Featured
รีวิว OPPO A95 “สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม” ชาร์จไว 33W แบตฯอึด RAM Expasion มากถึง 5GB สนุกสุดพลังในทุกวัน
รีวิว OPPO A95 สมาร์ทโฟนน้องใหม่จาก OPPO ที่มาพร้อมสโลแกน “สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม” ตอบโจทย์ครบทั้งเรื่องดีไซน์ที่มาพร้อม OPPO Glow การใช้งานที่มีความจุเยอะ 8GB + 128GB แบตเตอรี่อึด 5000mAh และกล้องที่ให้ AI 3 กล้องหลัง อีกต่างหาก
การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ใครที่เหมาะกับรุ่นนี้ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รีวิวให้ชมกันแบบเต็ม ๆ พร้อมแล้วติดตามกันเลยครับ
สรุปสเปค OPPO A95
- ขนาดตัวเครื่อง : 160.32 x 73.76 x 7.95 มม.
- น้ำหนัก : 175 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED punch hole display ขนาด 6.43″ ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate 60Hz
- CPU : Qualcomm Snapdragon 662 ความเร็ว 2.0GHz (11nm)
- GPU : Qualcomm Adreno GPU 610
- RAM : 8GB (RAM Expansion สูงสุดอีก 5GB)
- ROM : 128GB
- micro-SD : รองรับสูงสุด 256GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 33W Flash Charge
- กล้องหน้า : 16MP f/2.4
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- 48MP กล้องหลัก f/1.7
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- 2MP กล้อง Macro f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.1
- รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
- สีสัน : สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver, สีดำ Glowing Starry Black
แกะกล่อง OPPO A95
ขอเริ่มต้นที่กล่องกันก่อนดีกว่า OPPO A95 ยังคงมาพร้อมกล่องสีฟ้าตามสไตล์ที่ด้านหน้ามีระบุชื่อรุ่นไว้ชัดเจนว่า OPPO A95 และมีความจุบอกที่มุมซ้ายบนเหมือนเดิม รุ่นนี้มีความจุ 8GB + 128GB เลยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมาตรฐานตามสไตล์รุ่น A Series ครับ มีทั้งหมด 6 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง OPPO A95
- เคสซิลิโคนใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
- สายชาร์จ USB-C to USB-A
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 33W Flash Charge
- เอกสารคู่มือ
เบ็ดเสร็จมีเท่านั้นครับ ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่องเนาะ ส่วนตัวเครื่องก็จะมีการติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วด้วย ก็เรียกว่าแกะกล่องมาพร้อมใช้เลย
ดีไซน์ OPPO Glow ที่ระยิบระยับ
มาต่อกันที่เรื่องดีไซน์เลย รีวิว OPPO A95 มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นอีกแล้ว รอบนี้ใช้ชื่อเรียกทางการว่า OPPO Glow Design จะมีความระยิบระยับที่สวยสะกดตั้งแต่แรกเห็น แถมยังได้ความสะท้อนกับแสงในแบบที่ OPPO ถนัด สีที่เราได้มารีวิวคือสีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver มอบเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันในสภาพแสงที่ต่างกันด้วย
แค่ถือใช้งานก็ให้ความรู้สึกที่หรูหรามาก ๆ แล้ว แถมใครที่ไม่ชอบความจำเจ อยากได้ความแปลกใหม่อยู่ตลอด สีนี้ก็เหมาะเลยเพราะมีหลายโทนผสานกันอยู่ เล่นกับแสงก็ละมุนไปอีก
ส่วนผิวสัมผัสก็เป็นแบบผิวด้านพร้อม Texture แบบผิวทราย ตรงนี้เราก็ชอบเพราะเวลาจับถือนั้นให้ความรู้สึกที่ดีแถมไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือด้วย ทำให้ถือใช้ไปนาน ๆ ไม่ต้องคอยมาทำความสะอาดกันบ่อย ๆ
การจัดวางกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ทำได้ดีครับ รวมเลนส์กล้อง 3 ตัวและไฟแฟลชอยู่ในกรอบเลนส์ชิ้นเดียวที่มุมซ้ายบนของฝาหลัง พร้อมสอดแทรก Glitter ระยิบระยับเข้าไปภายในให้ดูมีลูกเล่นเพิ่มเติม เสริมด้วยโลโก้ AI 48MP Triple Camera ที่ให้ความรู้สึกถึงความล้ำของกล้องเข้าไปอีกหน่อย รวม ๆ แล้วลงตัวดีมาก
จอกว้างเต็มตาด้วย AMOLED Punch-hole Display
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง OPPO A95 นั้นมาพร้อมจอ Punch-hole Display ขนาดใหญ่ 6.43″ ใช้พื้นที่หน้าจอไปมากถึง 90.8% ทำให้เวลาเราใช้งานจะรู้สึกถึงหน้าจอได้เต็มขึ้นและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปเล่นโซเชียลหรือดูคอนเทนต์ความบันเทิงแล้วครับขนาดระดับนี้
ส่วนสีสันและความคมชัดก็ทำได้ดีด้วยจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ แสดงผลสีสันได้สวยงามเพียงพอมาก จะดูหนัง ดูซีรีส์ ก็ถูกใจ สีดำคมเข้มม ความสว่างสูงสุดก็ดันไปได้ถึง 800nits เลยสู้แสงกลางแจ้งได้สบาย ๆ ครับ
และแน่นอนความเป็นจอ AMOLED ก็สามารถใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ด้วย OPPO A95 ก็มีมาให้ใช้งานด้วยเหมือนกัน ความเร็วในการสแกนถือว่าทำได้ดี เหมาะอย่างยิ่งกับในยุคนี้ที่เราจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาแบบนี้จริง ๆ ครับ
บางและเบาเหลือเชื่อ
ขนาดและน้ำหนักของ OPPO A95 ต้องบอกเลยว่าบางและเบามาก ๆ เมื่อเทียบกับความจุแบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 5000mAh แต่ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.95 มม. และเบาแค่ 175 กรัมเท่านั้น เป็นขนาดที่จับถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว และไม่เมื่อยแม้ใช้งานเป็นเวลานาน ๆ ใครที่ชอบถือใช้งานนาน ๆ หายห่วงเลยล่ะครับน้ำหนักระดับนี้
ตำแหน่งปุ่มกดต่าง ๆ ของตัวเครื่องยังอยู่ที่มุมเดิมเหมือน OPPO หลาย ๆ รุ่นคือฝั่งซ้ายเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ฝั่งขวาเป็นปุ่ม Power กรอบตัวเครื่องเป็นโครเมี่ยมที่มีความมันวาวเพิ่มความหรูหราขึ้นมาอีกหน่อยด้วย
พอร์ตการเชื่อมต่อครบ มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ด้วย
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ด้านล่าง มีพอร์ตหลักเป็น USB-C ส่วน 2 ฝั่งข้าง ๆ จะมีไมโครโฟนและลำโพงหลักของตัวเครื่องและถัดไปซ้ายสุดก็คือช่องหูฟัง 3.5 มม. ครับ รุ่นนี้ยังมีติดมาให้อยู่นะ
ช่องใส่ซิมของรุ่นนี้จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือครับ ตัวถาดซิมเป็นแบบ Triple Slot เลย ถูกใจสายเพิ่ม micro-SD และ 2 ซิมแน่นอนครับแบบนี้เพราะใส่ได้ครบโดยไม่ต้องสละช่องเลย
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO A95 ก็ออกแบบมาได้ดีเลยครับ ลูกเล่นของฝาหลังที่ OPPO ทำได้ดีมาตลอด มาถึงรุ่นนี้ก็ยังยอดเยี่ยม OPPO Glow จะมีความระยิบระยับสวยสะดุดตา แถมการจับถือใช้งานก็ยังถูกจริตคนที่ไม่ต้องการความเปรอะเปื้อนได้ง่าย ความเพรียวบางของตัวเครื่องก็ตอบรับกับยุคโซเชียลที่เราอาจต้องถือใช้งานอยู่ตลอดเวลา หน้าจอก็สีสันสวยงามมี Refresh Rate 60Hz
ซอฟต์แวร์ที่ลื่นไหลด้วย ColorOS 11
สำหรับซอฟต์แวร์ OPPO A95 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 ในเรื่องความลื่นไหลต้องบอกว่าดีมาก พักหลัง OPPO มีการปรับพวก UI ให้คลีนและน่าใช้งานมากขึ้นเยอะ พร้อมทั้งการปรับแต่งรูปแบบ ธีมหรือไอคอนได้หลากหลายกว่าเดิมด้วย
จะเป็นรูปแบบไอคอน สีสันของระบบ ธีม อนิเมชั่นสแกนลายนิ้วมือ ฟอนต์ รวมถึง Dark mode ด้วย ซึ่งตัว Dark mode ของ ColorOS 11.1 เรายังสามารถปรับได้ 3 ระดับได้แก่ Enhanced, Medium หรือ Gentle ครับ
ประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพ รีวิว OPPO A95 ก็ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปจนถึงการทำงานหนัก ๆ ได้อย่างดี ชิปเซ็ตที่ให้มาเป็น Snapdragon 662 คู่กับความจุภายใน 8GB + 128GB เรียกว่าเหลือ ๆ แถมรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ RAM Expansion หรือการขยายแรมแบบจำลองเพิ่มได้สูงสุดอีก 5GB รวมแล้วก็ได้แรมถึง 13GB เลยด้วย สลับแอปไปมาลื่นไหลแน่นอนครับ
เราลองทดสอบประสิทธิภาพคร่าว ๆ ผ่านแอป AnTuTu Benchmark ออกมาที่ 208511 คะแนนเลยนา ถือว่าไม่น้อยครับ
ส่วนประสิทธิภาพของ GeekBench ก็ออกมาที่ 311 สำหรับ Single-Core และ 1308 คะแนนสำหรับ Multi-Core ครับ
ต่อมาเราขอทดสอบการเล่นเกมกันหน่อยดีกว่าว่าถ้าลงสนามจริงแล้วจะไหวแค่ไหน เกมที่เราใช้ทดสอบในวันนี้มี 3 เกมคือ Pokemon UNITE, PUBG: NEW STATE และ FIFA Mobile ครับ บน ColorOS 11 จะมีฟีเจอร์ Game Space มาให้ด้วย เป็นเหมือนตัวจัดการเกี่ยวกับเกมที่จะช่วยให้เราเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น จัดการระบบเครือข่ายให้เสถียรกว่าเดิม รวมถึงจัดการกับการแจ้งเตือนให้ด้วย
เล่น Pokemon UNITE บน OPPO A95
ขอเริ่มที่ Pokemon UNITE ก่อนเลย ในค่าเริ่มต้นตัวเกมเลือกระดับกราฟิกมาให้ที่ High และเฟรมเรต High เช่นกัน ซึ่งเท่าเราลองในการตั้งค่านี้ ถือว่าเล่นได้สบาย ๆ เลยครับ เฟรมเรตอยู่นิ่ง ๆ ที่ 59fps ตลอดทั้งเกม แม้จะมีการปล่อยสกิลที่มีเอฟเฟกต์เต็มทั้ง Map ก็ตาม เรียกว่าเล่นได้สบายหายห่วงครับ
เล่น PUBG: NEW STATE บน OPPO A95
และ PUBG: NEW STATE เกมใหม่ล่าสุดเราก็ลองให้ด้วย ตัวเกมตั้งค่าเริ่มต้นมาให้ที่เฟรมเรต High กับเฟรมเรต High เช่นกัน เท่าที่ลองเล่นในโหมด Arena Training เล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหาเลยครับในการตั้งค่านี้ แต่หากเล่นในโหมดปกติบางจังหวะที่มีฉากใหญ่ ๆ พวกต้นไม้เยอะ ๆ จะเจอเฟรมเรตดรอปลงมาบ้างตรงนี้แนะนำว่าให้ปรับกราฟิกลงมาที่ Medium จะเล่นได้สบายใจกว่าครับ
เล่น FIFA Mobile บน OPPO A95
ปิดท้ายที่ FIFA เกมฟุตบอลภาพสวย ตรงนี้เราเล่นในค่าเริ่มต้นเลย ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่เจออาการเฟรมดรอปให้เห็นครับ จะเล่นแบบเป็นแมทช์เต็มหรือเล่นแบบฝึกซ้อมก็ทำได้ดีทั้งคู่ครับ ความหน้าจอใหญ่ก็มีพื้นที่ให้แตะกดตำแหน่งปุ่มได้ดีอีกด้วย
แบตเตอรี่ 5000mAh ใช้งานได้นานพร้อมชาร์จไว 33W Flash Charge
อย่างที่บอกไปว่าตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 7.95 มม. แต่ใส่แบตฯมาได้ถึง 5000mAh เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ๆ ครับ ซึ่งด้วยความจุแบตฯขนาดนี้ ทำให้เราใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวันได้สบาย ๆ จะเล่นเกมบ้าง ถ่ายรูปหน่อย หรือเน้นโซเชียลทั้งวันก็ยังไหว เรียกว่าเล่นได้แบบไม่ต้องกังวลสมสโลแกน “สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม” เลยล่ะครับ
ส่วนเรื่องชาร์จก็ให้ระบบชาร์จไวมาที่ 33W Flash Charge เลย เร็วเพียงพอมาก ๆ OPPO เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 75 นาทีเท่านั้น หรือถ้ามีเวลาน้อยหน่อยแต่ต้องการใช้งานแบบด่วน ๆ ชาร์จเพียง 5 นาทีก็สามารถเอามาคุยโทรศัพท์ได้อีก 5.73 ชม.แล้ว เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานยุคนี้จริง ๆ ครับ
AI 3 กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 48MP
มาปิดท้ายด้วยเรื่องกล้องกันครับ OPPO A95 มาพร้อมกล้องหลัง AI 3 ตัว มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- 48MP กล้องหลัก f/1.7
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- 2MP กล้อง Macro f/2.4
จะเห็นว่ากล้องหลักนั้นมีความละเอียดมาสูงถึง 48MP เลย เพียงพอต่อการใช้งานมาก ๆ พร้อมกันนี้ยังมีเลนส์เสริมอย่าง Depth มาช่วยในการถ่าย Portrait และเลนส์ Macro มาให้เราได้ถ่ายวัตถุใกล้ ๆ อีกด้วย แต่ไม่มีกล้อง Ultra Wide มาด้วย เวลาจะถ่ายภาพมุมกว้างอาจต้องถอยเอาหน่อย
ซอฟต์แวร์เก่งด้วย AI Scene Enhancement
ในส่วนของการถ่ายภาพตัวกล้องมีระบบ AI Scene Enhancement ที่จัดการปรับแต่งภาพให้สวยขึ้นกว่าเดิมหลังถ่ายเสร็จ ช่วยให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวถ่ายท้องฟ้าก็อยากได้ฟ้าสีสดหน่อย, ถ่ายอาหารต้องเด่น ๆ ดูน่ากิน หรือถ่ายดอกไม้ก็โดดเด้งขึ้นมาจากฉากหลัง ทั้งหมดนี้ฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ช่วยได้จริง ๆ ครับ ก่อนถ่ายก็กดไอคอน AI ได้เลย
ผลลัพธ์ที่ออกมาคือสวยสมกับเป็น OPPO ครับ ภาพต่าง ๆ จะมีความสีสันที่สวยกำลังดีแบบไม่เว่อร์เกินไป แต่ที่เราชอบที่สุดคงเป็นฟีเจอร์ Auto HDR ที่มีติดมาให้ จัดการ Dynamic Range ได้ดีมาก ภาพย้อนแสงที่เรามองด้วยตาเปล่าอาจจะมืดเกินไปหน่อย แต่พอถ่ายด้วย AI Scene Enhancement แล้ว ผลลัพธ์ออกมาสว่างและมีมิติดีจริง ๆ ครับ เรียกว่าสอบผ่านในเรื่องภาพวิวเลยจริง ๆ
Portrait ปรับระดับความเบลอหลังได้ ฟิลเตอร์ก็มี
ส่วนโหมด Portrait ก็มีให้เลือกใช้งานเหมือนกัน ลูกเล่นก็มีให้ใช้อย่างเช่นการปรับระดับความเบลอของฉากหลัง หรือพวกฟิลเตอร์ที่ช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของภาพให้และพร้อมใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่ม ความเนียนของการตัดฉากหลังก็ทำได้ดีครับ มีเลนส์ Depth เข้ามาช่วยอีกหน่อยเลยได้ภาพที่สมบูรณ์มากขึ้น
Macro ส่องวัตถุได้ใกล้ระดับ 4 ซม.
และเลนส์ Macro ตัวสุดท้าย ก็จะให้เราได้ถ่ายภาพวัตถุใกล้ ๆ ได้ระดับ 4 ซม. ก็ถือว่าพอใช้ถ่ายภาพใกล้ ๆ ได้ อยากจะดูรายละเอียดของดอกไม้ หรือของชิ้นเล็ก ๆ แต่ว่าด้วยความที่ความละเอียดไม่สูงมาก อาจจะต้องพึ่งแสงที่เพียงพอหน่อย บวกกับระยะประมาณ 4 ซม.ก็ไม่ถือว่าใกล้สุด ๆ ถ้าอยากได้ความละเอียดที่ดีจริง ๆ แนะนำว่าใช้กล้องหลักแล้วซูมเอาสัก 1.5x ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ
Night Mode ก็มีนะ กลางคืนสวยแจ่ม
สำหรับภาพถ่ายกลางคืนหรือ Night mode บน OPPO A95 ก็มีมาให้ใช้งานเช่นกัน โดยความเก่งของโหมดนี้ก็คือการรวมแสงเข้าด้วยกันและประมวลผลจนได้ภาพที่กลางคืนที่สวยแจ่ม เปลี่ยนภาพกลางคืนให้มีสีสันขึ้นมากว่าเดิมโดยไม่เกินจริงครับ
กล้องหน้า 16MP เซลฟี่สวยเลยนะ
มาดูที่กล้องหน้ากันบ้าง OPPO A95 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP แน่นอนว่าคุณสมบัติเด่นอย่างพวก AI Beautification รุ่นนี้ก็มีมาให้ หรือจะเป็น Portrait ละลายฉากหลังเนียน ๆ จากกล้องหน้าก็ได้ด้วย คุณภาพที่ได้จากกล้องหน้าของ OPPO A95 ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของ OPPO เลยครับ
ราคา 9,499 บาท เปิดจอง 19 – 23 พ.ย.นี้
OPPO A95 เปิดราคามาที่ 9,499 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver และสีดำ Glowing Starry Black
เปิดให้จองก่อนใครตั้งแต่วันที่ 19 – 23 พฤศจิกายนนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับของสมนาคุณ
- E-VIP CARD ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และรับประกันหน้าจอ มูลค่า 3,900 บาท
- Mini Suit Case มูลค่า 1,299 บาท
รวมมูลค่า 5,199 บาท
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนที่ให้คุณสมาร์ทไปให้สุดฟอร์มในราคาที่จับต้องได้”
สรุปแล้ว OPPO A95 ก็เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสเปค Snapdragon 662 แรม 8GB + 5GB และมีความจุ 128GB แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh แถมมีชาร์จไว 33W Flash Charge เพียงพอต่อการใช้งานดีมาก ได้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43″ แสดงได้สวยงามและลงตัว มีกล้องหลัง 3 ตัวที่ใช้งานได้ดีไม่ว่าจะเป็นภาพวิวหรือภาพคน และที่ขาดไม่ได้ดีไซน์ที่สวยลงตัวแบบที่ถืออวดใครก็ไม่อาย เรียกว่าสมกับสโลแกนที่ OPPO นำเสนอมาจริง ๆ ว่า “สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม” มาจริง ๆ ครับ ใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในราคาที่ไม่สูงมากนัก รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยหรูด้วย OPPO Glow
- หน้าจอ AMOLED FHD+ สีสวย คมชัด
- สเปคภายในตอบโจทย์
- แบตเตอรี่ 5000mAh ในขนาดที่บางเพียง 7.95 มม.
- รองรับชาร์จไว 33W Flash Charge
- ถาดซิมเป็นแบบ Triple Slot
จุดสังเกต
- หน้าจอยังเป็นแค่ 60Hz
- ไม่มีเลนส์ Ultra Wide มาให้