ข่าวประชาสัมพันธ์
เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าด้วยกลยุทธ์ CRC Retailligence นำองค์กรสู่ค้าปลีกแห่งอนาคต ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมลงทุน 100,000 ล้านบาท
เซ็นทรัล รีเทล ประกาศกลยุทธ์ CRC Retailligence เดินหน้า 5 ปี เพื่อขับเคลื่อนองค์กร โดยการสร้างนวัตกรรมการค้าแห่งยุคอนาคต ด้วย 4 กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ พร้อมอัดฉีดทุ่มงบลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ขยายการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจทั้ง ฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และสร้างธุรกิจใหม่ ดันรายได้เติบโต 2.5 เท่า พร้อมสร้าง CRC Retailligence Ecosystem ที่พร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์ให้กับลูกค้าแบบไร้พรมแดนและไร้ขีดจำกัด โดยยึดมั่นให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเป็น Central to Life หรือ ศูนย์กลางชีวิตของผู้คน เพื่อก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งของค้าปลีกอัจฉริยะแห่งภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “โลกจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ใน 5 เทรนด์สำคัญ เราต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัว เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยสรุป 5 เทรนด์ดังนี้
1. A New Consumer Paradigm : พฤติกรรมของผู้บริโภคจะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ ทั้งในโลกจริงและ โลกเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว
2. Scaling in the Era of Digital Acceleration : โลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง
3. The Future of Wellness : ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตได้ครบวงจร
4. Partnership for Inclusive Growth : การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ จะมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน
5. Sustainability Agenda for All : การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องสำคัญของทุกคนและทุกภาคส่วน
เซ็นทรัล รีเทล จะเป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่งในการ Reshape Retail Industry ผ่านCRC Retailligence และมี CRC Data Ecosystem มาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้าทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง นำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบ Hyper-Personalization บนฐานข้อมูลที่เจาะลึก Customer Insight ด้วยการมอบประสบการณ์ “Now Moment” ให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ เข้าไปมีส่วนร่วมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า พร้อมมอบประสบการณ์ที่เชื่อมต่อโลกทั้งสองใบ ผ่าน Next-Gen Omni Retail เราจะเป็นคนที่รู้จักและรู้ใจลูกค้าอย่างดีที่สุด เซ็นทรัล รีเทล จะสร้างโลกใหม่ของค้าปลีกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน”
เซ็นทรัล รีเทล พร้อมเดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ประกอบด้วย
1. Reinvent Next–Gen Omni Retail – ยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
2. Accelerate Core Leadership – เร่งการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของ เซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล
3. Build New Growth Pillars – เดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม Wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค
4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2569 เราจะเติบโตในทุกมิติ ด้านรายได้เติบโต 2.5 เท่า EBITDA เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และ Market Cap เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ด้วยงบลงทุน 100,000 ล้านบาท ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ Next-Gen Omni Retail ผนวกกับ CRC Data Ecosystem
“จากผลสำเร็จของกลยุทธ์ New Central New Retail ที่ทำให้เซ็นทรัล รีเทล ก้าวขึ้นเป็น #1 Regional Omnichannel Retailer ที่ตั้งไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และทำให้เกิดขึ้นได้จริงจนประสบความสำเร็จ ถือเป็น บทพิสูจน์ว่าดีเอ็นเอของ เซ็นทรัล รีเทล ในวันนี้ แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยศักยภาพ เราพร้อมที่จะก้าวสู่ CRC Retailligence ที่ยังคงยึดหลักความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล (ESG) เป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ มุ่งหวังสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคม พร้อมกับสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกันระหว่างธุรกิจของ เซ็นทรัล รีเทล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค ภาครัฐ พันธมิตร คู่ค้า ตลอดจนพนักงานทุกคน สะท้อนผ่านทัศนคติและการดำเนินงานของทุกคนภายในองค์กรและขยายสู่ภายนอกเพื่อให้เกิดผลในวงกว้างอย่างต่อเนื่องและจากการติดอาวุธครบมือในครั้งนี้ ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในอีก 5 ปี ข้างหน้าได้อย่างแน่นอน” นายญนน์ กล่าวสรุป