Smart Review
รีวิว Jabra ELITE 5 หูฟังไร้สายที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ยุคดิจิทัลไลฟ์ด้วย ระบบตัดเสียง ANC | แบตเตอรี่ 36 ชม. | กันน้ำ IP55
รีวิว Jabra ELITE 5 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ยุคดิจิทัลไลฟ์ด้วยดีไซน์น่าสนใจตัวหูฟังสวมใส่สบายเคสชาร์จก็พกพาได้อย่างสะดวก และยังมีฟังก์ชั่นที่ครบครันทั้ง Google Fast Pair เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว, ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC), คำสั่งเสียงและปุ่มลัดที่ร่วมกับ Spotify ได้ทันทีอีกด้วย
ใครกำลังมองหาหูฟังไลฟ์สไตล์ดี ๆ สักตัวอยู่ก็ไม่อยากให้พลาด Jabra ELITE 5 รุ่นนี้ไป ติดตามรีวิวได้ที่นี่ครับ!
คุณสมบัติเด่น Jabra ELITE 5
- ขนาดเคสชาร์จ : ประมาณ 26 x 38.9 x 64.1 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 40 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง : 5 กรัม x 2
- ประเภทหูฟัง : In-Ear
- Bluetooth : เวอร์ชั่น 5.2
- แบตเตอรี่ : ฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด 7 ชม. (เปิด NC)
- พอร์ตการเชื่อมต่อ : USB-C
- กันน้ำ : IP55
แกะกล่อง Jabra ELITE 5
ก่อนอื่นเรามาเช็กอุปกรณ์ภายในกล่องของ Jabra ELITE 5 กันก่อนเนาะ ที่หน้ากล่องเราจะเห็นดีไซน์ของหูฟังด้านในที่มาในทรง In-Ear เท่ ๆ สีที่เราได้มารีวิวก็คือสี Gold Beige ก็ตรงตามหน้ากล่องเลยครับ
ดึงกล่องออกมาภายในจะเป็นกล่องอีกชั้นที่ทำแพ็กเกจมาได้หรูหราดีทีเดียวครับ อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเพียง
- หูฟังพร้อมเคสชาร์จ
- จุก EarTips ในอีก 2 ขนาด S กับ L
- เอกสารคู่มือ
- สายชาร์จ USB-C to A
ดีไซน์เคสกะทัดรัดบน-ล่างตัดเหลี่ยม
Jabra ELITE 5 มาพร้อมเคสชาร์จทรงกะทัดรัดดเหมาะกับการใช้งานในไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ พกพาติดตัวไปได้ง่ายด้วยน้ำหนักเพียง 40 กรัม ทรงของเคสชาร์จจะเป็นแบบทรงโค้งที่มีการตัดเหลี่ยมด้านบน-ล่าง ถือใช้งานได้ดีรวมถึงสามารถวางตั้งได้แบบไม่มีปัญหาด้วยครับ
วัสดุของตัวเคสชาร์จก็เป็นพลาสสติกผิวด้านที่มีสัมผัสที่เนียนมือเวลาจับถือไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายแม้จะหยิบถือเป็นเวลานาน รวมถึงไม่เสี่ยงเป็นรอยขนแมวด้วยเช่นกันครับ
ที่ด้านหน้าของตัวเคสจะมีโลโก้ Jabra พร้อมกับไฟ LED สำหรับบอกสถานะแบตเตอรี่ด้วย เมื่อเปิดฝาเคสขึ้นมาตัวไฟจะติดแว้บขึ้นมาครู่หนึ่งให้พอรู้ว่าแบตเตอรี่ตอนนี้อยู่ที่ระดับใดครับ
หูฟังทรง In-Ear สวยใส่ได้สบาย แน่นพอดี
ที่ตัวหูฟังของ Jabra ELITE 5 มาพร้อมกับหูฟังทรง In-Ear ที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย และแน่นพอดีหากเลือกขนาดที่เหมาะสม ในที่นี้เราใส่ไซซ์ M มาตรฐานที่ให้มาก็พอดีเลย ให้ทั้งความกระชับที่แน่นหนาไม่หลุดง่าย ๆ และความสบายที่แม้จะสวมใส่นาน ๆ อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ในตัวหูฟังยังมีความสามารถกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP55 อีกด้วย หมายความว่าเราสามารถใส่ใช้งานแม้ในตอนฝนตกหรือจะใส่ในการออกกำลังกายก็ไม่ต้องกลัวเรื่องเหงื่อแล้วล่ะครับ
ส่วนด้านหลังของเคสชาร์จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C แบบมาตรฐาน และด้วยความที่ตัวเคสชาร์จที่เราสามารถตั้งเคสชาร์จเวลาเสียบชาร์จได้ด้วยครับ สะดวกดีใช่ไหมล่ะ
ที่ด้านล่างของเคสชาร์จจะมีโลโก้ของ Qi อยู่หมายความว่ารุ่นนี้สามารถวางชาร์จแบบไร้สายได้ด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่ชอบชาร์จแบบไร้สาย แค่วางไว้ที่แท่นชาร์จก็ชาร์จได้เลย
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Jabra ELITE 5 นั้นออกแบบมาได้อย่างดีทีเดียวด้วย รูปลักษณ์ของเคสชาร์จที่ดูเรียบง่ายแต่ก็เหมาะกับการพกพาและดูทันสมัย สีสันที่เราได้มาเป็นสี Gold Beige ที่มีความหรูหราและโดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมตัวหูฟังเองก็ใช้ทรง In-Ear ที่สวมใส่ได้แน่นหนาแต่ก็ยังสะดวกสบายอีกต่างหาก
เชื่อมต่อได้สะดวกผ่าน Google Fast Pair
ในเรื่องการเชื่อมต่อ Jabra ELITE 5 สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Android ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เปิดเคสชาร์จและดึงหูฟังออก นำไปใกล้ ๆ สมาร์ทโฟนที่เราจะเชื่อมต่อก็มี Pop-Up เด้งขึ้นมาทันทีว่าจะเชื่อมต่อเลยไหม หรือถ้าเป็นสมาร์ทโฟน iOS ก็เชื่อมต่อผ่านหน้าตั้งค่า Bluetooth ปกติได้เลย
ตั้งค่าผ่านแอป Jabra+
ส่วนแอปที่ใช้เชื่อมต่อและปรับตั้งค่าเพิ่มเติมของ Jabra ELITE 5 ก็คือ Jabra Sound+ ในนี้จะมีข้อมูลของตัวหูฟังอยู่ทั้งระดับแบตเตอรี่ การเปิดใช้งาน ANC หรือการตั้งค่ารูปแบบเสียง การตั้งค่าการควบคุมอื่น ๆ เพิ่มเติม ทำได้จากแอปนี้เลยครับ มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Android และ iOS เลยล่ะ
ควบคุมได้ผ่านหูฟังโดยตรง
การควบคุมของ Jabra ELITE 5 ก็สามารถสั่งการได้ผ่านการกดลงไปที่หูฟัง มีให้ใช้งานทั้งแบบกด 1, 2, 3 ครั้ง ซึ่งแต่ละข้างจะแบ่งการทำงานแยกกันไป อาทิ เราแตะ 1 ครั้งที่หูฟังข้างซ้ายเพื่อสลับโหมดระหว่าง ANC กับ HearThrough, แตะ 1 ครั้งที่ข้างขวาเพื่อเล่น-หยุดเพลง เป็นต้น ซึ่งเราสามารถปรับตั้งค่าฟีเจอร์เหล่านี้ได้ในแอป Jabra Sound+ เช่นกันครับ
เข้าถึง Spotify ได้ทันทีเพียงแตะที่หูฟัง
นอกจากนี้ Jabra ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Spotify มีตัวเลือก Spotify Tap ที่ให้เราเข้าถึงแอปฟังเพลงยอดนิยมได้แบบทันทีเพียงแค่กดที่หูฟังข้างซ้าย 2 ครั้งติดกัน ระบบจะนำเราไปสู่แอป Spotify ทันที สะดวกขึ้นมากพร้อมให้เราเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงได้แบบสะดวกที่สุด
ระบบตัดเสียงรบกวน ANC พร้อม HearThrough
ในเรื่องระบบตัดเสียงรบกวน Jabra ELITE 5 มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC ผสมผสาน feed forward & feed backward ANC ตัดเสียงรบกวนภายในและภายนอกได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ HearThrough ที่ช่วยรับเสียงภายนอกเข้ามา ทำให้เราสามารถตัดเสียงและพูดคุยกับผู้คนได้แบบไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหูเลยก็ว่าได้ครับ
ระบบเสียงลำโพง 6มม.
ส่วนเรื่องระบบเสียง Jabra ELITE 5 มาพร้อมลำโพง 6 มม. มอบเสียงทรงพลังพร้อมรองรับระบบเสียง SBC, AAC และ QualComm aptX ที่ทำให้เสียงที่ได้จากหูฟังรุ่นนี้มีคุณภาพเพิ่มเข้าไปอีกด้วย
แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 36 ชม.
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ Jabra ELITE 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้ยาวนานถึง 36 ชม.แบบไม่เปิดระบบตัดเสียง ANC และ 28 ชม.เมื่อเปิด ANC ครับ โดยตัวหูฟังเองสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่องแบบเปิด ANC ได้ถึง 7 ชม.เรียกว่าเพียงพอต่อการใช้ฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์แล้วจริง ๆ
นอกจากนี้ในเรื่องระบบชาร์จยังมีชาร์จไวที่ชาร์จเพียง 10 นาทีก็ฟังเพลงได้ต่อเนื่องอีก 1 ชม.ด้วย ส่วนระบบชาร์จก็มีทั้งแบบสายและไร้สายผ่านมาตรฐาน Qi จะชาร์จกับแท่นชาร์จไร้สายหรือสมาร์ทโฟนที่มีระบบ Reverse Wireless ก็ได้เช่นกัน เผื่อใช้งานจริงแล้วแบตเตอรี่ไม่เพียงพอก็ชาร์จเอาได้ครับ
ราคาเปิดตัว 5,290 บาท
Jabra ELITE 5 เปิดราคามาที่ 5,290 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ Gold Beige (สีที่รีวิว) และสี Titanium Black วางจำหน่ายผ่านร้านค้าชั้นนำ Gadget by RTB, Munkong Gadget, Banana IT, Studio7, 425 Degree, Mercular, Siam Discovery, Central Online, Lazada, Shopee ครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟังไร้สายในชีวิตประจำวันที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลไลฟ์”
สำหรับ Jabra ELITE 5 ก็ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาได้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลไลฟ์อย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ที่สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่มองแว้บแรกก็รู้ว่าลงตัวและเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ไม่ยาก อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทั้งการสั่งการไปสู่ Spotify ได้แบบทันที ระบบตัดเสียงรบกวน ANC และระบบรับเสียง HearThrough ที่ให้เราใช้งานได้แบบไม่ต้องถอดหูฟังออก การเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็ว มีฟีเจอร์ชาร์จไร้สายมาให้ และที่ขาดไม่ได้คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 36 ชม. หมดปัญหาแบตฯหมดระหว่างใช้งานได้เลย ใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายรูปลักษณ์โดดเด่น ฟีเจอร์ครบอยู่ เราว่า Jabra ELITE 5 รุ่นนี้ก็ตอบโจทน์ไม่น้อยเลยล่ะครับ