Connect with us

Buying Guides

แนะนำ 10 Smart Watch และ Smart Band น่าซื้อ น่าใช้ ในปี 2022

Published

on

การเลือก Smart Watch และ Smart Band สำหรับสวมใส่เพื่อติดตามกิจกรรมระหว่างวัน ติดตามการออกกำลังกาย ใช้เป็นตัวช่วยให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ หรือติดตามและวิคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพได้ด้วย

The Best Smart Watches in 2022

หากพูดถึง Smart Watch หรือ Smart Band เชื่อว่าปัจจุบันเป็นอุปกรณ์คู่หูอีกหนึ่งชิ้นที่ต้องมีและขาดไปไม่ได้ในการใช้งานแต่ละวัน ช่วยให้ติดต่อสื่อสารทำได้ง่ายมากขึ้น สามารถรับสายตอบ กลับข้อความ และค้นหาระบุตําแหน่งของที่หายได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วยในรุ่นรองรับฟีเจอร์นี้ รวมไปถึงการแจ้งเตือนต่างๆ ที่ส่งมาจากสมาร์ทโฟน เพื่อให้ไม่พลาดเรื่องสำคัญ

Smart Watch ที่ดีที่สุด

ถ้าให้พูดถึง Smart Watch ที่มีความน่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้ หลานคนก็น่าจะนึกถึง Galaxy Watch4 Classic เพราะเป็นครั้งแรกของสมาร์ทวอทช์ที่สามารถวัดค่าข้อมูลร่างกาย Body Composition ได้ ปกติเราก็ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักไฟฟ้าหรือไปวัดตามฟิตเนสใช่มั้ยครับ แต่ครั้งนี้วัดได้เลยที่ข้อมือได้ทันที

Watch4 Classic ตัวนี้เป็นขนาด 46 มม. เป็นหน้าปัดขนาดใหญ่ ใช้งานได้สะดวก สีสันคมชัด ก็จะเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีข้อมือใหญ่ แต่ถ้าใครข้อมือเล็กและอยากได้หน้าปัดเล็กลงมาหน่อย ก็จะมีรุ่น Watch4 รุ่นปกติ ที่มีขนาด 40 มม. และ 44 มม. วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียม

หากต้องการรุ่นที่มีขนาดเล็ก สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน ก็อาจมองไปที่ Smart Band ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ยังสามารถติดตามการกิจกรรมระหว่างได้อย่างครบถ้วน เช่น OPPO Watch Free และ HUAEWI Watch Fit mini เป็นต้น แถมยังได้ดีไซน์ที่สวยงาม สวมใส่เหมือนเป็นเครื่องประดับอีกชิ้น

ใครใช้งานสมาร์ทโฟน HUAWEI การเลือก HUAWEI Watch ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นอุปกรณ์ค่ายเดียวกันที่รองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการติดตามกิจกรรรมและการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนมาบนข้อมือ

สำหรับแฟนๆ ของ Apple แล้ว Apple Watch Series7 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ หน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ขอบจอบางลง หน้าจอสว่างกว่าเดิม ทำให้เห็นจอภาพได้โดดเด่นมากขึ้น สามารถใช้คีย์บอร์ดและแตะสั่งงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงด้านหน้าแบบคริสตัลที่ทนการแตกร้าวได้ดีที่สุด และชาร์จเร็วขึ้นด้วย

สำหรับผู้ใช้งาน Apple Watch Series 6 อาจจะแตกต่างกันไม่มากนักในเรื่องของฟีเจอร์การใช้งาน แต่สำหรับผู้ใช้งานในรุ่นเก่ากว่าอย่าง Series 3 ก็ค่อนข้างแตกต่างในฟีเจอร์การใช้งานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแอปออกซิเจนในเลือด การโทรฉุกเฉินทั่วโลก การตรวจจับการล้ม เข็มทิศ การตั้งค่าครอบครัว เป็นต้น

Smart Watch น่าใช้ ในปี 2022

OPPO Watch Free

OPPO Watch Free

OPPO Watch Free มาพร้อมจุดเด่นสำหรับคนรักสุขภาพมากมายทั้ง OSleep ช่วยติดตามการนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ, น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย, หน้าจอ AMOLED 1.64 นิ้ว, Watch Faces มากมาย, โหมดการออกกำลังกายกว่า 100 โหมด, แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 14 วัน

โหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด คอร์สการวิ่ง ฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย การตรวจจับโหมดที่ฬาอัจฉริย: การเดิน, การวิ่ง, การออกกำลังกายด้วยเครื่อง Elliptical Trainer และการออกกำลังกายด้วยเครื่อง Rowing Machine มีฟีเจอร์ Find My Phone, การควบคุมการเล่นเพลง และอื่นๆ

Samsung Galaxy Watch4 Classic

Samsung Galaxy Watch4 Classic

Galaxy Watch4 มีกระจกหน้าจอ Gorilla Glass DX ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน ด้านหลังมีเซ็นเซอร์ Samsung BioActive มีการพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงประสิทธิภาพการตรวจวัดที่แม่นยำ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 เซ็นเซอร์ ได้แก่ เซ็นเซอร์ PPG การวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยแสงอินฟราเรดแบบออปติคอล, เซ็นเซอร์ ECG คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และ BIA วิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกาย

Galaxy Watch4 สามารถติดตามกิจกรรมปรระจำวันได้อัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องโหมดการออกกำลังกายก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง หรือรูปแบบการออกกำลังกายทั่วไป แต่ถ้าต้องการความให้ตัวสมาร์ทวอทช์บันทึกการออกกำลังกายได้ตรงตามที่ต้องการ ก็เลือกเองได้เลย ซึ่งก็รองรับการออกกำลังกายมากกว่า 90 รูปแบบ

Xiaomi Watch S1

Xiaomi Watch S1

Xiaomi Watch S1 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว มาพร้อมหน้าจอสีสันสดใส AMOLED และติดตามโหมดกีฬาได้มากกว่า 117 ชนิด กันน้ำได้ระดับ 5ATM และมีใครโฟนและลำโพงในตัว

ภายในมีแบตเตอรี่ 470 mAh รองรับการชาร์จแบบไร้สาย มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (รวมถึงออกซิเจนในเลือด SpO2), เซ็นเซอร์วัดความเร็ว, ไจโรสโคป, เซ็นเซอร์ Geomagnetic, เซ็นเซอร์ความดันอากาศ, เซ็นเซอร์วัดแสงโดยรอบ

Apple Watch Series7

Apple Watch Series7

Apple Watch Series7 มีจอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด ความสว่าง 1,000 นิต ใช้ SiP รุ่น S7 พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Dual‑core 64 บิต, ชิประบบไร้สาย W3, ชิป U1 (อัลตร้าไวด์แบนด์) และ Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น

ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า และเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัลรุ่นที่ 3 มีระบบการแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร และทนฝุ่น (IP6X)

HUAWEI Watch GT 3

HUAWEI Watch GT 3

HUAWEI Watch GT 3 ขนาด 46 มม.ตัวเรือนที่มีความสวยงามและดูพรีเมียมมากๆ ซึ่งเมื่อลองใช้งานจริง ความไหลลื่นของระบบก็ทำได้ดีเกินคาด หน้าจอสัมผัสได้ติดนิ้ว และ UI ก็ไม่มีการกระตุกให้เห็นเลยด้วย ขณะที่ฟีเจอร์ทั้งสุขภาพและการออกกำลังกายก็ครบถ้วนและตอบโจทย์สำหรับคนยุคนี้ที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก

ในการออกกำลังกายก็ให้ความแม่นยำที่สูงสุดด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen 5.0+ ที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่สำคัญยังสามารถวัดค่าได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์เช่นเดียวกับการวัดเพื่อสุขภาพ ทั้งยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วในขณะออกกำลังกายได้ เช่น การเดิน, วิ่ง, โยคะ หรือแอโรบิก

Xiaomi Redmi Watch 2 Lite

Xiaomi Redmi Watch 2 Lite

Redmi Watch 2 Lite สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่จาก Xiaomi ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์เจ๋ง ๆ Get Fit, Start Now รุ่นนี้มาพร้อมความน่าสนใจหลายอย่างทั้งดีไซน์ที่กะทัดรัดน้ำหนักเบา หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 1.55″ มีฟีเจอร์รองรับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) และระดับการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง

อีกเรื่องที่สมาร์ทวอทช์ควรทำได้ก็คือการรับการแจ้งเตือน บน Redmi Watch 2 Lite รองรับการแจ้งเตือนทุกรูปแบบที่อยู่บนสมาร์ทโฟน และแน่นอนภาษาไทยก็มีด้วย เวลามีแจ้งเตือนเข้ามาเราก็สามารถดูได้ก่อนจากข้อมือโดยไม่ต้องยกมือถือขึ้นมาดู

Honor Watch GS 3

Honor Watch GS 3

Honor Watch GS 3 สมาร์ทวอชหน้าจอ 1.43 นิ้ว AMOLED ดีไซน์สวยหรูระดับพรีเมียม และรองรับ 5 ระบบดาวเทียมให้ตำแหน่ง GPS ที่แม่นยำ ใส่ RAM มาให้ขนาด 4GB และความจุภายในเครื่อง 32GB

นอกจากนี้แล้ว ยังมีลำโพงในตัว รองรับเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0, วัดความดันบรรยากาศ, วัดการเต้นหัวใจ, วัด SpO2, GPS ในตัว และแบตเตอรี่ 451mAh ชาร์จไร้สาย

HUAWEI Watch Fit mini

HUAWEI Watch Fit mini

HUAWEI Watch Fit mini มีจอแสดงผลสี่เหลี่ยม AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว พร้อมรองรับการสัมผัสและท่าทางสไลด์ ความละเอียด 368 x 194 พิกเซล ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 20 กรัม และมีสายให้เลือกสามแบบ ได้แก่ Frosty White และ Mocha Brown ที่ผลิตจากหนัง หรือ Taro Purple ซึ่งเป็นสาย Fluoroelastomer

ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์ IMU แบบ 6 แกน ที่ใช้เป็นไจโรสโคปและมาตรความเร่ง มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลัง นอกจากนี้ยังรองรับการวัด SpO2 และเมื่อผลลัพธ์ต่ำกว่า 80% ระบบจะแนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

realme Watch T1

realme Watch T1

realme Watch T1 สามารถการติดตามการนอนหลับ การติดตามกิจกรรมพร้อมการรองรับโหมดกีฬา 110 โหมด การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจสอบความเครียด และการตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด อันสุดท้ายยังสามารถวัดได้เมื่อว่าเริ่มนอนหลับตอนไหน

สำหรับหน้าจอเป็นชนิด AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว 416 x 416 พิกเซล ปกป้องด้วยกระจก Gorilla Glass และรองรับหน้าปัดแบบกำหนดเอง และการแสดงผลแบบเปิดตลอดเวลา มีฟีเจอร์การฝึกหายใจ การควบคุมเพลงและกล้อง และมี GPS ในตัวที่รองรับ GLONASS, Galileo และ Beidou ไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟนในการติดตามเส้นทางที่แม่นยำ

vivo Watch 2

vivo Watch 2

vivo Watch 2 หน้าจอ 1.43 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล กันน้ำได้ลึก 50 เมตร (5ATM) และติดตามสุขภาพ กิจกรรมออกกำลังกายได้ตลอดทั้งวัน

ตัวสมาร์ทวอทช์มาพร้อมกับการรองรับ Bluetooth 5.2 สำหรับการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูล 2GB มีเซ็นเซอร์เพื่อวัดความดันอากาศและระดับความสูง และมี NFC สำหรับการแตะเข้าใช้บริการรถไฟใต้ดินและรถประจำทางในประเทศจีนได้ด้วย

วิธีเลือก Smart Watch ในปี 2022

ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานเพียงแค่การทำงานพื้นฐานทั่วไป เช่น นับก้าวเดิน การวิ่ง การนอน เพียงมี Smart Band ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว แต่หากต้องการข้อมูลระดับสูงด้านการออกกำลังกาย การนอน การวิเคราะห์ร่างกาย รวมไปถึงตำแหน่ง GPS ต้องเลือ Smart Watch ระดับไฮเอนด์

วัด SpO2: ปัจจุบันการวัดค่า SpO2 ถือเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ เพื่อให้ทราบข้อมูลสุขภาพเบื้องต้น และทั้ง Smart Watch, Smart Band รุ่นใหม่ก็มีมาให้เกือบทุกรุ่น แต่อย่างไรก็ตาม หากพบความผิดปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ขนาดตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพิจารณาด้วย เพราะอุปกรณ์นี้เราต้องสวมใส่ตลอดทั้งวัน ต้องมั่นใจว่าขนาดตัวเครื่องเหมาะกับข้อมือของเรา ไม่เล็กจนเกินไปหรือใหญ่จนเกินไป รวมไปถึงน้ำหนักที่ใส่แล้วรู้สึกสบายหรือไม่

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่ทางทีมงาน iphone-droid.net แนะนำ Smart Watch และ Smart Band น่าซื้อ น่าใช้ ในปี 2022 รวมไปถึงงบประมาณด้วย อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ

Android News2 ชั่วโมง ago

Dave2D ทำการทดสอบ Snapdragon 8 Elite ได้การประหยัดพลังงานสูงขึ้นถึง 43%

นับว่าเป็นการอัปเกรด...

Android News3 ชั่วโมง ago

คาดหวัง ! Ice Universe เผย One UI 7.0 จะมีแอนิเมชันและการเปลี่ยนฉากต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมมาก

หลังจากที่เคยมีรายงา...

Android News4 ชั่วโมง ago

Redmi Note 14 5G Series ยืนยันเปิดตัวในอินเดียวันที่ 9 ธ.ค. มาพร้อมสโลแกน “Super Camera, Super AI”

Xiaomi ได้ประกาศวันเ...

Apple News5 ชั่วโมง ago

ลือ ! Apple กำลังสร้าง ‘LLM Siri’ ในปี 2026 บน iOS 19

ตามรายงานของ Bloombe...

Android News19 ชั่วโมง ago

เช็คกัน !! OPPO เผยตารางอัปเดต ColorOS 15 บน Android 15 ทั่วโลก

ในวันนี้ OPPO ได้เปิ...

Apple News20 ชั่วโมง ago

อย่างสวย ! YouTuber โชว์ดีไซน์ iPhone 17 Air กล้องหลัง 1 เลนส์ พร้อมจอ Dynamic Island

เราได้ยินมาแค่ข่าวลื...

HUAWEI IdeaHub HUAWEI IdeaHub
IT News20 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่

หัวเว่ยเปิดตัว IdeaH...

Smart Review23 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook S 14 OLED (S5406) โน้ตบุ๊คดีไซน์มินิมอล l Intel Core Ultra 7 258V l ใช้นานสุด 27 ชม. และคีย์บอร์ดมีไฟ RGB !

รีวิว ASUS Vivobook ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก