Featured
รีวิว Asus ROG Phone 5 สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง สเปคขั้นเทพ แรงสุดด้วยขุมพลัง S888 และฟีเจอร์จัดเต็มเพื่อสายเกมมิ่ง
มาแล้วสำหรับรีวิวเต็มๆ ของ Asus ROG Phone 5 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งตัวเทพที่สเปคจัดเต็ม ฟีเจอร์อัดแน่นที่เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น X Mode+, AirTrigger 5 หรือจะเป็น Aero Active Cooler 5 พัดลมระบายความร้อนที่มีส่วนสัมผัสเพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมให้มากขึ้น ทั้งหมดนี้การใช้งานและมีอะไรบ้าง ทีมงาน iphone-droid.net จัดมาให้แล้วครับ
สรุปสเปค Asus ROG Phone 5
- ขนาดตัวเครื่อง : 173.0 x 77.0 x 9.90 มม.
- น้ำหนัก : 239 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Samsung AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) มี Refresh Rate 144Hz คู่ 300Hz Touch Sampling Rate รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1,200 นิต และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 888 Octa Core ความเร็ว 2.84 GHz
- GPU : Adreno 660
- RAM : 8/12/16GB LPDDR5
- ROM : 128/256GB แบบ UFS 3.1
- กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX686
- เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 125 องศา ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ROG UI
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6/6E (802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO), Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
- รองรับการใช้งาน 5G
- แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh รองรับ Quick Charge 5.0 กำลังไฟ 65W และ PD Charging
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง Asus ROG Phone 5
กล่องของ Asus ROG Phone 5 จะใช้เป็นแม่เหล็กที่ปิดอยู่ครับ สามารถเปิดออกมาได้ง่ายมากๆ โดยมีลวดลายของอนิเมะอย่าง Akira ภายในกล่อง ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีให้มีดังนี้
- ตัวเครื่อง Asus ROG Phone 5
- อะแดปเตอร์ 65W
- สาย USB-C to USB-C
- เคส Aero
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- ใบรับประกันสินค้า
ทั้งนี้ลูกเล่นของอนิเมะ Akira ไม่ได้มาเพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่มีเนื้อหาพิเศษต่างๆ มาให้รับชมกันด้วย โดยให้เข้าไปที่ คลังเกม > คอนโซล > ในหมวด “ภารกิจ/เซลฟี่ระบบ AR เลือก” ดำเนินการ > เลือกกล่องของ ROG Phone 5 และทำการสแกนได้เลย
ดีไซน์สวยงามถูกใจสายเกมเมอร์
Asus ROG Phone 5 มาพร้อมกับลวดลายที่เน้นแสงและสีสันที่จัดจ้าน โดยเฉพาะสีดำ Phantom Black ที่เราได้มารีวิว ที่จะมีการตัดด้วยสีแดงตามสัญลักษณ์ของ ROG ดูเท่และคูลสุดๆ ไปเลยครับ
ที่สำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยคือแสงไฟ Aura RGB ตรงสัญลักษณ์ ROG หลังเครื่องที่เราสามารถปรับได้ว่าจะมีให้เล่นแสงแสดงความเป็นเกมเมอร์ อย่างจะให้ขึ้นเฉพาะสีแดง, สีเขียว, สีน้ำเงิน ก็ทำได้ หรือจะให้แสดงไฟแบบกะพริบถี่ๆ หรือวนไปมาทุกสีก็เพิ่มความสวยงามไปอีกขั้นก็ทำได้อีกเช่นกัน
หน้าจอลื่นสุดถึง 144Hz
หน้าจอแสดงผลมาแบบจุใจเหมาะกับการเล่นเกมแน่นอนด้วยหน้าจอแบบ Samsung AMOLED ใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับการแสดงผล HDR10+ พร้อมความสว่างสูงสุด 1,200 นิต และมีความแข็งแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
เมื่อเล่นเกมแล้ว ความไหลลื่นต้องมาเป็นที่ 1 โดยหน้าจอรองรับ Refresh Rate สูงสุดถึง 144Hz ควบคู่ 300Hz Touch Sampling Rate พร้อมการตอบสนองเร็วสุดที่ 1 มิลลิวินาที ซึ่งเราสามารถเปิด 144Hz ค้างไว้ก็ได้ หรือจะเปิดให้ระบบปรับเองโดยอัตโนมัติก็ได้ซึ่งจะขึ้นอยู่ที่เนื้อหาที่เปิดใช้งานครับ
มาดูรอบเครื่องกันต่อครับ ที่ด้านบนหน้าจอจะมีทั้ง LED บอกสถานะต่างๆ, ลำโพงตัวที่ 2 ที่เป็นลำโพงคู่และใช้ในการสนทนา และกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
ด้านล่างจะมีลำโพงตัวที่ 2 ครับ โดยมาอยู่ตรงนี้เพื่อไม่ให้มือบังขณะเล่นเกมนั่นเอง
ด้านขวาตัวเครื่องมีทั้งปุ่ม Power, เพิ่ม/ลดเสียง และไมโครโฟนตัวที่ 1 ทั้งยังมี AirTrigger 5 ที่เป็นคล้ายปุ่ม L1/R1 มาให้เหมือนเดิมครับ
ส่วนทางซ้ายจะมีจุกยางเพื่อป้องกันพอร์ตต่างๆ ครับ เมื่อถอดออกมาจะเจอกับพอร์ต USB Type-C ตัวที่ 2 เพื่อชาร์จหรือเชื่อมต่อข้อมูล พร้อมพินสำหรับเชื่อมต่อพัดลม Aero Active Cooler 5 และถัดลงมาในช่องสีแดงจะเอาไว้สำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง (พลิกหน้า-หลัง) แต่ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้
ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวที่ 2, พอร์ต USB Type-C ตัวที่ 1 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 3
สุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์เรียงเป็นแนวนอน ถัดออกไปจะมีไฟแฟลช LED, ไมโครโฟนตัวที่ 4 ด้วย และสัญลักษณ์ ROG ที่แสดงเป็นไฟ RBG
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Asus ROG Phone 5 จัดหนักด้วยขุมพลังเรือธงแรงสุดของ Android ในตอนนี้อย่าง Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core ความเร็ว 2.84 GHz ซึ่งแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 25% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมครับ ทั้งยังใช้ GPU Adreno 660 มี RAM สูงสุดถึง 16GB แบบ LPDDR5 พร้อมความจุสูงสุด 256GB แบบ UFS 3.1 โดยทั้งหมดนี้ทำให้การใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้ไหลลื่นสุดๆ ครับ
ลองทดสอบประสิทธิภาพด้วย AnTuTu ทำไปได้ที่ 810,812 คะแนน
ฟีเจอร์เกมมิ่งจัดหนัก
X Mode / X Mode+ เพิ่มประสิทธิภาพแบบเต็มที่
สำหรับ X Mode มีมาให้ใช้งานใน Asus ROG Phone 5 โดยจะเพิ่มไหลลื่นหน้าจอให้เป็นไปตามที่เราตั้งค่า (60/120/144Hz), ใช้งาน Wi-Fi 2 ความถี่ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz เพิ่มความเสถียรของเครือข่าย รวมถึงเพิ่มความไว, ความแม่นยำในการสัมผัสให้มากขึ้นด้วย
โดย X Mode จะเปิดเองอัตโนมัติเมื่อเราเข้าเกม ซึ่งตัวธีมเครื่องจะเปลี่ยนไป และแสดงไฟ Aura RBG ขึ้นมาอย่างสวยงามที่หลังเครื่อง
AirTrigger 5 ปุ่มสัมผัส UltraSonic เพิ่มความสามารถเล่นเกม
ใครที่เป็นแฟนๆ ของ ROG Phone อยู่แล้วคงจะคุ้นชินกันดี โดยAirTrigger 5 จะอยู่ด้านบนตัวเครื่อง (ฝั่งเดียวกับปุ่ม Power) ซึ่งในเวอร์ชั่น AirTrigger 5 มีการใช้สัมผัสแบบ UltraSonic ใช้งานเป็นปุ่ม L1 และ R1 นั่นเองครับ เช่น เมื่อใช้ในเกม PUBG ก็จะใช้แทนการกดยิงได้ เป็นต้น
วิธีการใช้งานก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เราเข้าเกมที่ต้องการใช้ ปัดขวาจากมุมจอฝั่งซ้าย เลือก “AirTrigger” ซึ่งปุ่ม “L” และ “R” ก็จะปรากฏบนหน้าจอ จากนั้นก็ให้เราเลื่อนไปยังจุดที่ต้องการ อย่างถ้าต้องการให้กดแล้วยิง ก็ให้เลื่อนปุ่ม R ไปไว้ที่สัญลักษณ์ยิงในเกมได้เลยครับ ที่สำคัญเมื่อเราปรับแล้ว ระบบจะจำการวางตำแหน่งของแต่ละเกมไว้เลย ไม่ต้องมาคอยปรับทุกรอบ
รวมการตั้งค่าเกมไว้ที่ Game Genie
สำหรับ Game Genie จะเป็นกลุ่มการตั้งค่าต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมมากขึ้น เช่น การปิดกั้นการแจ้งเตือน, เพิ่มประสิทธิภาพ หรือแสดงข้อมูลต่างๆ ระหว่างเล่นเกมได้ เช่น อุณหภูมิ, การใช้งาน CPU/GPU, ระดับแบตเตอรี่ และFPS ปัจจุบัน เป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
PUBG Mobile
สำหรับเกม PUBG Mobile แน่นอนเราสามารถตั้งค่ากราฟิกสูงสุดได้ (ภาพ Ultra HD และเฟรมเรท Ultra) โดยการเล่นโหมดปกติไหลลื่นมากๆ หน้าจอสัมผัสได้ไว ตอบสนองเร็วสุดๆ ครับ และถ้ายิ่งใช้ฟีเจอร์ AirTrigger 5 ด้วยแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าเล่นได้ไม่มีเบื่อแน่นอน
Genshin Impact
ส่วนเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ อย่าง Genshin Impact ก็ไม่ทำให้ Asus ROG Phone 5 กระตุกได้ครับ โดยเล่นได้ได้แบบลื่นๆ เฟรมเรทแทบไม่มีดรอป แต่เรื่องความร้อนก็อาจจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องปกติครับ
Asphalt 9: Legends
และเกมแข่งรถกราฟิกสวยๆ อย่าง Asphalt 9: Legends ก็เปิดคุณภาพสูงได้ และก็เล่นได้สบายๆ ภาพในเกมงดงามมากๆ สมจริงทั้งภาพ, แสง และเงา ทั้งยังมีความไหลลื่นอย่างมาก
Motion Control กดปุ่มได้ตามการเคลื่อนไหว
สำหรับฟีเจอร์นี้จะคล้ายกับ AirTrigger 5 ครับ แต่จะเป็นการใช้งานเคลื่อนไหวแทนการกดปุ่มข้างตัวเครื่อง อย่างเราเล่นเกม Asphalt 9: Legends ที่ต้องมีการเลือกเส้นทางวิ่งว่าจะไปซ้ายหรือขวา เมื่อเราเอียงเครื่องไปทางซ้าย ระบบก็จะเลือกให้ไปทางซ้าย หรือทางขวาก็จะไปทางขวาครับ แต่เราก็ต้องเลื่อนปุ่มไปยังจุดที่ต้องการเหมือนกับ AirTrigger 5
AeroActive Cooler 5 อุปกรณ์เสริมที่เป็นมากกว่าพัดลม
ปกติแล้ว AeroActive Cooler 5 จะเป็นเพียงพัดลมสำหรับระบายความร้อนของตัวเครื่องเท่านั้นครับ แต่ในรุ่นนี้จะมีปุ่ม 2 ปุ่มเพื่อใช้งานเหมือนกับ AirTrigger 5 เหมือนกันครับ เรียกว่าใครถนัดแบบไหนก็ใช้งานได้ตามสะดวกเลยครับ
ส่วนเรื่องระบายความร้อน เราก็สามารถปรับความเร็วของพัดลมได้ตั้งแต่ต่ำสุดไปเร็วสุด หรือจะเปิดอัตโนมัติตามความร้อนเครื่องก็ได้ครับ
ทั้งนี้การใส่ AeroActive Cooler 5 จะใส่แบบตอนไม่ใส่เคสแบบภาพด้านบนก็ได้ หรือจะใส่ตอนใส่เคสที่แถมมาให้ก็ได้เช่นกันครับ
ลำโพงคู่ใหญ่ขึ้น 35%
ใครที่ชอบใช้งานด้านสายบันเทิง เรื่องลำโพงถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ครับ ซึ่งใน Asus ROG Phone 5 จะมีขนาดลำโพงใหญ่ถึง 35% ทำให้เสียงกระหึ่มและคมชัดมากๆ ทั้งยังมีเทคโนโลยีเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Hi-Res, DIRAC, Qualcomm aptX Adative โดยเรายังปรับแต่งโปรไฟล์เสียงตามที่เราชอบได้ เช่น ไดนามิก, ภาพยนตร์, ดนตรี หรือเกม
แบตเตอรี่อึดสะใจ 6000mAh
เรื่องแบตเตอรี่ก็จัดมาให้ถึง 6000mAh โดยใน Asus ROG Phone 5 จะแบ่งเป็น 2 ก้อน ก้อนละ 3000mAh ซึ่งการใช้งานทั่วไปถือว่าอยู่ได้ครบวันครับ ส่วนใครจะเล่นเกมก็เล่นได้ยาวๆ 3 – 5 ชั่วโมงแบบกราฟิกเปิดเต็มที่ (ขึ้นอยู่กับเกม) นอกจากนี้ ยังรองรับ HyperCharge 65W ที่ชาร์จได้เต็ม 100% ในเวลาเพียง 51 นาทีเท่านั้น
ใครที่สังเกตจะเห็นว่าพอร์ต USB Type-C จะมี 2 ช่อง ซึ่งเราจะใช้ช่องไหนก็ได้ครับ (ต้องใช้งานเพียงแค่ 1 ช่องเท่านั้น) แต่พอร์ตตรงกลางเครื่องจะเหมาะมากๆ เมื่อเราชาร์จระหว่างเล่นเกมไปด้วย ทำให้หัวชาร์จไม่บังมือเรานั่นเอง
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
ผ่านเรื่องเกมและฮาสร์ดแวร์ต่างๆ กันไปแล้ว มาดูซอฟต์แวร์และฟีเจอร์อื่นๆ กันบ้างครับ โดย Asus ROG Phone 5 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย ROG UI ที่จะเป็นธีมที่มีความเข้ม ดุดัน เหมาะกับเกมเมอร์สุดๆ ครับ
รองรับ 5G Dual-SIM
แน่นอนว่าเมื่อเป็นรุ่นเรือธงแล้ว ก็ยังรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ที่ทำได้อย่างเสถียรและได้ความเร็วที่สูง ทั้งยังใช้งานได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกัน (5G Dual SIM) ด้วยครับ
Always-on Panel
สำหรับฟีเจอร์นี้ ก็จะเหมือนกับ Always on Display ครับ ซึ่งจะบอกสถานะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเวลา, วันที่, แบตคงเหลือ และการแจ้งเตือนต่างๆ ซึ่งเราสามารถเลือกรูปแบบนาฬิกาได้อีก 7 แบบเลยทีเดียวตามใจชอบ
รองรับ WiFi 6E เชื่อมต่อได้รวดเร็วและเสถียรขึ้น
Asus ROG Phone 5 มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่รองรับ Wi-Fi 6E โดยเป็นการทำงานบนบนย่านความถี่ 6GHz ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรมากขึ้น ได้ความเร็วที่คงที่กว่าเดิม
กล้องถ่ายรูป
และสุดท้ายในเรื่องกล้องถ่ายรูป แม้จะไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่ แต่ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ โดยชูด้วยกล้องความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล
กล้องเลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล พร้อม AI
สำหรับกล้องหลักของ Asus ROG Phone 5 รองรับฟีเจอร์ Quad Bayer ที่รวม 4 พิกเซลเป็น 1 พิกเซล ปรับจากความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล มาเป็น 16 ล้านพิกเซล โดยจะได้วความสว่างและความคมชัดของภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังได้ AI แยกแยะวัตถุได้อย่างชาญฉลาด และจะแสดงเป็นสัญลักษณ์ที่มุมบน เช่น อาหาร, สัตว์, ท้องฟ้า หรือดอกไม้ เป็นต้น
ถ่ายมุมกว้างขั้นสุดด้วยเลนส์ Ultra-Wide
Asus ROG Phone 5 มาพร้อมเลนส์ Ultra-Wide Angle รองรับมุมกว้างมากถึง 125 องศา ซึ่งมากกว่าเรือธงหลายๆ รุ่น โดยรองรับ HDR อีกด้วย ภาพที่ได้ออกมาถือว่ามีความคมชัดมากๆ และถ่ายย้อนแสงได้ดีเลยทีเดียวครับ
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra-Wide Angle
Macro ถ่ายใกล้ก็คมชัด
การถ่ายใกล้ๆ ในระยะ 4 เซนติเมตร ก็ทำได้ดีเลยครับ โฟกัสได้ไว สวยงาม และสีสันก็ไม่ได้จืดลงเลย
ถ่ายกลางคืนก็สวยงามด้วย Night Mode
รุ่นนี้ก็รองรับการถ่ายภาพกลางคืนเหมือนกันครับ ทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดไว้เยอะมากๆ ภาพที่ได้ออกมาแทบไม่มีอาการเบลอ มีความสว่างและสีสันในภาพก็ยังคงชัดเจนอยู่ พร้อมประมวลผลได้ไวประมาณ 3-4 วินาทีเท่านั้น
โหมดปกติ / Night Mode
ถ่าย Portrait ละลายหลังได้เนียนตา
สำหรับการถ่ายภาพ Portrait หรือภาพถ่ายบุคคลก็ทำออกได้สวยงามเลยทีเดียว เบลอฉากหลังได้ดีมากๆ สามารถปรับความบิวตี้บนใบหน้าได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นผิวเนียน, โทนสีผิว, ผิวขาว, ตาโต และแก้มบาง แถมใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
กล้องหลัง
กล้องหน้า
สรุปการใช้งาน
สรุปโดยรวมของ Asus ROG Phone 5 บอกเลยว่าเป็นรุ่นที่เกมเมอร์ทั้งหลายไม่ควรพลาดเลยครับ ได้สเปคที่เร็วแรงมากๆ ด้วยขุมพลัง Snapdragon 888 ที่เป็นชิปแรงสุดของฝั่ง Android รวมไปถึงฟีเจอร์และอุปกรณ์เสริมรองรับกับการเล่นเกมที่เยอะจริงๆ ทั้งยังรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G และกล้องที่ใช้งานได้หลายฟีเจอร์
ราคาอย่างเป็นทางการ
Asus ROG Phone 5 เปิดราคาอย่างเป็นทางการที่ 22,990 บาท (รุ่น 8+128GB) โดยวางจำหน่ายแค่ทางออนไลน์ และ 29,990 บาท (รุ่น 16+256GB) โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันนี้ (10 มิถุนายน 2564)