IT News
สรุป 9 ฟีเจอร์เด่น MediaTek Dimensity 1050 จาก MediaTek
สรุป 9 ฟีเจอร์ในชิป MediaTek Dimensity 1050 โดยคุณ Ch Chen รองผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจการสื่อสารไร้สายแห่ง MediaTek
ผู้ใช้งานจากหลากหลายกลุ่มมากที่สุดจะได้มีโอกาสใช้ชิป MediaTek Dimensity 1050ซึ่งเชื่อมต่อได้เร็วที่สุดและมีค่าความหน่วงต่ำสุดขีด ด้วยตัวชิปมีการผสานรวมการเชื่อมต่อทั้งแบบ Sub-6GHz และ mmWaveทำงานด้วยกันได้อย่างไม่มีสะดุด เรามาดูกันว่าทำไมชิปสมาร์ทโฟน 5G จึงเป็นชิปรุ่นแรกของ MediaTek ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า
1) การเชื่อมต่อ 5G Sub-6GHz + mmWave ที่ราบรื่น
Dimensity 1050 มอบประสบการณ์การใช้งาน 5G อันราบรื่น โดยจะสลับการเชื่อมต่อ Sub-6GHz ที่ส่งคลื่นได้ระยะไกลและการเชื่อมต่อ mmWave ที่ฉับไวไปมาได้อย่างไม่มีสะดุด โดยการเชื่อมต่อทั้งสองอย่างพร้อมกันนั้นจะทำให้ชิปทำความเร็วได้เร็วกว่าชิปสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ 4G LTE และ mmWave ได้ถึง 53% ภายในครั้งเดียวเท่านั้น
2) ใช้งานได้เร็วกว่า เข้าถึงได้มากกว่า ด้วยการรวมย่านความถี่แบบ 3CC
MediaTek ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอุปกรณ์สัญญานเซลลูลาร์เพื่อให้แน่ใจว่าโมเด็ม 5G ชั้นนำในวงการจะสามารถใช้เทคโนโลยีการรวมย่านความถี่ 5G ที่เพิ่งออกมาล่าสุดได้ ขณะนี้ชิป Dimensity 1050 พร้อมใช้งานแล้วเนื่องด้วยกลุ่มผู้ให้บริการได้เริ่มใช้การรองรับ 3CC-CA ในช่วงปี 2565 ซึ่งครอบคลุมย่านความถี่ระดับกลาง (TDD) และต่ำ (FDD) มากขึ้น ช่วยให้เชื่อมต่อ 5G ได้น่าเชื่อถือมากขึ้น เข้าถึง 5G ได้เพิ่มขึ้น ทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงขึ้น และมีความเร็วสูงสุดที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับชิปของสมาร์ทโฟนอื่นๆ (3CC/200MHz เทียบกับ 2CC/120MHz)
3) แสดงผลเร็วพริบตาด้วยสีสันพันล้านเฉด
ด้วยชิป Dimensity 1050 ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถรังสรรค์สมาร์ทโฟนด้วยหน้าจอแสดงผล Full HD+ 144Hz ที่เร็วชั่วพริบตาซึ่งรองรับสี 10 บิตแบบเนทีฟ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจึงสามารถใช้งานมีเดียความละเอียดระดับ HDR และเกมที่แสดงภาพได้อย่างสมจริงยิ่งขึ้นด้วยสีสันที่สดใสฉูดฉาด
นอกจากนี้เทคโนโลยี MediaTek Intelligent Display Sync จะช่วยให้ใช้พลังงานได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะปรับอัตราการรีเฟรชอย่างฉับพลันให้ตรงกับการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ นั่นก็คือ ถ้าคอนเทนต์ไม่มีการเคลื่อนไหว ระบบจะลดอัตราการรีเฟรชเพื่อประหยัดพลังงาน แต่ถ้าภาพที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ระบบจะปรับให้เร็วขึ้นเพื่อไม่เกิดภาพเบลอหรือภาพกระตุก
4) รองรับ HDR10+ Adaptive Media Profile รุ่นใหม่ล่าสุด
HDR10 Media Profile เปิดตัวในปี 2558 ตามมาด้วย HDR10+ ในปี 2560 ที่เพิ่ม Metadata แบบไดนามิกเข้ามา และตอนนี้ก็มี HDR10+ Adaptive ที่ปรับคอนเทนต์ HDR10+ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแสงรอบตัวผู้ชมเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด อีกทั้งชิป Dimensity 1050 ยังเป็นชิประดับ Mid Range ตัวแรกที่รองรับ HDR10+ Adaptive Media Profile รุ่นล่าสุดด้วย
5) เอ็นจิ้นการบันทึกวิดีโอ HDR แบบคู่
ด้วยชิป Dimensity 1050 ผู้ใช้สามารถสตรีมหรือบันทึกจากกล้องสองตัวในรูปแบบ HDR ได้พร้อมกัน ทั้งยังเลือกใช้เลนส์ต่างๆ สำหรับมุมมองอื่นๆ หรือใช้กล้องด้านหน้าและด้านหลังร่วมกัน ซึ่งช่วยจับภาพเหตุการณ์และท่าทางของแต่ละบุคคลได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งยังทำหน้าที่เป็นเอ็นจิ้นการจับภาพ HDR ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ จึงใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษและให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงในการบันทึกภาพทุกๆ ครั้ง
6) ประสิทธิภาพอันทรงพลัง
ชิป Dimensity 1050 ภายใน CPU แบบ Octa Core ประกอบไปด้วย CPU Arm Cortex-A78 ระดับพรีเมี่ยมถึงสองตัวที่ทำความเร็วได้สูงสุด 2.5GHz ซึ่งช่วยเร่งความเร็วของแอปพลิเคชั่น ฟีดโซเชียลได้อย่างฉับไวกว่าเดิม รวมถึงประสบการณ์การท่องเว็บที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ชิปยังผสานรวมกับเอ็นจิ้นกราฟิก Arm Mali-G610 รุ่นล่าสุด และขับเคลื่อนด้วยหน่วยความจำ LPDDR5 ที่เร็วสุดขีด เกมเมอร์จึงเล่นเกมได้มันทะลุจอด้วยอัตรา FPS ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม
7) ออกแบบมาเพื่อเกมมิ่ง
ชิป Dimensity 1050 ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีเกมมิ่งรุ่นล่าสุด MediaTek HyperEngine 5.0 ชุดเทคโนโลยีนี้ประกอบไปด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ CPU และ GPU สำหรับเกมมิ่งรุ่นล่าสุด อีกทั้งกราฟฟิก Variable Rate Shading (AI-VRS) ที่ใช้ AI และเทคโนโลยี MediaTek Intelligent Display Sync พร้อมการเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้เกม (Game Aware) ที่มาพร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพ Wi-Fi และ 5G ซึ่งจะช่วยจัดลำดับแพ็คเก็ตของเกม (Gaming Packets) เพื่อการเชื่อมต่อที่มีค่าความหน่วงต่ำ
8) Wi-Fi 6E ไตรแบนด์รุ่นใหม่
ไม่ใช่แค่ 5G ที่มี mmWave ที่ทำงานได้เร็วขึ้น แต่ชิป Dimensity 1050 ยังผสานรวมการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E รุ่นล่าสุด โดยเพิ่มการเชื่อมต่อแบบไตรแบนด์ (2.4GHz, 5GHz และ 6GHz) เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและความหน่วงของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตต่ำลง ซึ่งเสาอากาศ 2×2 MIMO จะได้ใช้ประโยชน์ไปพร้อมกันด้วย เช่นเดียวกับโมเด็ม 5G ก็มีเอ็นจิ้น Wi-Fi ติดตั้งไว้ในชิปเพื่อประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า
9) ชิป 6nm ประสิทธิภาพล้ำเหนือใคร
สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีระดับ 6nm ของ TSMC ชิปครบวงจรรุ่นนี้จึงประหยัดพลังงานสุดขีด ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานสูงสุด และใช้สมาร์ทโฟนได้ไม่ร้อนมือไม่ว่าจะเล่นเกมมาอย่างยาวนาน หรือออกไปถ่ายวิดีโอสตรีม หนังสั้น และภาพยนตร์มาหลายวันก็ตาม