Android News
OPPO Find X5 Pro สรุป 7 ฟีเจอร์สุดล้ำ กับความท้าท้ายครั้งใหม่
OPPO Find X5 Pro สรุป 7 ฟีเจอร์สุดล้ำ กับความท้าท้ายครั้งใหม่ที่น่าสนใจมากๆ สมาร์ทโฟนแฟล็กชิประดับพรีเมียม ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมมาให้แล้ว
OPPO ได้นำระบบกล้องที่ล้ำสมัยที่สุดซึ่งขับเคลื่อนโดย MariSilicon X และเซ็นเซอร์เรือธง IMX766 พร้อมการปรับเทียบสีธรรมชาติ Hasselblad อันเป็นเอกลักษณ์ หน้าจอแสดงผล 120Hz ระดับพันล้านสี ชิปเซ็ต แพลตฟอร์ม SoC เรือธงที่มีประสิทธิภาพ และการชาร์จไว SUPERVOOC 80W ที่พูดมาทั้งหมดนี้อยู่ในรุ่นล่าสุดนี้
1. 4K Ultra Night Video โดย MariSilicon X
เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายครั้งสำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนในการถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยแล้วเห็นรายละเอียดที่คมชัด นั่นเป็นเหตุผลที่ OPPO ได้ออกแบบ NPU สำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะ MariSilicon X เพื่อแสดงให้เห็นรายละเอียดในเวลากลางคืนได้ดียิ่งขึ้น
MariSilicon X ไม่เพียงแต่มาพร้อมพลังการประมวลผล AI ที่ทรงพลังที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ยังรันอัลกอริธึม AI Noise Reduction (AINR) ขั้นสูงที่ออกแบบโดยฝ่ายวิจัย OPPO ให้สามารถตรวจจับและลดสัญญาณรบกวนในแต่ละเฟรม ทีละพิกเซล ในขณะที่ยังคงรายละเอียดปลีกย่อย โทนสีผิว ความแม่นยำของสี
2. กล้อง Hasselblad สำหรับมือถือ
OPPO และ Hasselblad ร่วมมือกันพัฒนากล้อง Hasselblad สำหรับมือถือ ให้สัมผัสประสบการณ์เสียงชัตเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ และยังมีฟีเจอร์ Hasselblad Natural Color Calibration ในโหมด Pro และฟิลเตอร์ Master นำสีธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ โปรไฟล์สีระดับมืออาชีพ และสไตล์การถ่ายภาพมาสู่การถ่ายภาพบนมือถือ
นอกจากนี้แล้วยังได้สัมผัสกับการถ่ายภาพพาโนรามาแบบภาพยนตร์และภาพถ่ายสไตล์วินเทจในรูปแบบ XPan ในตำนานอีกด้วย
3. กันสั่น SLR-Level 5-Axis OIS
กล้อง Find X5 Pro ยังเป็นกล้องตัวแรกที่มีระบบกันสั่น 5 แกน ระดับ SLR ซึ่งเมื่อรวมการทำงานกับอัลกอริธึมแล้วจะช่วยป้องกันการสั่นของมือ ลดสัญญาณรบกวน และทำให้ภาพคมชัดขึ้น ได้ช็อตที่ดียิ่งขึ้นและวิดีโอที่นิ่งกว่าเดิมอย่างชัดเจน
สเปคกล้อง OPPO Find X5 Pro
- กล้องมุมกว้าง 50MP
- เซ็นเซอร์ Sony IMX 766
- ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56”
- รูรับแสง f/1.7
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน ระดับ SLR
- All-Pixel Omni-Directional PDAF
- กล้องมุมกว้างพิเศษ 50MP
- เซ็นเซอร์ Sony IMX 766
- ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56”
- รูรับแสง f/2.2
- มุมมองภาพ 110.3°
- All-Pixel Omni-Directional PDAF
- กล้องเทเลโฟโต้ 13MP
- รูรับแสง f/2.4
- ซูมออปติคอลไฮบริด 5 เท่า
- ดิจิตอลซูม 20 เท่า
4. ชาร์จไว 80W SUPERVOOC Flash Charge
เทคโนโลยีการชาร์จ 80W SUPERVOOC Flash Charge ทำให้ Find X5 Pro ที่มีแบตเตอรี่เซลล์คู่ขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถชาร์จถึง 50% ในเวลาเพียง 12 นาที และด้วย AIRVOOC 50W ทำให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้ถึง 100% ในเวลาเพียง 47 นาที
นอกจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จไวขึ้นแล้ว ยังมี Battery Health Engine ซึ่งช่วยรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลาที่นานขึ้น สูงสุด 1600 รอบการชาร์จ หรือประมาณสองเท่าของอายุการใช้งานมาตรฐานของแบตเตอรี่
5. Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
ด้านประสิทธิภาพตัวเครื่องมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ด้วยกระบวนการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร และ GPU รุ่นเรือธงในปี 2022 ของ Qualcomm ให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น 30% และประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อน 25% รวมถึงสามารถด้าน AI ที่ได้รับการปรับปรุงอีกด้วย
6. หน้าจอพันล้านสี
จอแสดงผลของ Find X5 Pro เป็นแผงหน้าจอ LTPO2 AMOLED แบบโค้งที่มีขนาดกว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ และช่วงสี P3 100% แถมเป็นหน้าจอ 10bit แสดงสีได้มากกว่า 1 พันล้านสี สร้างการไล่โทนสีและการไล่สีที่ราบรื่น แสดงความลึกและช่วงของการเปลี่ยนสีได้อย่างละเอียดอ่อน
OPPO Find X5 Pro ได้เพิ่มระดับการหรี่แสงหน้าจอ 8192 ระดับ เพื่อให้ตรงกับความเร็วในการปรับม่านตาในสภาพแสงที่แตกต่างกัน เพื่อการมองหน้าจอที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนสุดล้ำในการดูแลดวงตา
นอกจากนี้แล้ว หน้าจอยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลด้วยการปรับเทียบสีแบบ multi-brightness เป็นครั้งแรกอีกด้วย เพื่อสร้างสีที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมองหน้าจอในสภาพแสงห้องที่สลัวหรือกลางแจ้งแดดจ้า
7. หน้าจอลื่น 120Hz Dynamic Refresh Rate
อัตราการรีเฟรชไดนามิก 120Hz จะปรับโดยอัตโนมัติตามคอนเทนท์ที่แสดงบนหน้าจอ อย่างเช่นการอ่านบทความออนไลน์จะปรับอัตรารีเฟรชลงเพื่อประหยัดพลังงาน แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นการดูภาพยนตร์ก็จะปรับอัตรารีเฟรชให้สูงสุดเพื่อให้หน้าจอแสดงคอนเทนท์ได้อย่างราบรื่นที่สุด
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 7 ฟีเจอร์สุดล้ำของ OPPO Find X5 Pro ที่เรียกได้ว่าสร้างความน่าสนใจให้กับแฟนๆ ในปีนี้ รวมไปถึงเป็นความท้าท้ายครั้งใหม่ของ OPPO อีกด้วย โดยยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12 และตัวเครื่องเซรามิกที่มีความแข็งแรง ทนน้ำได้มาตรฐาน IP68
อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ