Featured
รีวิว vivo V25 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์ “Color Changing Glass” พร้อมกล้องหน้า 50MP Eye AF Selfie และฟีเจอร์ระดับท็อป
มาตามนัดแล้วครับสำหรับรีวิวฉบับเต็ม vivo V25 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์ฝาหลังเปลี่ยนสีได้แบบ Color Changing Glass โดดเด่นไม่เหมือนใคร พร้อมกับเทคโนโลยีระดับท็อปที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้กับราคาที่จับต้องได้แบบสบายกระเป๋า
สรุปสเปค vivo V25 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.20 × 74.20 × 7.79 มม.
- น้ำหนัก : 186 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Ultra Vision แบบ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2404 × 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz และ HDR 10+
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 900 5G Octa-core ความเร็ว 2.2GHz
- RAM : 8GB
- ROM : 128/256GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Super-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
- รองรับ 5G SA/NSA
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz / 5GHz, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ชาร์จ 44W FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง vivo V25 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 44W FlashCharge
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- สายแปลง USB Type-C เป็นช่อง 3.5 มม.
- หูฟังพอร์ต 3.5 มม.
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและบัตรรับประกัน
ดีไซน์ Color Changing Glass เปลี่ยนสีได้อย่างสวยงาม
เริ่มแค่ดีไซน์ของ vivo V25 5G ก็ดูแตกต่าง ไม่เหมือนใคร และดูพรีเมียมเกินราคาไปแล้วครับ ด้วยการใช้กระจกฝาหลังเปลี่ยนสีได้แบบ Color Changing Glass ซึ่งฝาหลังจะปฏิกิริยากับแสงแดดหรือแหล่งกำเนิดรังสี UV เพื่อให้เกิดสีสันที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสีส้มแดง จากเดิมที่จะเป็นสีทองอ่อนๆ ทำให้เวลาใช้งานจริงจะดูมีเอกลักษณ์มากกว่ารุ่นอื่นๆ
โดยตัวเลือกสีที่เปลี่ยนสีได้จะเป็นสี Sunrise Gold เท่านั้น ซึ่งจะเป็นสีที่มีการออกแบบอย่างมีศิลปะด้วยวัสดุกระจก Fluorite AG Glass พร้อมกับการผสมเฉดสีทอง ส้ม และสีแดงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเสมือนพระอาทิตย์กำลังขึ้น ช่วยให้ดูอบอุ่นและสบายตา
นอกจากเรื่องสีสันของฝาหลังแล้ว ก็ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตผิวกระจกแบบด้านที่มีความแข็งแรงแต่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลมากๆ ช่วยให้จับถือได้สบายมือ ใช้งานได้นาน และติดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ ครับ
ที่สำคัญเรื่องของความบางของตัวเครื่องก็ยังคงเป็นจุดเด่นของ vivo เสมอมา โดยอยู่ที่ 7.79 มม. และเบาเพียง 186 กรัมเท่านั้น
หน้าจอแสดงผลสวยงาม Ultra Vision ไหลลื่น 90Hz
vivo V25 5G ใช้หน้าแสดงผลแบบ Ultra Vision พาเนล E3 AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว พร้อมความละเอียด Full HD+ มี Contrast Ratio 6000000:1 และรองรับ HDR10+ ทำให้ใช้งานได้สวยงาม รับชมภาพยนตร์ได้เต็มอรรถรส และที่สำคัญสีสันที่เปล่งออกมาบนหน้าจอก็สดใส จุดไหนที่เป็นสีดำก็ทำได้ค่อนข้างทึบมากๆ ครับ ทั้งนี้ หน้าจองรุ่นนี้ยังผ่านมาตรฐาน SGS Low Blue Light Certification ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าลงเพื่อถนอมสายตาของเราให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย
ทั้งนี้ หน้าจอยังรองรับ Refresh Rate 90Hz พร้อม Touch Sampling Rate 180Hz ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น ยิ่งใครที่เล่นเกมบ่อยๆ ก็ทำได้เต็มมากขึ้นแน่นอน
พาชมรอบเครื่อง
เหนือหน้าจอแสดงจะมีลำโพงสำหรับการสนทนา และกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซลที่อยู่ในหยดน้ำ
ด้านขวาตัวเครื่องจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่อยู่ถัดลงมาครับ
ส่วนด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมแบบ nanoSIM จำนวน 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 เป็น Hybrid ให้เลือกระหว่าง MicroSD Card หรือซิมที่ 2 ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ด้านบนเครื่องจะมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 เท่านั้น
และที่ฝาหลังจะมีกล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช 2 ดวง ซึ่งตัวโมดูลจะมีขนาดใหญ่แต่ก็ยังจัดเรียงได้อย่างสวยงาม
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
vivo V25 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย FuntouchOS 12 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการตัวเต็มรุ่นล่าสุดของแบรนด์ มีความเสถียรและฟีเจอร์ต่างๆ ก็สามารถปรับแต่งได้เยอะมาก ทำให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงประสบการณ์การใช้งานเป็นอย่างดีครับ
ใช้งาน 5G Dual-Mode ได้ไหลลื่น
ด้วยชื่อรุ่นมาแบบ 5G แน่นอนว่าก็สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ได้แน่นอน โดยรองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual-Mode ทั้งแบบ SA/NSA, Dual 5G Standby ที่พร้อมให้เราใช้งานได้ตลอดเวลา และมีเทคโนโลยี 5G UltraSave ที่ช่วยเสริมให้เราใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุดครับ
รองรับ Always-on Display บอกข้อมูลเบื้องต้นทันทีไม่ต้องปลดล็อก
จากการที่ vivo V25 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ก็ต้องมาพร้อมฟีเจอร์นี้ครับ โดย Always-on Display (แสดงเสมอ) จะเป็นการแสดงข้อมูลเบื้องต้นของระบบ เช่น วันที่ เวลา แบตเตอรี่คงเหลือ หรือไอคอนของแอปที่มีการแจ้งเตือน ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้แสดงช่วงไหนบ้าง ได้แก่ เมื่อขยับเครื่องเล็กน้อย, ตามกำหนดเวลา หรือทั้งวัน
หากใครที่อยากปรับแต่งการแสดงผลนาฬิกาของฟีเจอร์นี้ก็ทำได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งสไตล์คลาสสิกหรือภาพเคลื่อนไหวตามที่ชอบเลยครับ
ระบบความปลอดภัยจัดมาให้ครบถ้วน
แม้ว่าจะเป็นราคาหมื่นต้นๆ แต่ vivo V25 5G ก็มาพร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งใช้งานจริงแล้วทำได้ดีมากครับ ได้ความแม่นยำ เสถียรและรวดเร็วมากๆ
โดยอีกแบบหลักๆ จะเป็นการสแกนใบหน้าที่ทำได้รวดเร็วไม่แพ้กันเลย
ระบบเสียงมีมิติด้วย Hi-Res Certification
ใครที่ชอบดูวิดีโอ ซีรี่ย์ หรือภาพยนตร์ในสตรีมมิ่งต่างๆ vivo V25 5G ก็ยังถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ เสียงที่ได้ฟังจะมีมิติ กระหึ่ม และคุณภาพเสียงที่ดีเลยทีเดียวครับ (แต่ไม่รองรับลำโพงคู่นะ)
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ในรุ่น vivo V25 5G ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 900 5G แบบ Octa-core ขนาดเล็ก 6 นาโนเมตรในการขับเคลื่อนครับ โดยเป็นขุมพลังรุ่นกลางที่ใช้ CPU แกนหลักเป็น ARM Cortex-A78 มีความเร็ว Clock สูงสุด 2.4GHz ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมทำได้เต็มที่แน่นอนครับ ทั้งยังช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานสูงและจัดการเรื่องคาวมร้อนได้ยอดเยี่ยม
8GB + 8GB Extended RAM รวม 16GB !!
ปกติแล้วเทคโนโลยี Extended RAM ในสมาร์ตโฟนจะเพิ่ม Visual RAM ได้ประมาณ 6GB ก็ถือว่าสูงมากแล้ว แต่ใน vivo V25 5G ให้เราเพิ่มได้มากสุดถึง 8GB รวมกับที่ให้มาพื้นฐานอยู่แล้ว 8GB รวมเป็น 16GB เลยทีเดียว ซึ่งรวมแล้วมากกว่าเรือธงหลายรุ่นเลยทีเดียวครับ ซึ่งจุดนี้จะช่วยให้การสลับแอปพลิเคชั่นไปมาจะทำได้ไหลลื่นมากขึ้น ไม่ต้องโหลดใหม่ให้เสียเวลาครับ รวมถึงการเล่นเกมก็จะยังคงมีพื้น RAM คงเหลือให้ใช้งานอยู่
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu ได้มาที่ 475,100 คะแนน
Game Boost Mode พร้อม Ultra Game Mode
สำหรับฟีเจอร์ Ultra Game Mode ก็ยังเข้ามาใช้งานใน vivo V25 5G อยู่ครับ โดยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างการเล่นเกม ที่สำคัญเมื่อเราเข้าเล่นเกมแล้ว เมื่อปัดจากแถบข้างก็จะมี Game Boost Mode เพื่อให้ขุมพลัง Dimensity 900 5G ทำงานแบบเต็มที่สูงสุดและเล่นเกมได้ไหลลื่นยิ่งขึ้นครับ
ทดสอบการเล่นเกม
Dead By Daylight Mobile
ขอเริ่มกันด้วยเกมที่กำลังฮิตในตอนนี้อย่าง Dead By Daylight Mobile ที่เราสามารถเปิดภาพกราฟได้ในระดับ Ultra และเฟรมเรท 60fps ด้วยครับ ซึ่งลองเล่นจริงๆ ก็ทำได้ดีเลยครับ หน้าจอกดได้ติดนิ้ว ไม่กระตุกหรือเฟรมดรอปให้เห็น
ROV
ต่อมากับ ROV ก็เล่นได้แบบสบายๆ เฟรมเรทวิ่งอยู่ที่ 60-61fps ตลอดทั้งเกมครับ โดยภาพที่เราปรับจะสูงสุดทั้งหมด ยกเว้นหมวดการแสดงผลที่ปรับได้สูง
PUBG Mobile
และเกม PUBG Mobile ก็ปรับภาพได้ที่ HDR HD และเฟรมเรท Ultra เลยครับ ซึ่งเล่นจริงในแผนที่ 8×8 ก็เล่นได้ไหลลื่น ไม่หน่วงเลย และการกดปุ่มต่างๆ ตอนยิงหรือขับรถก็ทำได้ค่อนข้างเรียลไทม์
มาพร้อม Liquid Cooling System ระบายความร้อนได้เร็วและยอดเยี่ยมมาก
vivo V25 5G เป็นหนึ่งในรุ่นที่ครบเครื่องมากๆ ครับ เพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Liquid Cooling System ที่ช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยแผ่นกราไฟท์ไพโรไลติกที่มีพื้นที่ผิวกว้างถึง 9718.17 มม. รวมถึงมีแท่นโลหะโลหะผสมอะลูมิเนียม เจลนำความร้อน เซ็นเซอร์อุณหภูมิหลายตัว และเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการคาวมร้อนได้ดี ทำให้ช่วงที่ใช้งานหนักๆ หรือเล่นเกมต่อเนื่อง แม้เครื่องจะร้อนตอนเล่น (ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติมากๆ) แต่ความร้อนจะคงที่มากๆ ไม่สูงขึ้นให้เห็นเลยครับ ทำให้ CPU ยังคงทำงานได้ดีและส่วนประกอบภายในก็ยังคงใช้งานได้นานอีกด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเราหยุดเล่นเกม ก็ใช้เวลาไม่นานเลยที่เครื่องจะกลับมาสู่อุณหภูมิปกติ
แบตเตอรี่ใช้งานได้เต็มวันพร้อมชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
vivo V25 5G จัดเแบตเตอรี่มาให้เราอยู่ที่ 4500mAh ซึ่งเป็นความจุแบตที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปตลอดวันครับ แต่จุดเด่นจะไปอยู่ที่เทคโนโลยี 44W FlashCharge ที่เข้ามาอยู่ในรุ่นระดับหมื่นต้นๆ ด้วย โดยเราลองชาร์จจริงจาก 21% ไปถึง 62% ในเวลาเพียง 24 นาที และเต็ม 100% ในเวลารวมเพียง 54 นาเท่านั้น
นอกจากนี้ vivo V25 5G ยังมาพร้อม Super Charge Pump ที่ช่วยแปลงพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพถึง 97.5% ส่งผลให้เราชาร์จได้ความเร็วคงที่แต่เครื่องไม่ร้อนจนเกินไป
กล้องชัดถ่ายสวย 64MP OIS Ultra-Sensing Camera
โมดูลกล้องหลังของ vivo V25 5G ได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดด้วยดีไซน์มินิมอลและมีความโดดเด่นในตัวอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันสเปคภายในก็ยังได้อัปเกรดให้ถ่ายได้สวยชัดเจนมากยิ่งขึ้นในทุกสถานการณ์
กล้อง 64MP พร้อม OIS ถ่ายชัด ถ่ายคม ทุกสภาพแสง
เลนส์หลักของ vivo V25 5G มาพร้อมกล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล รองรับระบบกันสั่นไหว OIS แม้ว่าระหว่างที่ถือถ่ายจะมีอาการมือสั่นไปบ้าง OIS ก็จะช่วยได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้ภาพที่ยังคงคมชัดเหมือนเดิม ที่สำคัญเลนส์นี้มีพิกเซลขนาดใหญ่ 1.4μm ทำให้เก็บแสงได้ดีขึ้น ได้ภาพที่สว่าง สีความสดใสไม่ซีด Contrast ของภาพก็ทำยอดเยี่ยมเลยทีเดียว และยังรองรับ HDR อัตโนมัติที่ทำให้ถ่ายภาพย้อนแสงได้ขั้นสุด
Super-Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา
ในเลนส์ที่ 2 ของรุ่นนี้จะเป็นเลนส์ Super-Wide Angle ที่ให้มุมกว้างสุด 120 องศา ที่กว้างกำลังดีครับ ขอบภาพยังไม่มีการบิดเบี้ยวอะไรมากมาย ส่วนคุณภาพของภาพถ่ายก็ยังคงคมชัด เก็บแสงได้ดี และยังรองรับ HDR เพื่อเก็บภาพย้อนแสงได้เช่นกัน
ถ่าย Portrait สวยเนียนตา พร้อมลูกเล่นให้ใช้งานอีกเพียบ
การถ่ายภาพ Portrait จัดว่าเป็นตัวชูโรงของสมาร์ตโฟน vivo อยู่เหมือนเดิม และยิ่งใน vivo V25 5G ก็ยังถ่ายได้สวยงามขั้นสูงในระดับท็อป มีการปรับความบิวตี้ของใบหน้าได้เป็นธรรมชาติมากๆ ทั้งยังตัดขอบได้เนียนตา
มาพร้อม Bokeh Flare Portrait เบลอฉากหลังได้นุ่มนวลหลายสไตล์
หนึ่งในลูกเล่นของโหมด Portrait ของ vivo V25 5G จะเป็นการปรับ Bokeh Flare Portrait เพื่อให้เบลอฉากหลังได้มีมิติมากขึ้น มีความนุ่มนวลและมีมิติของการเบลอครับ โดยรูปแบบของดวงโบเก้ด้านหลังยังปรับได้ 4 แบบ ได้แก่ หัวใจ, ดาว, ผีเสื้อ และซากุระ
เปลี่ยนสไตล์ของภาพให้แตกต่างไม่เหมือนใครด้วย Multi-Style Portrait
vivo V25 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Multi-Style Portrait ที่เป็นฟิลเตอร์หลากหลายสไตล์ให้เราได้ถ่ายกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบภาพยนตร์, เฟรนช์อิมเพรสชัน, ภาพคนโดยใช้แฟลช และปาร์ตี้ ซึ่งจะแสดงผลแบบเรียลไทม์ให้ดูทันที แถมแต่ละสไตล์ก็มีความสวยงามที่ให้ความแตกต่างจากโหมด Portrait ทั่วไป
Super Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนสวยงามพร้อม OIS ป้องกันสั่นไหว
จากที่เราบอกในตอนต้นไปว่าเลนส์หลักของ vivo V25 5G มาพร้อมระบบกันสั่นไหว OIS ทำให้ภาพไม่เกิดการสั่นไหวเกินไปครับ ดังนั้น หากถ่ายภาพลางคืนก็จะได้ประโยชน์ในจุดนี้ไปด้วย ทำให้ภาพที่ได้ออกมาคมชัดและไม่เกิดการเบลอหรือภาพสั่งให้เห็น โดยตัว AI รุ่นนี้ยังมีความฉลาดในการปรับแต่งอย่างสวยงาม เห็นสิ่งต่างๆ ในตอนกลางคืนได้ชัดเจน สีสันมาเต็มมากๆ ครับ
นอกจากนี้ ก็ยังมีฟิลเตอร์ในโหมดกลางคืนให้ใช้งานอีกมากมาย ได้แก่ ดำและทอง, ไซเบอร์พังก์, สปอตไลท์, พื้นผิวขาวดำ, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว, สีแดงเข้ม, สีส้มฟ้า และสีส้มเทา
ถ่ายภาพได้ใกล้ด้วย Super Macro
vivo V25 5G มาพร้อมกับเลนส์ Super Macro ช่วยให้ถ่ายภาพในระยะใกล้ได้อย่างชัดเจนมากๆ โดยทำได้ใกล้สุด 4 ซม.
กล้องหน้า 50MP Eye AF Selfie โฟกัสได้ไม่มีหลุด
มาถึงกล้องหน้าของ vivo V25 5G กันบ้างครับ โดยให้ความคมชัดมาถึง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งในการเซลฟี่ของ vivo ก็ยังคงเป็นผู้นำในด้านนี้ โดยใบหน้าของเราจะมีการปรับแต่งอย่างเป็นธรรมชาติแต่ยังคงรายละเอียดของเส้นผิวและดวงตาได้อย่างชัดเจนครับ และที่ชอบมากๆ เลยคือ vivo V25 5G ยังคงให้ฟีเจอร์ Eye AF Selfie ที่ช่วยโฟกัสดวงตาอัตโนมัติ ทำให้ใบหน้าไม่เจออาการเบลอและยังอยู่ในโฟกัสตลอดเวลาแม้ว่าจะขยับไปมาก็ตาม
ทั้งนี้ vivo V25 5G ยังมีการเพิ่มฟิลเตอร์บิวตี้แบบธรรมดาชาติ (Natural Portrait) เข้ามาด้วย ทำให้การปรับแต่งนั้นดูสมจริงยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
Double Exposure สร้างสรรค์ผลงานแบบภาพซ้อนได้อย่างสนุก
ฟีเจอร์ Double Exposure ยังคงมีอยู่ในรุ่นนี้ครับ โดยจะเป็นการทำภาพซ้อน 2 ภาพเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระมากขึ้น และช่วยให้เราถ่ายภาพจาก vivo V25 5G ได้ไม่มีเบื่องอีกด้วย
ถ่ายวิดีโอได้สนุกขึ้นด้วยฟีเจอร์ที่ให้ครบครัน
ไม่ใช่แค่ภาพนิ่งเท่านั้นที่ vivo V25 5G ถ่ายได้ยอดเยี่ยมครับ แต่เรื่องการถ่ายวิดีโอก็ยังคงทำได้สุดยอดเหมือนกันด้วยฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับกันสั่น OIS + EIS, Video Face Beauty ที่ปรับแต่งความบิวตี้บนใบหน้าได้เรียลไทม์ตลอดเวลาที่กำลังถ่ายวิดีโอ ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี HDR ทั้งนี้ ใครที่เป็น Vlogger ในรุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ Vlog Movie ที่มีหลายเทมเพลตให้ใช้งานกัน โดยแต่ละแบบก็จะปรับแต่งฟิลเตอร์และเสียงพื้นหลังให้เข้ากันอย่างลงตัวมากๆ ครับ และยังไม่ต้องเสียเวลามาตกแต่งหรือตัดต่อเพิ่มเติมเลย
นอกจากนี้ ก็ยังมี Dual-View Video ถ่าย 2 เลนส์ได้พร้อมกัน โดยสามารถปรับรูปแบบได้ 2 แบบ ได้แก่ ครึ่งหน้าจอ หรือจอใหญ่ผสมจอเล็ก ทั้งนี้ ก็ยังเลือกเลนส์กล้องได้ด้วยจะถ่ายจากกล้องหลัง+หลัง (เลนส์หลัก + Super Wide Angle), หน้า + หลัง (จากเลนส์หลัก) หรือหน้า + หลัง (จากเลนส์ Super Wide Angle)
สรุปการใช้งาน vivo V25 5G
สำหรับ vivo V25 5G เป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นที่ไม่ผิดหวังของ vivo ครับ ประทับใจตั้งแต่ดีไวน์เครื่องที่มีลูกเล่นของการเปลี่ยนสีฝาหลังได้อย่างสวยงามและลงตัวมากๆ ให้ความตื่นเต้นแม้เพียงแค่ได้จับได้ไม่นาน ขณะที่สเปคภายในก็ยังใช้งานได้ไหลลื่นด้วยหน่วยประมวลผล Dimensity 900 5G ที่ใช้งานได้ไหลลื่น จะเล่นเกมหรือเล่นโซเชียลทั่วไปก็ทำได้สบาย ไม่ได้ติดขัดอะไรเลยครับ และที่ชอบมากๆ เลยคือกล้องที่ให้มาครบถ้วนมากๆ เลนส์หลัด Ultra-Wide และ Macro ให้มาครบ และถ่ายสวยแบบไม่ต้องมาคอยแต่งให้เสียเวลาอีกด้วย
ราคาและวันวางจำหน่าย
vivo V25 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Sunrise Gold และ Diamond Black โดยเปิดราคา 2 ความจุ ดังนี้
- รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB : 13,999 บาท
- รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB : 14,999 บาท
โดย vivo V25 5G ทั้ง 2 ความจุจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป โดยจะได้รับฟรี !! vivo Handbag และ E-VIP Card ประกันเครื่องนาน 2 ปี และประกันหน้าจอแตกอีก 1 ปี มูลค่ารวม 6,999 บาทเท่านั้น