มือถือ Android น่าซื้อ น่าใช้ แบรนด์ยอดนิยม ในปี 2022

มือถือ Android น่าซื้อ ที่ดีที่สุด คือรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของเรา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นราคาหลักพันไปจนถึงหลายหมื่นบาท ก็ล้วนแล้วออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการสเปคแบบไหนและมีงบประมาณเท่าไหร่

ในปี 2022 มีมือถือ Android หลากหลายรุ่นให้เลือก และมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้การใช้งานดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะรุ่นเรือธงหรือแฟล็กชิป ซึ่งเป็นรุ่นที่ดีที่สุดของแต่ละค่าย ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S22 Ultra, OPPO Find X5 Pro, OnePlus 10 Pro, realme GT2 Pro, Xiaomi 12 Pro และอีกหลายรุ่น

ในปีนี้เป็นที่น่าจับตามอง Android ในหลายรุ่นที่จะเปิดตัวครั้งแรกและรอคิวเข้ามาวางจำหน่ายในไทยอีกเพียบ เพราะตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปี 2022 โดยในช่วงกลางปีและปลายปีเรามักจะได้เห็นหลายค่ายมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ กันอย่างดุเดือด

สำหรับแฟนๆ Apple ที่กำลังมองหา iPhone ที่ดีที่สุดและเหมาะกับการใช้งาน สามารถดูวิธีเลือก iPhone 2022 ได้ที่นี่

มือถือ Android น่าซื้อ ในปี 2022

สำหรับแฟนๆ Samsung รุ่นที่ดีที่สุดในขณะนี้ก็ต้องเป็น Galaxy S22 Ultra เป็นรุ่นที่มาพร้อมปากกา S Pen ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่เข้ามาทำให้การใช้งาน S-Series สามารถทำสิ่งใหม่ๆ ได้ในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน รวมไปถึงกล้องถ่ายรูปก็ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

แฟล็กชิปของ Samsung ที่ราคาไม่แพงสุดอย่างรุ่น Galaxy S22 Plus ก็ให้ฟีเจอร์ที่เกือบเทียบเท่า S22 Ultra ในราคาที่ถูกกว่าหลายพันบาท หรือแฟนๆ ที่ต้องการความคุ้มค่าในการเรื่องของการใช้งานเป็นหลักก็อาจมองไปที่รุ่น Galaxy S21 FE ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ทางด้าน OPPO ค่ายมือถือที่น่าจับตามองหลังจากเปิดตัวรุ่น Find X5 Pro โดยได้นำระบบกล้องที่ล้ำสมัยที่สุดซึ่งขับเคลื่อนโดย MariSilicon X และเซ็นเซอร์เรือธง IMX766 พร้อมการปรับเทียบสีธรรมชาติ Hasselblad อันเป็นเอกลักษณ์ของกล้องค่ายนี้ และการชาร์จไว SUPERVOOC 80W คือน่าสนใจมากๆ ในปีนี้

อีกหนึ่งค่ายที่เปิดตัวอะไรมาก็มักจะได้รับความในใจอย่างมาก โดยล่าสุดได้เปิดตัว Xiaomi 12 Pro มาพร้อมหน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 และมีแบตเตอรี่ 4600mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W, ชาร์จไร้สาย 50W และมีลำโพงสเตอริโอคู่จาก Harman Kardon

มือถือ Android น่าซื้อ เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้

Samsung Galaxy S22 Ultra

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว Dynamic AMOLED
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12, One UI 4.1
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 1
• RAM: 8GB, 12GB
• ความจุเครื่อง: 128GB, 256GB, 512GB, 1TB
• กล้องหลัง 4 ตัว
  • 108MP กล้องหลัก f/1.8 OIS
  • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
  • 10MP กล้อง Tele 3X f/2.4 OIS
  • 10MP กล้อง Periscope 10X f/4.9 OIS
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จไว 45W

Galaxy S22 Ultra เรือธงคู่ปากการุ่นใหม่ที่ออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้ Note ที่กำลังรอรุ่นอัปเกรดอยู่จริง ๆ อย่างที่เห็นในทุกส่วนที่เรารีวิว ครบเครื่องในด้าน Productivity อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่ระดับ 6.8″ ความละเอียดสูงการตอบสนองไว ปากกา S Pen ที่ตอบโจทย์คนทำงาน คนที่ชอบจดบันทึก หรือนักวาดแบบไม่มีใครเทียบได้

สเปคอื่น ๆ ก็ถือว่าเป็นการอัปเกรดตามรอบที่ยกระดับการใช้งานให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชิป Snapdragon 8 Gen 1 ท็อปที่สุด ณ ตอนนี้ แบตเตอรี่ 5000mAh มีระบบชาร์จไว 45W และที่ขาดไม่ได้ก็คือเรื่องกล้องไฮไลท์อีกอย่างที่ถูกอัปเกรดได้สมกับเป็น Samsung ใครที่อยากอัปเกรด Note รุ่นเก่าพอดีหรืออยากได้เรือธงที่ยกระดับการทำงานบนสมาร์ทโฟนให้มากกว่าเดิม Galaxy S22 Ultra คือที่สุดแล้วในตอนนี้

Samsung Galaxy A53 5G

• หน้าจอ: 6.5 นิ้ว Super AMOLED แบบ Infinity-O
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12, One UI 4.1
• ชิปเซ็ต: Exynos 1280
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• กล้องหลัง 4 ตัว
  • กล้องหลัก 64MP, f/1.8, OIS
  • กล้อง Ultra-wide 12MP, f/2.2
  • กล้อง Depth 5MP, f/2.4
  • กล้อง Macro 5MP, f/2.4
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จไว 25W

Samsung Galaxy A53 5G บอกเลยว่ารุ่นนี้ชูโรงในเรื่องกล้องหลังที่ถ่ายได้สนุก มีหลายมีฟีเจอร์ให้ได้ลองใช้และแก้ไขได้เยอะมากๆ โดยได้ AI เข้ามาช่วยได้เป็นอย่างดี ได้เลนส์กันสั่น OIS ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล และได้ฟีเจอร์ใหม่เพียบใน One UI 4.1

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจคือการใช้หน้าจอ Super AMOLED และมีลำโพงคู่แบบ Dolby ATMOS เพื่อความบันเทิงด้านเสียงที่สมจริง ให้เสียงที่กระหึ่มมากๆ มีมิติแยกซ้าย-ขวาชัดเจน รวมไปถึงชิป Exynos 1280 ที่หมดปัญหาเรื่องความร้อนได้เป็นอย่างดี

Xiaomi 12 Pro

• หน้าจอ: 6.73 นิ้ว AMOLED แบบ 10-bit Dynamic 120Hz LTPO
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12, MIUI 13
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 1
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• กล้องหลัก 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50MP (Sony IMX707) f/1.9
  • กล้อง Ultra Wide-angle 50MP f/2.2
  • กล้อง Tele 2X 50MP f/1.9
• แบตเตอรี่: 4600mAh ชาร์จไว 120W HyperCharge

Xiaomi 12 Pro เป็นเรือธงที่ครบเครื่องและตอบโจทย์การใช้งานทุกด้าน เพราะทั้งสเปคภายในที่จัดมาให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งหน้าจอ AMOLED DotDisplay ระดับ 10Bit สวยงามและลื่นไหลด้วย refresh rate 120Hz มีชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ระดับแนวหน้าที่สุดของสมาร์ทโฟน Android ตอนนี้

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และระบบชาร์จไวสูงสุดถึง 120W HyperCharge และปิดท้ายที่ไฮไลท์อย่างกล้องที่จัดเต็มในทุกระยะบน Xiaomi 12 Pro ใหสร้างสรรค์ภาพถ่ายระดับ Masterpiece ได้ด้วยมือถือเครื่องเดียว สมแล้วที่ใช้สโลแกนว่า “Master every scene” ไม่เกินไปจริง ๆ สำหรับรุ่นนี้ครับ

realme GT 2 Pro 5G

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว Super Reality AMOLED
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12, MIUI 13
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 1
• RAM: 8GB, 12GB
• ความจุเครื่อง: 128GB, 256GB, 256GB
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50MP, f/1.8, OIS
  • กล้อง Ultra-Wide Angle 50 MP, f/2.2
  • กล้อง Ultra-macro ระยะโฟกัส 4.7 มม.
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จไว 65W SuperDart Charge

realme GT 2 Pro 5G เป็นอีกรุ่นที่ขอยกให้เป็นหนึ่งในรุ่นที่ถ่ายภาพได้สนุกและเพลินมาก ฟีเจอร์ที่ให้มามีเยอะมากๆ สลับถ่ายไปมาทั้งเลนส์หลัก เลนส์มุมกว้างปกติ และกว้าง 150 องศาก็หมดไปครึ่งวันแล้วครับ (แบตหลังเหลืออีกเยอะด้วยนะ) นี่ยังไม่รวมถึงเลนส์ Microscope ที่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของอะไรก็อยากให้เราได้ลองส่องไปหมดจริงๆ

ใครที่มาสวยเกมเมอร์ก็คงถูกใจไม่แพ้กันแน่นอน ด้วยชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 1 ก็ทำได้ดีมากๆ ที่แม้ว่าจะแรงจนร้อนไปบ้าง (เป็นเรื่องปกติในสมาร์ทโฟนทุกเครื่องอยู่แล้ว) แต่การระบายความร้อนรุ่นนี้ทำได้เร็วมากแม้จะอยู่ในที่กลางแจ้งก็ตาม ขณะที่หน้าจอที่ให้มาแบบ 2K AMOLED ก็สวยงามมากจริงๆ

HUAWEI P50 Pro

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว OLED 10-Bit 10.7 พันล้านสี
• ระบบปฏิบัติการ EMUI 12
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 888 4G
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • 50MP กล้องหลัก True-Colour f/1.8, OIS
  • 40MP กล้อง Mono True-Colour f/1.6
  • 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
  • 64MP กล้อง SuperZoom f/3.5, OIS รองรับ AF
• แบตเตอรี่: 4360mAh ชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 66W

HUAWEI P50 Pro ก็เป็นอีกหนึ่งเรือธงที่ชูเรื่องกล้องมาเป็นที่ 1 และก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน ทั้งภาพนิ่งที่ยังเก่งเหมือนเดิม มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายที่ทำให้ภาพสวยและสมจริงขึ้น การกลับมาของกล้อง Mono ก็ช่วยให้เราสนุกไปกับการถ่ายภาพขาว-ดำอีกครั้ง ระยะต่าง ๆ ของเลนส์ก็ให้มาครบแม้ช่วงซูมจะไม่หวือหวาเท่ารุ่นก่อน ๆ แต่ก็ยังทำได้น่าประทับใจ จะมีเรื่องที่ยังติดใจอยู่บ้างก็คือเรื่องของ Portrait mode และความร้อนอยู่บ้างที่ถ้าปรับแก้ตรงนี้ได้จะเป็นรุ่นที่เพอร์เฟ็กต์สุด ๆ เลยล่ะครับ

เรื่องสำคัญอย่างซอฟต์แวร์ที่ต้องทำงานผ่าน HMS ก็ดูจะค่อย ๆ ปรับแก้ให้ดีขึ้นได้ด้วย Petal Search และ G Space จนเพียงพอต่อการใช้งานได้เยอะแล้ว อีกทั้งฮาร์ดแวร์งานประกอบตัวเครื่องที่หรูหรา หน้าจอ OLED ที่สวยสมจริง แบตเตอรี่ใช้งานได้ดีพร้อมชาร์จไว 66W ก็ยังเป็นรุ่นที่เราเชื่อว่าแฟน ๆ HUAWEI หลายคนคงตกหลุมรักได้ไม่ยากจริง ๆ ครับ

HUAWEI P50 Pocket Premium Edition

• หน้าจอ: 6.9 นิ้ว OLED 10-Bit 10.7 พันล้านสี
• ระบบปฏิบัติการ: EMUI 12
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 888 4G
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 512GB
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • 40MP กล้องหลัก True-Chroma f/1.8
  • 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
  • 32MP กล้อง Ultra Spectrum f/1.8
• แบตเตอรี่: 4000mAh ชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 40W

HUAWEI P50 Pocket ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนฝาพับที่หรูหราสมการรอคอยสำหรับแฟน ๆ ยิ่งเป็นรุ่น Premium Edition พร้อมลวดลาย 3D ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังแล้วด้วย เรื่องรูปลักษณ์ดีไซน์ ไม่เป็นรองใครแน่นอน แถมยังได้รูปแบบบานพับแบบใหม่ที่ออกแบบมาพิเศษลดรอยพับไม่ให้เด่น แถมเวลาพับก็แนบสนิทอีก ยิ่งเสริมความสมบูรณ์แบบเข้าไปอีก

เรื่องสเปคก็จัดเต็มมาแบบไม่มีกั๊กทั้งหน้าจอ OLED 6.9″ ระดับ 10 bit ที่สีสันสวยงาม คมชัดสุด ๆ ชิปเซ็ตระดับแนวหน้าอย่าง Snapdragon 888 ความจุระดับ 12GB + 512GB และที่ขาดไม่ได้คือแบตเตอรี่ที่จุเยอะถึง 4000mAh พร้อมชาร์จไว 40W เรียกว่าสูงที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนฝาพับเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ยังมีจุดสังเกตที่น่าพิจารณาอยู่บ้างคือเรื่องเครือข่ายที่รองรับแค่ 4G การใช้งาน HMS ที่อาจจะยังไม่สะดวก 100%

OPPO Reno7 Z 5G

• หน้าจอ: 6.4 นิ้ว AMOLED
• ระบบปฏิบัติการ: Android 11, ColorOS 12
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 695 5G
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 64MP
  • กล้อง Depth 2MP
  • กล้อง macro 2MP
• แบตเตอรี่: 4500mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC

OPPO Reno7 Z 5G เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เก่งในเรื่องการถ่ายพอร์ตเทรตเหนือคู่แข่งในกลุ่มราคาเดียวกันจริง ๆ ด้วยฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง Bokeh Flare Portrait ช่วยเปลี่ยนภาพถ่ายให้สวยดั่งกล้อง DSLR แบบที่หาได้ยากในเรตราคานี้ อีกทั้งสเปคที่ให้มายังครอบคลุมการใช้งานครบ

หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4″ ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G มีความจุ 8GB + 128GB แบตเตอรี่เยอะ 4500mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC และที่สำคัญยังได้ดีไซน์ทรง Ultra-Slim Design ที่โดดเด่นสะดุดตาอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปพอร์ตเทรตสวย ๆ ในงบที่สบายกระเป๋าอยู่ OPPO Reno7 Z 5G คือตัวเลือกที่เราแนะนำที่สุดในตอนนี้เลยล่ะครับ

POCO X4 Pro 5G

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว AMOLED 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 11, MIUI 13 for POCO
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 695 5G
• RAM: 6GB, 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB, 256GB
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 108MP, f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide 8MP, f/2.2
  • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จไว 67W Turbo Charging

POCO X4 Pro 5G มาได้ 3-4 วันเต็มๆ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ สเปคที่ได้มาเทียบเท่ากับเรือธงเลยทีเดียว แต่มาในราคาที่ประหยัดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz ที่ทำได้ลื่นไหลมากจริงๆ รวมถึงการรองรับ 5G

กล้อง 108 ล้านพิกเซลพร้อมฟีเจอร์อื่นแบบครบถ้วน, แบตก็อึด ชาร์จก็ไวมากๆ และดีไซน์ที่ทำได้ออกมาสะดุดตามากๆ ใครที่มองหาสักรุ่นสเปคดีๆ ราคาจับต้องได้ POCO X4 Pro 5G น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ

vivo V23 5G

• หน้าจอ: 6.44 นิ้ว AMOLED
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12, Funtouch OS 12
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 920
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 64MP, f/1.9
  • กล้อง Ultra-wide 8MP, f/2.2
  • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
• กล้องหน้า 2 ตัว: 50MP + 8MP
• แบตเตอรี่: 4200mAh ชาร์จไว 44W vivo FlashCharge

vivo V23 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ออกมาตอบโจทย์สายเซลฟี่อย่างแท้จริงด้วยกล้องหน้าคู่ 50MP AF คุณภาพเยี่ยมมาก เซลฟี่ได้เหนือระดับพร้อมเทคโนโลยีมากมายแถมยังมีกล้อง Wide angle มุมกว้าง 105º ที่ช่วยให้เราเก็บภาพเซลฟี่ได้กว้างกว่าที่เคย

อีกจุดที่เราชอบมาก ๆ บนรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ที่สวยงามอลังงานด้วยบอดี้กระจกพร้อมกรอบอลูมิเนียมสุดหรูพร้อมฟีเจอร์ฝาหลังเปลี่ยนสี Color-Changing Glass ที่สร้างสรรค์และเปลี่ยนดีไซน์ในแบบเดิม ๆ ได้เป็นอย่างดี แค่ 2 อย่างเรื่องกล้องหน้าและดีไซน์นี้ก็น่าจะดึงดูดแฟน ๆ ได้ไม่ยาก

นเรื่องสเปคภายใน vivo V23 5G ก็ไม่น้อยหน้าทั้งชิปเซ็ต Dimensity 920 (6nm) หน้าจอ AMOLED 6.44″ 90Hz ความจุเยอะถึง 12GB + 256GB แบตเตอรี่ใหญ่ 4200mAh ชาร์จไว 44W จะมีจุดสังเกตอยู่นิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องลำโพงของตัวเครื่องที่เป็นแบบ mono เท่านั้น นอกนั้นถือว่าสมบูรณ์แบบเลย

วิธีเลือกซื้อ มือถือใหม่

ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานเพียงแค่การทำงานพื้นฐานทั่วไป เล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกมนิดหน่อย ก็ควรเลือกมือถือที่มีอย่างน้อยๆ RAM 4GB-6GB ก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการประสิทธิภาพเพื่อการเล่นเกมหนักๆ และถ่ายวิดีโอหรือตัดต่อคลิปมือถือบนมือถือด้วย ก็ควรเลือกรุ่นที่ใช้ชิประดับบน และอย่างน้อย RAM 6GB ขึ้นไป

หน้าจอแสดงผล: สำหรับการใช้งานที่เน้นความบันเทิงผ่านหน้าจอเป็นหลัก เช่น ดูหนัง ดูคลิป รวมไปถึงเล่นเกมที่ต้องการเฟรมเรทที่ลื่นไหล สีสันสดใส ก็ต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจออย่างน้อย FHD รีเฟรชเรท 90Hz ขึ้นไป และถ้าเป็นแผงหน้าจอ OLED ก็จะได้สีสันที่สวยงามมากขึ้นด้วย

กราฟิกและเกม: มือถือใหม่ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้สามารถเล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ แต่หากสำหรับเกมที่มีกราฟิกระดับสูง ให้มองหามือถือสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะไปเลยก็ได้ หรือแฟล็กชิปจากทุกค่ายก็เล่นได้เต็มที่ไม่มีหัวร้อน

ขนาดตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนอาจมองข้ามในตอนแรก แต่หลังจากใช้งานแล้วก็มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกขนาดที่เหมาะกับขนาดมือ จับถนัด หรือการถือใช้งานนานๆ แล้วไม่เมื่อย ก็ลองไปจับเครื่องจริงก่อนซื้อได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่ทางทีมงาน iphone-droid.net แนะนำ มือถือ Android ที่ดีที่สุด และเหมาะกับการใช้งาน ในปี 2022 อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ