวางลำโพงอย่างอัจฉริยะ เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่รื่นรมย์ในทุกๆห้อง
“ลำโพง Beosound Level คือที่สุดสำหรับผู้ฟังที่ต้องการความอิสระและความสะดวกสบายจากลำโพงแบบพกพา แต่ไม่ต้องการให้สูญเสียคุณภาพของเสียงและความสามารถในการเชื่อมต่อลำโพงห้องต่างๆ ในบ้านที่จะเพิ่มความสุนทรีย์ในการฟังเพลงได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยลำโพงรองรับการใช้งานกับ Spotify Connect, AirPlay 2 และ Chromecast ได้ง่ายๆ และเพราะการออกแบบภายในโมดูล จะทำให้เราสามารถดูแลลำโพงตัว Beosound Level ให้เล่นเพลงตามสไตล์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเราไปได้อีกหลายทศวรรษ” Christoffer Poulsen รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen แสดงทัศนะ
วัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่กลมกลืนกับเทคโนโลยี
ลำโพง Beosound Level คือการนำเสนองานดีไซน์ที่อมตะอย่างแท้จริง ออกแบบโดย Torsten Valeur ที่ผลิตขึ้นภายใน Factory 5 ที่เมือง Struer ประเทศเดนมาร์ก Beosound Level เป็นผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของ Bang & Olufsen ในด้านงานผลิตอลูมิเนียมที่มีโครงอลูมิเนียมแบบ Pearl Blasted วัสดุที่ผสานความลงตัวของเทคโนโลยีและดีไซน์ สร้างความกลมกลืนให้เข้ากับงานตกแต่งภายใน หน้ากากลำโพงทำจากไม้โอ้คสีธรรมชาติ ที่ผ่านการบ่มเพาะจนมองเห็นลวดลายและผิวสัมผัสตามธรรมชาติของเนื้อไม้ ดูคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์สุดหรูจากแถบสแกนดิเนเวีย ในส่วนของผ้าทอถักแบบไร้รอยต่อ Kvadrat สีเทาเข้มมอง ทำให้ลำโพง Beosound Level เชิญชวนให้สัมผัสและจับจ้องไม่ว่าจะจากมุมใด
Beosound Level เป็นลำโพงที่หยิบไปวางจุดไหนในบ้านได้โดยสะดวก หรือแม้จะพกติดตัวเมื่อเข้าไปในสวน เพราะลำโพงใช้เทคโนโลยีไร้สาย รวมทั้งมาตรฐานกันผุ่นและละอองน้ำ IP54 กรอบลำโพงอลูมิเนียมไร้รอยต่อ ฝังปุ่มควบคุมการทำงานแบบ Soft Touch เพื่อให้คุณสามารถเปิดฟังเพลงโปรดหรือวิทยุสถานีที่ชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย เมื่อเดินเข้าไปใกล้ลำโพง Beosound Level ลำโพงจะสว่างขึ้น เสมือนหนึ่งเป็นการทักทายคุณกลายๆ ผ่านเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง ก่อนปรับความสว่างให้เหมาะกับช่วงกลางวันหรือกลางคืน เมื่อคุณใช้ลำโพงเสร็จแล้ว ไฟจะค่อย ๆ หรี่ลง เพื่อให้ความเด่นชัดโฟกัสที่ความมินิมอลของงานดีไซน์เช่นเดิม
งานชาร์จที่เลอค่า
ในส่วนของการชาร์จนั้น ลำโพง Beosound Level มี หัวชาร์จเอกลักษณ์พิเศษ ที่ชาร์จได้อย่างสะดวก เพียงแค่นำด้านหลังของลำโพง ใส่ให้ล็อคเข้าแท่นชาร์จที่ทำด้วยแม่เหล็กหุ้มด้วยอลูมิเนียม ด้วยการออกแบบแท่นชาร์จดีนวัตกรรมใหม่นี้ ทำให้การชาร์จไฟเป็นเรื่องง่าย มีความหรูหรา และมีสไตล์เข้ากับลำโพง ทำให้คุณสามารถวางหัวชาร์จโชว์ไว้บนโต๊ะได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ Bang&Olufsen ยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือก เป็นหัวชาร์จสำหรับติดบนผนัง เพื่อชาร์จลำโพงได้ในขณะที่ฟังเพลงอยู่ หรือจะเลือกถอดลำโพงออกอย่างง่ายดาย เพื่อนำไปฟังเพลงในส่วนอื่นๆ ของบ้าน
พลังเสียงที่เคลื่อนที่ไปกับคุณ
Beosound Level มาพร้อมพลังเสียงขนาด 105 วัตต์ เพื่อให้เสียงที่ชัดใส และเบสที่ทรงพลัง ผ่านลำโพงที่ติดตั้งมี 5 ตัวขับอันทรงพลัง พร้อมวูฟเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว 2 ตัว ลำโพงแบบฟูลเรนจ์ขนาด 2 นิ้ว 1 ตัว ทวีตเตอร์ขนาด 0.8 นิ้ว 2 ตัว และแอมพลิไฟเออร์ ที่มีเสียงมีการบิดเบือนต่ำ ที่สามารถปรับเปลี่ยน Sound Stage ได้ พร้อมพลังเสียงเบสที่ 79dB และเสียงกลางที่ 96dB
Beosound Level มีฟังก์ชั่นการใช้งานด้านเสียงที่หลากหลาย รวมถึงฟังก์ชั่น Active Room Compensation ที่มีการ ชดเชยเสียงขณะเปิดฟังภายในห้อง และเปิดเล่นได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมงเมื่อเปิดด้วยเสียงดังปกติโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก สิ่งเหล่านี้เกิดจากระบบอัจริยะของลำโพงที่วิเคราะห์พฤติกรรมอย่างชาญฉลาด และปรับเปลี่ยนระดับการใช้พลังงานและปรับเสียงลำโพงตลอดเวลา สถาปัตยกรรมด้านเสียงของลำโพง Beosound Level ผลิตขึ้นเพื่อให้สามารถปรับจูนระบบเสียงได้โดยอัตโนมัติจาก 180 องศาเป็น 360 องศาตามตำแหน่งที่วางลำโพง เพื่อความรื่นรมย์สูงสุดในการฟังเพลง
การดีไซน์เพื่อการใช้งานที่ยืนยาว
Bang & Olufsen เป็นที่รู้จักจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทนทาน และกับลำโพง Beosound Level บริษัทได้มีโซลูชั่นใหม่เพื่อเอาชนะเทคโนโลยีที่หมดสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร และเพิ่มอายุการใช้งานของลำโพง นอกเหนือจากดีไซน์ที่เป็นอมตะ Beosound Level ก็ยังถูกออกแบบให้เป็นแบบโมดูล เพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษา การบริการและการซ่อม โดยลูกค้าสามารถได้เอง เช่น การเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือ ให้ทางศูนย์บริการตรวจสอบส่วนประกอบสำคัญของลำโพงได้อย่างง่ายดาย
Beosound Level มาพร้อมโมดูลซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนได้ซึ่งจะมีในลำโพงบ้านรุ่นใหม่ของ Bang & Olufsen ทั้งหมด โดยโมดูลนี้ได้รับการติดตั้งพลังการประมวลผลและเทคโนโลยีเชื่อต่อ เพื่อจะรองรับการอัปเดตความสามารถและฟังก์ชันใหม่ๆ ในอีกหลายปีข้างหน้า และโมดูลก็สามารถที่จะได้รับการเปลี่ยน และเชื่อมต่อกลับไปกับตัว Main Board ของลำโพงได้อีก หากต้องมีการซ่อมบำรุง และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าในอนาคต การเชื่อมต่อ หรือการสตรีมมิ่งแบบปัจจุบันล้าสมัยแล้ว ลำโพงก็ยังสามารถเปลี่ยนโมดูลใหม่ เพื่อให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งนี่แปลว่า เรามั่นใจในลำโพง Beosound Level รุ่นนี้ได้ว่า จะมีเทคโนโลยีมาตราฐานที่ทันสมัย เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เสียงที่สุดยอดไปอีกหลายทศวรรษ
Bang & Olufsen ยังผลิตหน้ากากของลำโพงเพื่อให้สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ง่ายๆ โดยนำเสนอวัสดุและสีใหม่ๆ ให้เลือกเพื่อให้ลำโพงสามารถปรับเข้ากับสไตล์ของคุณได้ตลอดไป โดยยังคงความหรูหราเข้ากับทุกการตกแต่งภายในบ้าน นอกเหนือจากความเพียบพร้อมของ Beosound Level แล้วตัวลำโพงยังผลิตขึ้นจากวัสดุโพลีเมอร์สมรรถนะสูงที่รีไซเคิลได้อีกด้วย
ราคาและสินค้าที่พร้อมจำหน่าย
Beosound Level สี Natural ราคาขายปลีกที่แนะนำ 62,000 บาท โดยจะเปิด Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 1 – 5 พฤษภาคม 2021 สี Gold Tone ราคาขายปลีกที่แนะนำ 72,000 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2021 ในร้าน Bang & Olufsen เกสรวิลเลจ, Crystal Veranda, BeTrend Siam Paragon และ ร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาต Dotlife, Studio7, iStudio by Copperwired, iStudio by SPVI, iBeat by Copperwired, MunkongGadget, Beyond d Box, Power Buy, Power Mall, Banana IT, Discovery Retail/ Digital Lab, AV Value และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Mercular.com, 425 Degree, His.in.th, Central Online, JD.co.th, Lazada, Shopee และ Gadgetthai.net และร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาต หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดตามเราผ่านทาง @bangolufsen บน Instagram, Facebook, Twitter และ YouTube โดยใช้แฮชแท็ก #BeosoundLevel