Connect with us

Smart Review

รีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G สมาร์ทโฟนฝาพับทรงตลับแป้ง ดีไซน์เยี่ยม สเปคระดับเรือธง

Published

on

รีวิว Galaxy Z Flip3 5G อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนจอพับจาก Samsung รอบนี้มีดีไซน์ที่น่าสนใจมากขึ้นด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งขึ้น สีสันที่หวานกว่าเดิม สเปคที่อัปเกรดอย่างจุใจ ทั้งหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X 120Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 888 หรือจะเป็นกล้องคู่ที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี และเหนือสิ่งอื่นใดราคาค่าตัวถูกลงแบบจับต้องได้มากขึ้นแล้วด้วยครับ

หลังจากที่เราใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ก็ขอมารีวิวถึงประสบการณ์การใช้งานให้ชมกันว่า Galaxy Z Flip3 5G น่าใช้แค่ไหนและเหมาะกับใคร พร้อมแล้วมาติดตามกันเลยครับ !

สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Flip3 5G

  • หน้าจอนอก : Super AMOLED ขนาด 1.9” ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล
  • หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7” ความละเอียด FHD+ (2640 x 1080 พิกเซล) refresh rate 120Hz
  • CPU : Snapdragon 888 Octa-core 2.84GHz (5nm)
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB/256GB
  • แบตเตอรี่ : 3300mAh
  • ระบบชาร์จ : 15W Fast Charge
  • กล้องหลัง : 2 ตัว
    • 12MP กล้องหลัก f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
  • กล้องหน้า : 10MP f/2.4
  • รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.1, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • กันน้ำ : มาตรฐาน IPX8
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (One UI 3.1.1)
  • สีสัน : Phantom Black, Green, Lavender, Cream

ดีไซน์ทรงตลับแป้ง พกพาสะดวกมาก

Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมคอนเซ็ปต์ในการพกพาที่ช่วยลดขนาดตัวเครื่องให้ติดตัวไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ดีไซน์ของรุ่นนี้จึงมาในทรงฝาพับแบบตลับแป้งที่เมื่อพับจออยู่ตัวเครื่องจะมีขนาดเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 4.2” เท่านั้น มีความน่ารักมุ้งมิ้งมาก ๆ ในการพกพาบอกเลยว่ากะทัดรัดเอามาก ๆ

สำหรับสาว ๆ ที่มีกระเป๋าใบเล็กพกติดตัวไปไหนต่อไหนแล้วต่อติดสมาร์ทโฟนติดไปด้วย เจ้า Galaxy Z Flip3 5G นั้นเหมาะมาก ด้วยสัดส่วนเมื่อพับเก็บที่เล็กลงมาก ทำให้ใส่ในกระเป๋าได้แบบไม่ล้นเทอะทะ หรือถ้าเป็นผู้ชายก็สามารถพกติดตัวใส่ในกระเป๋าเสื้อได้แบบไม่เกินออกมาด้วยนะ

หน้าจอด้านในใหญ่เท่าสมาร์ทโฟนทั่วไป

แต่เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมากางจอแบบเต็ม ๆ เราก็จะได้หน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.7” เป็นสมาร์ทโฟนปกติทั่วไปเครื่องหนึ่งเลยล่ะครับ ตัวหน้าจอด้านในจะใช้จอ Dynamic AMOLED 2X มีความละเอียดระดับ FHD+ สีสันและความคมชัดทำได้ดีมาก สมกับเป็น Samsung ล่ะครับ

การตอบสนองรอบนี้ Galaxy Z Flip3 5G อัปเกรดขึ้นมาเป็น refresh rate 120Hz ทำให้การตอบสนองเวลาใช้งานนั้นลื่นไหลขึ้นมากเลย ไม่ว่าจะเป็นการปัดหน้าจอ การเลื่อนหน้าฟีด หรือใช้งานโดยรวมจะติดนิ้วมาก ๆ ใช้แล้วติดใจเลย

ด้วยความที่หน้าจอด้านในเป็นจอแบบพับได้ ความรู้สึกเวลาสัมผัสจะไม่ได้แข็งเหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไปนะครับ จะมีความนิ่ม ๆ ของชั้นฟิล์มที่ถูกติดตั้งมาอยู่บ้าง ส่วนตรงกลางจอที่เป็นส่วนในการพับก็จะเห็นได้ถึงรอยพับอยู่บ้างหากกระทบกับแสง และเวลาเราเลื่อนนิ้วไปโดนก็จะรู้สึกได้เลยว่ามีรอยพับอยู่ แต่ในการใช้งานจริงไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรครับ

ดีไซน์ Dual-Tone สีสวย

กลับมาที่ดีไซน์ภายนอกกันอีกที Galaxy Z Flip3 5G มีการใช้ดีไซน์แบบ Dual-Tone ที่มีแถบสีดำบริเวณกล้องคลุมอยู่ส่วนหนึ่งตัดกับสีสันของตัวเครื่องที่มีให้เลือกหลากหลายสี ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวเป็นสีม่วง Lavender พอตัดกับสีดำแล้วก็ดูดีเอามาก ๆ

ตัวกระจกกันรอยที่ด้านหลังทั้งหมดนี้ Samsung ใช้ Gorilla Glass Victus เลยให้ความแข็งแรงทนทานแน่นอน ผิวสัมผัสของสี Lavender นี้จะเป็นผิวมัน แต่ด้วยสีสันแบบพาสเทลแอบทำให้เวลาเราจับถือจริง ๆ ไม่เก็บรอยนิ้วมือแบบเด่นชัดเหมือน Z Flip รุ่นแรกครับ ตรงนี้เราชอบนะ

หน้าจอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น 4 เท่า

มาในทรงพับได้แบบนี้แต่ถ้าจะใช้งานต้องมาคอยกางเครื่องตลอดก็แอบไม่สะดวกว่าไหมครับ บน Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมหน้าจอนอกที่มีขนาดใหญ่ 1.9” มาให้ใช้งานด้วย เทียบกับ Z Flip รุ่นแรกแล้วใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่าเลยนะ จอตรงนี้เป็น Super AMOLED ด้วย สีสันสวยสู้แดดได้สบาย ใช้ดูข้อมูลการแจ้งเตือน นาฬิกา หรือทำงานอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยล่ะครับ 

บอดี้โลหะแข็งแกร่ง

บอดี้ของ Galaxy Z Flip3 5G นั้นใช้วัสดุที่แข็งแกร่งนอกเหนือจากกระจกของฝาหลังที่เป็น Gorilla Glass Victus แล้ว ตรงกรอบตัวเครื่องก็ยังเป็นโลหะผิวด้านที่ให้ความรู้สึกที่ดีมากเวลาจับถือ เพราะทั้งพรีเมี่ยมและทนทานในทางเดียวกันครับ

ตัวบานพับก็ออกแบบมาได้ดีครับ มีความแข็งแรงมากไม่รู้สึกถึงความหลวมเวลาเราพับ-กางเลย ทำให้เราอยากจะพับ-กางใช้งานอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งทาง Samsung ก็เคลมเองว่าสามารถพับ-กางได้ถึง 200,000 ครั้งกันเลยครับ

มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power

ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มกดทั้งหมดอยู่แบ่งเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power ซึ่งปุ่ม Power นี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย สามารถใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วแค่แตะไว้ก็ติดแล้วไม่ต้องกดลงไปครับ เพราะเมื่อเรากางหน้าจอขึ้นมาจะเป็นการปลุกจอทันที แค่เราเอานิ้วไปวางบนเซ็นเซอร์ก็สามารถสแกนได้ทันที

การวางตำแหน่งของปุ่มทำได้ดีเพราะสามารถกดได้ทั้งตอนพับจอและกางจอออกมาเลย แต่เวลากางจอออกมาตแหน่งจะอยู่สูงขึ้นไปนิดหน่อยไม่ได้เป็นตำแหน่งตรงกลางเครื่องเหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ แต่ถ้าใช้ความเคยชินก็คงปรับตัวได้ไม่ยากนักครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อของเครื่องจะอยู่ที่ด้านล่างใช้พอร์ต USB type-C ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. แล้วตามสไตล์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ มีลำโพงหลักของตัวเครื่องอยู่ตรงนี้ด้วย ซึ่งสามารถใช้งานคู่กับลำโพงสนทนาเป็นลำโพงคู่ Stereo ได้อีกด้วยนะบน Galaxy Z Flip3 5G นี้

กันน้ำได้ด้วยมาตรฐาน IPX8

นอกจากบอดี้ที่แข็งแกร่ง ลูกเล่นการพับ-กางจอที่แข็งแรงแล้ว Galaxy Z Flip3 5G ยังมาพร้อมความสามารถกันน้ำมาตรฐาน IPX8 ที่สามารถลงน้ำลึกระดับ 1.5 เมตรได้นาน 30 นาทีอีกด้วย ใช้งานช่วงนี้ที่อยู่ ๆ ก็มีฝนตกลงมาได้อย่างสบายใจว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะไม่เสียไปง่าย ๆ ถ้าโดนน้ำครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Galaxy Z Flip3 5G นั้นออกแบบมาได้น่าสนใจขึ้น ทั้งในเรื่องขนาดที่เหมาะกับการพกพาอย่างมาก การออกแบบด้วย Dual-Tone พร้อมสีพาสเทลสุดเรียบง่ายแต่ก็ให้ความลงตัวที่ดีขึ้น หน้าจอนอกที่ใหญ่ขึ้นมาจนใช้ประโยชน์ได้แล้ว หน้าจอในที่ refresh rate สูงขึ้นตอบสนองดี ความทนทานของหน้าจอที่ให้เรากลางใช้มากยิ่งขึ้น และที่ชอบมาก ๆ ก็คงเป็นความสามารถกันน้ำที่เราไม่เคยคิดว่าจะใช้บนสมาร์ทโฟนจอพับแบบนี้

หน้าจอที่ยาวกว่ารุ่นทั่วไป

ต่อมาเราขอพูดถึงประสบการณ์การใช้งานของ Galaxy Z Flip3 5G ละกันครับ อย่างที่ทราบว่ารุ่นนี้ออกแบบมาเป็นสมาร์ทโฟนจอพับ ซึ่งในการใช้งานทั่วไปแทบจะเหมือนกับสมาร์ทโฟนปกติรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ใช้งานทุกอย่างได้อย่างไม่มีปัญหาทั้งในเรื่องการดูคอนเทนต์ การเล่นโซเชี่ยลต่าง ๆ แต่จุดที่แตกต่างคงเป็นเรื่องอัตราส่วนหน้าจอของรุ่นนี้ครับ

ด้วยอัตราส่วนแบบ 22:9 ยาวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปอีกหน่อย (สมาร์ทโฟนทั่วไปจะอยู่ที่ 19.5:9 หรือ 20:9) ทำให้การใช้งานในแนวตั้งนั้นเราจะเห็นอะไรได้มากกว่า อาทิ เวลาเราอ่านข้อมูลบน Facebook เราจะได้ข้อมูลที่มากกว่าเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนปกติ หรืออย่างการดูรูปบน IG เราจะเห็นทั่งภาพและแคปชั่นในขณะที่รุ่นทั่วไปอาจแสดงแค่ภาพอย่างเดียวต้องเลื่อนเพื่ออ่านแคปชั่น

ความยาวที่มากขึ้นนี้ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานทั่วไปเท่าไหร่อย่างการพิมพ์ เรายังคงพิมพ์ได้อย่างสะดวกเพราะด้วยความกว้างซ้าย-ขวาของจอที่อยู่ในระดับที่พอดิบพอดีในการใช้งาน ทำให้เรายังคงใช้งานได้อย่างถนัดจะพิมพ์ 2 มือก็ไม่ล้นจนเกินไป หรือจะพิมพ์มือเดียวก็ง่ายไม่ต้องเอื้อมนิ้วไปไกล

ส่วนคอนเทนต์แนวนอนอย่างการดูวิดีโอ การดู YouTube บน Galaxy Z Flip3 5G ก็จะมีขอบดำอยู่บ้างเวลาเราดูวิดีโอสเกล 16:9 มาตรฐานหรือ 18:9 แต่ถ้าอยากดูเต็มจอจริง ๆ กดขยายก็จะเจอการครอปที่เยอะกว่าปกติอีกหน่อย เพราะอัตราส่วนที่ยาวถึง 22:9 นั้นยาวกว่าของภาพยนตร์ที่มักใช้เป็น 21:9 เสียอีกครับ

เห็นผลชัดเจนเวลาใช้งาน Multi Window

ทีเด็ดของหน้าจอที่ยาวขนาดนี้ก็คือเราสามารถใช้งานฟีเจอร์ Multi Window ได้ง่ายขึ้นมาก ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้นเวลาเราแบ่งหน้าจอใช้งาน 2 แอปพร้อมกันก็จะแบ่งสัดส่วนได้ดีขึ้น น่าใช้งานมากขึ้นไปอีก อย่างเช่นเราแบ่งหน้าจอบนดูอีเมลอยู่แล้วจอล่างเข้าเว็บไซต์หาข้อมูลไปพร้อม ๆ กันก็ทำได้ หรือจะเปิด YouTube ดูคลิปไปหาแอปบน Play Store ก็ได้ด้วย

ซึ่งตัว Multi Window นี้ก็สามารถปรับขยาย-ลดขนาดเพิ่มเติมได้ด้วย เผื่ออยากดู YouTube บนจอบนแต่เล็กหน่อยอยากค้นหาแอปใน Play Store มากหน่อยดูรายละเอียดเพิ่มได้ ก็แตะที่ 3 จุดตรงกลางแล้วเลื่อนขึ้น-ลงได้เลย หรือจะแตะเพื่อสลับแอปบน-ล่างก็ได้

Flex mode ความเอาใจใส่ของซอฟต์แวร์

แต่ความโดดเด่นของสมาร์ทโฟนจอพับของ Samsung ยังไม่หมดแค่จอยาวกว่าใช้งานได้มากกว่าอย่างเดียว เพราะ Galaxy Z Flip3 5G นั้นมาพร้อมกับ Flex mode ให้เราใช้ประโยชน์จากหน้าจอพับแบ่งส่วนจอและการใช้งานได้อย่างลงตัว อย่างเช่น YouTube เมื่อเราพับจอครึ่งหนึ่งให้ตัวเครื่องตั้งได้ ในส่วนบนจะเป็นวิดีโอที่เล่น ส่วนช่วงล่างจะเป็นรายละเอียดคลิปและพวกคอมเมนต์ต่าง ๆ

ตรงนี้เลยช่วยให้เราใช้งานประโยชน์จากจอพับเป็นขาตั้งใช้งานได้อย่างง่ายดายมากขึ้นด้วย อย่างเช่นเวลาเราคุย Video Call ผ่าน Google Duo ก็ไม่จำเป็นต้องคอยถือเครื่องหรือหาขาตั้งมาใช้ แค่หามุมวางดี ๆ แล้วตั้งเครื่องได้เลย ตรงนี้เราว่าสะดวกมาก ๆ

หรือจะใช้งานแนวนอนก็กางตัวเครื่องออกให้พอดีแล้วใช้งานเป็นขาตั้งได้ด้วย เวลาเราดูหนังแนวนอนก็ไม่ต้องคอยหาที่พิงหรือขาตั้งอีกเช่นกัน มีประโยชน์กว่าที่คิดใช่ไหมล่ะครับสมาร์ทโฟนจอพับแบบนี้

ประสิทธิภาพไม่แพ้เรือธงรุ่นไหน ๆ

มาต่อที่เรื่องประสิทธิภาพกันเลย Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมสเปคระดับเรือธงด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 5G แรม 8GB และรอมให้เลือก 2 ความจุคือ 256GB และ 512GB เห็นแบบนี้ก็เรียกว่าไม่ต่างจากเรือธงตัวท็อป ๆ ในตลาดตอนนี้เลยใช่ไหมล่ะครับ แรงถึงใจแน่นอน

ซึ่งคะแนนทดสอบจากแอป AnTuTu Benchmark ของ Galaxy Z Flip3 5G นั้นออกมาสูงถึง 722388 คะแนน

ส่วนคะแนนของ GeekBench 5 ก็ได้ Single-Core ไปที่ 1101 คะแนน และ Multi-Core 3233 คะแนน

เล่นได้ทุกเกมไม่มีปัญหา

แน่นอนว่าสเปคที่ให้มาจัดเต็มพอที่จะใช้งานหนัก ๆ หรือเล่นเกมได้สบาย แต่ก็ขอลองเล่นให้รู้ว่ามันแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปยังไงบ้างเนาะ เกมที่เราใช้ทดสอบในรอบนี้คือ ROV, Asphalt 9 และ Call of Duty Mobile ครับ

เล่น ROV บน Galaxy Z Flip3 5G

เริ่มที่เกมฮิตอย่าง ROV เจ้า Z Flip3 5G ให้สเปคมาระดับนี้ก็สามารถปรับกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรตสูงก็เปิดควบคู่กันไปได้เลย เท่าที่เราเล่นจริง ๆ ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก เฟรมเรตนิ่ง ๆ ที่ระดับ 59 – 61fps สบาย ๆ ไม่รู้สึกถึงความหน่วงเลย ความหน้าจอยาวกว่าปกติแอบทำให้เล่น ROV ได้เปรียบขึ้นด้วยเพราะฉากจะยืดออกไปอีกหน่อยครับ

เล่น Asphalt 9 บน Galaxy Z Flip3 5G

มาต่อที่ Asphalt 9 ก็ยังปรับได้สุดทุกอย่างทั้ง กราฟิกระดับ High Quality คู่กับ 60fps เล่นได้อย่างลื่นไหลสุด ๆ การรองรับอัตราส่วนหน้าจอก็ยอดเยี่ยม เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่รองรับหน้าจอได้เยอะที่สุดก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะจอยาวจอเหลี่ยมยังไงเล่นได้หมด และไม่มีปัญหาเลยครับ

เล่น Call of Duty บน Galaxy Z Flip3 5G

ปิดท้ายที่ Call of Duty Mobile ก็จัดชุดใหญ่ เปิดทุกเอฟเฟกต์คู่กับกราฟิก Very High เฟรมเรต Max ได้เลยไม่มีปัญหาครับ ความจอยาวยังได้เปรียบบนเกมนี้ด้วย การตอบสนองเวลาสัมผัสทำได้ดีแตะเป็นยิงแตะเป็นยิง ลำโพงคู่ที่ให้มาก็ช่วยให้เล่นเกมแนวนี้ได้ดีไปอีก เสียงรอบทิศทางดีมากครับ

กล้องยอดเยี่ยมสไตล์ Samsung

ถึงแม้ Galaxy Z Flip3 5G จะไม่ได้เน้นเด่นในเรื่องกล้องเหมือนเรือธงรุ่นอื่น ๆ แต่เอาเข้าจริงรุ่นนี้ก็ให้กล้องมาครบสำหรับการใช้งานแล้ว มีกล้องหลัง 2 ตัวกล้องหน้าตัวสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

  • กล้องหลัง 2 ตัว
    • 12MP กล้องหลัก f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
  • กล้องหน้า 10MP f/2.4

มีฟีเจอร์ Scene Optimizer มาคอยจัดการภาพให้สวยสดขึ้นตามสถานการณ์ด้วย จะถ่ายอาหารก็ได้สีสันที่สดดูน่ากิน จะถ่ายภาพวิวก็มีความคมชัดและโดดเด่น หรือถ่ายคนก็จะมีความเนียนที่ดีแบบไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเยอะเลยครับ

ลูกเล่น 2 หน้าจอก็ยังติดมาถึง Z Flip3 5G ด้วยครับ เราสามารถใช้จอนอกขนาด 1.9” เป็น Viewfinder ให้อีกฝั่งเห็นได้ด้วย แต่…ความที่จอนอกวางตำแหน่งเป็นแนวนอนแต่กล้องเป็นแนวตั้ง ภาพที่ออกมาจะสลับกันนิดหน่อยคือ ถ้าเราถ่ายภาพแนวตั้งแต่ Preview บนจอเล็กเป็นแนวนอน ถ้าเราถ่ายแนวนอน Preview เป็นแนวตั้งซะงั้น ก็ถือเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ล่ะเนาะ

ส่วนคุณภาพของกล้องหลังของ Galaxy Z Flip3 5G ก็ทำได้ดีมากตามสไตล์ Samsung ครับ สีสันสดและเคลียร์เป็นธรรมชาติ อาหารสีสดดูน่ากิน ถ่ายวิวก็สวยได้กล้อง Ultra Wide ที่คุณภาพใกล้เคียงกับกล้องหลัก ถ่ายคนก็โอเค Skintone ทำได้ดีดูเนียนเป็นธรรมชาติมากครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Galaxy Z Flip3 5G

เซลฟี่แบบ Hands Free ง่าย ๆ

แน่นอนความเจ๋งของสมาร์ทโฟนจอพับคือเราสามารถตั้งเครื่องแล้วเซลฟี่ได้ง่าย ๆ จะแตะเซลฟี่หรือใช้ Gesture แบมือให้ถ่ายก็ได้ สะดวกสุด ๆ

คุณภาพที่ได้จากกล้องหน้าก็โอเคเลยครับ สีสันและความเนียนในสไตล์เกาหลีของ Samsung ให้ความสวยที่สาว ๆ ต้องถูกใจแน่นอนครับ

เซลฟี่ด้วยกล้องหลังก็ได้ด้วย

แต่ถ้าใครใช้กล้องหน้าเซลฟี่แล้วยังไม่ถูกใจ ยังมีลูกเล่นการเซลฟี่ด้วยกล้องหลังด้วยนะ อย่างที่เห็นว่า Galaxy Z Flip3 5G นั้นมีจอด้านที่ใหญ่ขึ้นมาก เราสามารถใช้เป็น Viewfinder แล้วเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้เลยเพียงกดปุ่ม Power 2 ครั้งตอนพับฝา ตัว UI ปรับมาให้ใช้ง่ายขึ้นเลื่อนขึ้นเพื่อสลับกล้อง Wide หรือ Ultra Wide เลื่อนขวาเพื่อสลับไปโหมด Video ใช้ VLOG ก็ได้อีก

คุณภาพก็ยอดเยี่ยมตามสไตล์กล้องหลังเลยครับ สีสวยดีมาก แถมได้มุมกว้างแบบ Ultra Wide ให้ใช้งานด้วย ใครที่ชอบเซลฟี่มุมกว้างถูกใจแน่นอนครับ

แบตเตอรี่ 3300mAh

ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ Galaxy Z Flip3 5G ให้มาที่ 3300mAh ถ้าเทียบกับสเปคและขนาดหน้าจอก็ถือว่าให้มาน้อยไปนิด เพราะจอหลักที่ใหญ่ถึง 6.7” มี refresh rate 120Hz ด้วยแล้ว ถ้าเล่นแบบจริงจังก็แอบไม่ไหวเหมือนกัน แต่ถ้าใช้งานทั่วไปพอรับได้ครับ

ชาร์จไวแค่ 15W

แต่ที่เราขัดใจนิดหน่อยคือเรื่องระบบชาร์จที่รุ่นนี้ให้มาแค่ 15W เท่านั้น ไม่รองรับชาร์จไว 25W แบบ Z Fold3 5G หรือ S21 Ultra เลย แอบไม่เร็วถึงใจเท่าไหร่ แต่ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มาเพียง 3300mAh ก็ไม่ต้องใช้เวลานานเท่ากับรุ่นพี่พวกนั้นด้วย ค่อย ๆ ชาร์จไปละกันเนาะ

Galaxy Z Flip3 5G รองรับชาร์จไร้สาย 10W ด้วย รวมถึงฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging ก็ได้สูงสุด 4.5W แต่ด้วยแบตเตอรี่ระดับนี้คงชาร์จได้กับพวกหูฟังหรืออุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ซะมากกว่า

เปิดจำหน่ายแล้ว เริ่มต้น 34,900 บาท

Galaxy Z Flip3 5G เปิดจองรอบพิเศษแล้วกับแคมเปญ ซื้อก่อนคุ้มกว่า ‘First to Unfold’ ตั้งแต่วันนี้ – 22 ส.ค.64 และได้รับเครื่องก่อนใครในวันที่ 2 ก.ย.64 มีให้เลือก 2 ความจุดังนี้ครับ

  • Galaxy Z Flip3 5G (8GB + 128GB) ราคา 34,900 บาท
  • Galaxy Z Flip3 5G (8GB + 256GB) ราคา 36,900 บาท

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนสายแฟชั่นที่ถูกใจสาว ๆ แน่นอน”

สำหรับ Galaxy Z Flip3 5G ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนสายแฟชั่นอีกรุ่นที่ออกแบบมาได้อย่างน่าสนใจมาก ด้วยแนวคิดที่การพับหน้าจอที่เพิ่มความสะดวกในการพกพา แถมยังมีดีไซน์ที่สวยหรูเป็นเครืองประดับได้ด้วย ในเรื่องการใช้งานก็ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนไฮเอนด์สักเครื่องเลย ทั้งหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X คุณภาพดีมาก ชิปเซ็ต Snapdragon 888 แรงระดับเรือธง ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งมาให้ใช้งานกับจอพับได้อย่างดี กล้องที่ไว้ใจได้ตามสไตล์ Samsung จะมีจุดสังเกตอยู่บ้างก็คงเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่อาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับสายถ่ายรูปหรือเล่นเกมจริงจัง แต่ถ้าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พกพาวเวอร์แบงค์ติดตัวเวลาจำเป็นอยู่แล้ว Z Flip3 5G ก็ถือว่าเป็นมือถือสไตล์แฟชั่นอีกตัวที่ถูกใจสาว ๆ แน่นอน หรือถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ที่ต้องการมือถือที่พกง่าย ไม่ล้นกระเป๋ากางเกงก็เป็นทางเลือกที่น่าสนไม่น้อยครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์ที่กะทัดรัดพกพาง่าย
  • บอดี้งานประกอบที่แข็งแรง
  • หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X สีสวยลื่นไหล 120Hz
  • หน้าจอนอกใหญ่ขึ้น ใช้งานได้สะดวก
  • ชิปเซ็ตเร็วแรงด้วย Snapdragon 888
  • กล้องที่ไว้ใจได้ตามสไตล์ Samsung
  • กันน้ำมาตรฐาน IPX8

จุดสังเกต

  • แบตเตอรี่ 3300mAh แอบน้อยไปหน่อยถ้าใช้งานหนัก ๆ
  • รองรับชาร์จไวแค่ 15W
Android News56 นาที ago

Redmi Note 14 5G Series ยืนยันเปิดตัวในอินเดียวันที่ 9 ธ.ค. มาพร้อมสโลแกน “Super Camera, Super AI”

Xiaomi ได้ประกาศวันเ...

Apple News1 ชั่วโมง ago

ลือ ! Apple กำลังสร้าง ‘LLM Siri’ ในปี 2026 บน iOS 19

ตามรายงานของ Bloombe...

Android News16 ชั่วโมง ago

เช็คกัน !! OPPO เผยตารางอัปเดต ColorOS 15 บน Android 15 ทั่วโลก

ในวันนี้ OPPO ได้เปิ...

Apple News16 ชั่วโมง ago

อย่างสวย ! YouTuber โชว์ดีไซน์ iPhone 17 Air กล้องหลัง 1 เลนส์ พร้อมจอ Dynamic Island

เราได้ยินมาแค่ข่าวลื...

HUAWEI IdeaHub HUAWEI IdeaHub
IT News17 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่

หัวเว่ยเปิดตัว IdeaH...

Smart Review19 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook S 14 OLED (S5406) โน้ตบุ๊คดีไซน์มินิมอล l Intel Core Ultra 7 258V l ใช้นานสุด 27 ชม. และคีย์บอร์ดมีไฟ RGB !

รีวิว ASUS Vivobook ...

Android News21 ชั่วโมง ago

มาอีก ! หลุดสเปค vivo X200S จัดเต็มด้วยชิป Dimensity 9400 Plus และรองรับสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ...

IT News21 ชั่วโมง ago

Facebook Messenger เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ผสานรวมกับ Siri, ข้อความเสียงและวิดีโอ และอื่นๆ เพียบ

ในวันนี้ Meta ได้ทำก...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก