Connect with us

IT News

“ดิจิทัลพาวเวอร์” ทิศทางธุรกิจใหม่ไฟแรงของ HUAWEI เพื่ออนาคตแห่งความยั่งยืน

Published

on

โรงงาน Southern Factory Rooftop Smart PV Plant ที่ติดตั้ง ณ สำนักงานใหญ่หัวเว่ย เมืองตงกวน เสินเจิ้น ประเทศจีน

กรุงเทพฯ, 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 – ปัจจุบัน เทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในระดับโลกไม่ได้จำกัดอยู่แค่นวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมโครงข่ายอย่าง 5G แต่ยังรวมไปถึงการประมวลผลคลาวด์ AI และที่สำคัญคือการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมพลังงาน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนที่นานาประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยต่างให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้ ซึ่งข้อมูลจากงานประชุมประจำปี World Economic Forum (WEF) ระบุว่าเทคโนโลยีไอซีทีจะมีส่วนช่วยภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 12,000 ล้านตันภายในปี พ.ศ. 2573 และจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงานได้ถึง 1,800 ล้านตันจากด้านการผลิตพลังงานเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ยังคาดการณ์ว่าการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยังจะช่วยลดต้นทุนการผลิตพลังงานในแต่ละปีได้มากถึง 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2559 ถึง พ.ศ. 2583 ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทผู้นำเทคโนโลยีอย่าง “หัวเว่ย” หันมาให้ความสำคัญกับส่วนธุรกิจ “ดิจิทัลพาวเวอร์” อย่างเต็มตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่ของทิศทางธุรกิจ การพัฒนานวัตกรรมใหม่ และการลงทุน เพื่อตอบรับอนาคตของโลกแห่งความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ในประเทศไทย บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย ได้ตั้งส่วนธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 โดยมีจุดประสงค์เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในระดับโลก ซึ่งก็คือการสร้างนวัตกรรมในการผลิตพลังงานสะอาด การเปลี่ยนผ่านพลังงานเข้าสู่ยุคดิจิทัล การผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการควบรวมพลังงานอัจฉริยะ โดยในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ของหัวเว่ยได้ช่วยลูกค้าผลิตพลังงานสะอาดไปแล้วกว่า 482,900 พันล้านกิโลวัตต์ และช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าไปแล้วกว่า 14,200 พันล้านกิโลวัตต์ ซึ่งถือว่าช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้มากกว่า 230 ล้านตัน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 320 ล้านต้น

ทั้งนี้ หัวใจสำคัญในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับหัวเว่ยคือ การเป็นองค์กรที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เน้นเรื่องพลังงานไฟฟ้า และการปรับตัวเป็นองค์กรอัจฉริยะ ซึ่งทำให้ส่วนดิจิทัลพาวเวอร์ของหัวเว่ยให้ความสำคัญกับองค์ประกอบหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการผลิตพลังงาน ด้านการใช้พลังงาน และการกักเก็บพลังงาน โดยในด้านการผลิตพลังงาน หัวเว่ยจะพัฒนาระบบสำหรับพลังงานสะอาดซึ่งจะเน้นเทคโนโลยีสำหรับพลังงานทดแทน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และการกักเก็บพลังงาน เป็นต้น สำหรับด้านการใช้พลังงาน หัวเว่ยจะเน้นโปรโมทเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยโซลูชัน DriveONE รวมทั้งโซลูชันไอซีทีสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีประสิทธิภาพ และมีความชาญฉลาด ส่วนในด้านการกักเก็บพลังงาน หัวเว่ยจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI บิ๊กดาต้า คลาวด์ และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งเพื่อสร้างระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ

ภายในงานประชุม Huawei Global Analyst Summit (HAS) 2022 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา หัวเว่ยยังได้เปิดเผยถึงเทคโนโลยีระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงงาน Southern Factory Rooftop Smart PV Plant ที่ติดตั้ง ณ สำนักงานใหญ่หัวเว่ย เมืองตงกวน เสินเจิ้น ประเทศจีน โดยระบบดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าสูงสุดได้ถึง 17 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมงในรอบหนึ่งปี โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้จะมุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่า 3 ประการให้แก่ลูกค้าคือ ด้านความปลอดภัย ด้านกำลังการผลิตที่มากขึ้น และประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังมีระบบป้องกันการเกิดประกายไฟ (Ach)ของไฟฟ้าด้วย AI ช่วยให้อินเวอร์เตอร์บันทึกและระบุลักษณะคลื่นสัญญาณรบกวนของการอาร์ค (Ach) ระหว่างการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยิ่งมีการใช้งานอินเวอร์เตอร์มากเท่าไร ระบบก็จะยิ่งฉลาดและปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ หัวเว่ยยังใช้ระบบ AI ในการสร้างผังการจัดวางแผงพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเหมาะสมแบบอัตโนมัติ ภายในเวลาเพียง 5 วินาทีเท่านั้น และเมื่อนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมของสถานที่จริง ระบบจะสามารถติดตามผลเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยพลังงานแสงอาทิตย์ได้

นายเคน หู ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ยังได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน HAS 2022 เกี่ยวกับแนวคิดด้านนวัตกรรมของหัวเว่ยและการสร้างโลกอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมว่า “หัวเว่ยมุ่งเสริมความแข็งแกร่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเรา ผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งระบบด้วยระบบดิจิทัลอัจฉริยะ และช่วยสร้างโลกคาร์บอนต่ำ สิ่งเหล่านี้คือกุญแจสำคัญสู่การเติบโตขององค์กรในอนาคต โดยหัวเว่ยจะมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาสู่สังคมคาร์บอน กำหนดนิยามใหม่ของการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเทคโนโลยี AI ระบบคลาวด์และศักยภาพด้านอื่นๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน พัฒนาโซลูชันคาร์บอนต่ำระดับระบบสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเน้นไปที่สถานีไร้สายและศูนย์ข้อมูลต่างๆ รวมถึงมุ่งดำเนินการเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ เราจะไม่หยุดสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าและสังคม เราตั้งตารอที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและพันธมิตรเพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เผยแพร่รายงานการพัฒนาสีเขียวแห่งปี พ.ศ. 2573 (Green Development 2030 Report) ภายในงานประชุม HAS 2022 โดยถือเป็นรายงานฉบับล่าสุดภายใต้รายงานโลกอัจฉริยะ พ.ศ. 2573 (Intelligent World 2030) ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ในอนาคตของของหัวเว่ย และยังถือเป็นแผนแม่บทสู่การพัฒนาภายในอุตสาหกรรมไอซีที รวมไปถึงแนวทางเพื่อช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่หัวเว่ยได้รวบรวมไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอีกกว่า 100 คน และองค์กรภายนอกอีกกว่า 30 แห่ง ซึ่งมีทั้งองค์กรภาครัฐ สมาคมอุตสาหกรรม สถาบันวิจัย และองค์กรเอกชน

สำหรับในตลาดประเทศไทย นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่าการพัฒนาสีเขียวจะเป็นการช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรับประกันความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมไปพร้อมกัน เขาได้เน้นย้ำว่าการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัล (Digitalization) คือกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวและการเติบโตของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยในอนาคตเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ 5G, คลาวด์และ AI จะเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีจะมีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลแล้ว โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยังเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และเป็นกุญแจสําคัญสําหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ถึงขั้นที่สามารถกล่าวได้ว่าหากไม่มีดิจิทัล ก็ไม่มีความยั่งยืน

“สำหรับประเทศไทยที่มุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่มีวิสัยทัศน์ในความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยมลภาวะเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ในปี พ.ศ. 2608 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เราจำเป็นต้องเริ่มจากภาคส่วนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเป็น 3 อันดับแรกของประเทศ ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงาน (37%) การขนส่ง (29%) และภาคอุตสาหกรรม (28%) โดยตั้งแต่หัวเว่ยได้ก่อตั้งส่วนธุรกิจใหม่อย่างดิจิทัลพาวเวอร์  โซลูชัน PV และไซต์พลังงานอัจฉริยะของหัวเว่ยก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งล่าสุดเราได้เปิดตัวสายผลิตภัณฑ์โซลูชันอุตสาหกรรม Smart PV ชั้นนำที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แบบดิจิทัล “FusionSolar Residential Smart PV” สำหรับครัวเรือนไทยครั้งแรก โดยผสานรวม AI และคลาวด์เข้ากับ PV เพื่อการสร้างพลังงานที่เหมาะสม รวมทั้งมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ประเทศไทยที่ยั่งยืนในอนาคต” นายอาเบลกล่าว

หัวเว่ยมองเห็นศักยภาพของประเทศไทย และต้องการช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงเป็นเป็นเหตุผลให้หัวเว่ยเปิดตัวกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์สำหรับให้บริการลูกค้าในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ในฐานะที่หัวเว่ยเป็นผู้นำในด้านโซลูชันพลังงานสีเขียว พันธมิตรชั้นนำด้านไอซีที และผู้พลิกโฉมสู่ความเป็นดิจิทัล หัวเว่ยจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและใช้พลังงานหมุนเวียน ผ่านการทำงานร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อทำให้โลกของเราเป็นสถานที่ที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน ทุกองค์กร โดยหัวเว่ยจะมุ่งมั่นทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัล สะอาดอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

Smart Review18 ชั่วโมง ago

รีวิว OPPO Find X8 Series “มาตรฐานระดับแฟล็กชิปที่เหนือกว่า” ด้วยชิป MediaTek Dimensity 9400 | กล้อง Hasselblad ซูมเด่นที่สุดด้วย AI Telescope Zoom | AI ทรงพลัง

รีวิว OPPO Find X8 แ...

IT News20 ชั่วโมง ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 – 22 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open
ข่าวประชาสัมพันธ์20 ชั่วโมง ago

เปิดแล้ว Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซินเน็ค จับมือคอปเปอ...

NT GSB NT GSB
ข่าวประชาสัมพันธ์20 ชั่วโมง ago

NT อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารออมสินใช้งานแอป MyMo ไม่เสียค่าเน็ตผ่าน 2 เครือข่ายมือถือ

NT อำนวยความสะดวกลูก...

AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea
ข่าวประชาสัมพันธ์20 ชั่วโมง ago

AIS 5G โชว์แกร่งโครงข่ายที่ 1 ตัวจริง SEA COVERAGE ครอบคลุม 2 ฝั่งทะเลไทย

AIS 5G โชว์แกร่งโครง...

Bangkok Illustration Fair 2024 Bangkok Illustration Fair 2024
Apple News20 ชั่วโมง ago

Apple ร่วมกับ Bangkok Illustration Fair 2024 จัด Today at Apple เซสชั่นพิเศษ ที่ Central World เรียนรู้เทคนิควาดภาพบน iPad กับ 2 ศิลปินมากความสามารถ

Today at Apple ร่วมเ...

IT News21 ชั่วโมง ago

เปิดจอง Sony Alpha 1 II พร้อมเลนส์ฟูลเฟรม G Master รุ่น SEL2870GM

โซนี่ไทยเปิดจองกล้อง...

JBL TOUR PRO 3 JBL TOUR PRO 3
Wearable21 ชั่วโมง ago

ใหม่ JBL TOUR PRO 3 เปิดประสบการณ์เสียง ในแบบที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อนพร้อมยกระดับความบันเทิงของคุณไปอีกขั้น

JBL Tour Pro 3 หูฟัง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก