Apple News

พรีวิว iPhone 14 | iPhone 14 Pro แบบครบทุกสี สีไหนโดน สีไหนเด็ด รวมมาให้แล้วที่นี่

Published

2 ปี ago

16 ก.ย. 2022

Map

iPhone 14 และ iPhone 14 Pro วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อย ก่อนหน้านี้เราก็ได้ทำบทความและคลิปแกะกล่องของทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ไปแล้วด้วย แต่ในบทความนี้เราจะขอพาไปชมสีสันทั้งหมดของ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro กันสักหน่อย เผื่อใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกสีไหนดี สีไหนโดนใจเราที่สุด พร้อมแล้วก็มารับชมกันแบบชัด ๆ ได้ที่นี่เลยครับ!

iPhone 14 Pro | 14 Pro Max มีให้เลือก 4 สี

ขอเริ่มที่ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ก่อนเลย รอบนี้ยังมีให้เลือก 4 สีเหมือนเดิม ประกอบด้วย

สีม่วงเข้ม
สีดำสเปซแบล็ค
สีเงิน
สีทอง

สีม่วงเข้ม

ขอเริ่มที่สีใหม่อย่างสี “ม่วงเข้ม” หรือ “Deep Purple” กันก่อนเลย รอบนี้ Apple เลือกใช้สีม่วงใหม่ที่มีโทนคมเข้มสมกับเป็นสีของรุ่น Pro ยังคงมีความเป็นเทาที่มีความเหลือบสีม่วงเมื่อกระทบกับแสงได้อีก โดดเด่นและมีมิติอย่างมากเลยทีเดียวครับ ใครที่รอสีม่วงแบบหรูดูแพงอยู่น่าจะถูกใจกันไม่น้อยเลยล่ะครับ

สีดำสเปซแบล็ค

นอกจากสีใหม่อย่างม่วงเข้มแล้วรอบนี้ Apple ก็ยังปรับสีให้กับสีกราไฟต์เดิมเป็นดำสเปซแบล็คแทน คือมีความดำมากขึ้น คมเข้มต่างจากรุ่นก่อนที่ยังมีความเทา ๆ อยู่ ซึ่งเราว่าคนที่ชอบความคมเข้มแบบคลาสสิคไปเลยน่าจะชอบครับ รอบนี้เรียกว่าดำได้เต็มปากแล้วจริง ๆ

สีเงิน

มาต่อที่สีเงิน ก็ยังคงเป็นสีเงินมาตรฐานแบบเดียวกับที่ Apple เลือกใช้บน iPhone รุ่น Pro มาอย่างยาวนาน ฝาหลังเป็นสีขาวที่เนียนตาและกรอบเครื่องก็เป็นสีเงินของสแตนเลสแบบเพียว ๆ เหมือนเดิม ใครที่ยังชอบความขาวแบบบริสุทธิ์แบบนี้อยู่สีเงินยังคงทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม

สีทอง

ปิดท้ายที่สีทองก็ยังคงเป็นโทนเดียวกับรุ่นก่อนเลยไม่ได้เพิ่มความอิ่มของสีมากขึ้น ไม่ได้สีสดขึ้นเท่าไหร่ ยังคงเป็นโทนทองที่นวล ๆ ฝาหลังจะออกครีม ๆ ส่วนกรอบเครื่องก็เป็นสีทองที่มันวาวดูแพงอีกเช่นเคย ถือแล้วแพงแบบไม่ผิดหวังครับ

มาดูดีไซน์โดยรวมกันต่ออีกหน่อยเนาะ iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max รอบนี้เปลี่ยนดีไซน์หน้าจอใหม่ด้วยรูกล้องแบบใหม่ที่ Apple ใช้ชื่อเรียกว่า Dynamic Island เปลี่ยนภาพลักษณ์ของรอยบากแบบเดิม ๆ ไปได้เยอะเลย แถมตัวเกาะนี้ก็ยังมีความยืดหยุ่นของ UI ได้มากขึ้น เป็นวิธีการแก้ปัญหาของรูกล้องบนหน้าจอได้อย่างแนบเนียน

Always On Display หน้าจอติดตลอดมาแล้ว! บน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max จะมีความสามารถใหม่คือหน้าจอติดตลอดที่จะลดความสว่างของหน้าจอลงเมื่อเราล็อคแต่ก็ยังให้เราได้เห็นรายละเอียดของข้อมูลบนหน้าจอได้อยู่ ซึ่งกดลดความสว่างนี้ลงยังมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับ Wallpaper ได้อย่างเนียนตาอีกด้วย

ส่วนดีไซน์ด้านหลังของ iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ยังคงวางดีไซน์กล้องหลัง 3 ตัวเหมือนเดิม แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นก่อนก็คือขนาดของโมดูลกล้องที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ยิ่งถ้าเป็นรุ่น iPhone 14 Pro ยิ่งเห็นเลยว่ากล้องใหญ่ขึ้นมาก เพราะกินพื้นที่ไปเกินครึ่งของด้านหลังส่วนบนเลย

iPhone 14 มีให้เลือก 5 สี

มาต่อกันที่ iPhone 14 รุ่นเริ่มต้นของ iPhone ในปีนี้ มีสีให้เลือกมากถึง 5 สีเหมือนเดิม ประกอบด้วย

สีฟ้า
สีม่วง
สีมิดไนท์
สีสตาร์ไลท์
สีแดง (PRODUCT) RED

สีฟ้า

เริ่มต้นที่สีฟ้าก่อนเลย รอบนี้ปรับโทนให้สว่างขึ้นเป็นฟ้าที่ละมุนละไมกว่าสีน้ำเงินในปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกถึงสีฟ้า Sierra Blue ของ iPhone 13 Pro ที่ถูกปรับมาอยู่บนฝาหลังแบบมันวาวและกรอบเครื่องแบบด้าน แบบนั้นแหละใช่เลยครับ

สีม่วง

และสีม่วงอีกสีใหม่ของ iPhone 14 ในปีนี้ก็ปรับเฉดมาใหม่เช่นกัน โทนจะออกขาวที่มีความอมม่วงเล็ก ๆ ไม่ได้ม่วงแบบแสบตาเกินไป อารมณ์จะคล้ายกับสีชมพูในรุ่นก่อนแต่มีความม่วงกว่าเล็กน้อย เป็นอีกสีที่เราว่าสาว ๆ คงชอบไม่น้อย มีความหวานเล็ก ๆ สว่างหน่อยหน่อย

สีมิดไนท์

มาต่อกันที่สีมิดไนท์หรือสีดำที่มีความเหลือบน้ำเงินเข้ามาเหมือนเดิม เป็นโทนที่ดูไม่เรียบจนเกินไป แต่ก็ยังได้ความคมเข้มแบบคลาสสิคอยู่ ใครที่ชอบความเรียบแต่ก็มีอะไรแทรกอยู่ด้วยน่าจะยังถูกใจในสีมิดไนท์ในปีนี้ครับ

สีสตาร์ไลท์

สตาร์ไลท์หรือหลายคนอาจจะเรียกว่าสีขาว ภายนอกถ้าเรามองจริง ๆ ยังคงเป็นสีขาวที่มีความเหลือบทอง ๆ ตรงกรอบเครื่อง ยังเป็นโทนที่มีความเงินอุ่น ๆ ผสมทองได้อย่างลงตัว เป็นอีกสีที่เราว่าเข้าถึงได้ง่ายกับทุกลุค ยิ่งคนที่ชอบโทนสว่างแบบเรียบง่ายยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่

สีแดง (PRODUCT) RED

ปิดท้ายที่สีแดง (PRODUCT) RED รอบนี้ปรับเฉดให้มีความอิ่มของสีขึ้นมาอีก เป็นแดงที่สดกว่าเดิม ใครที่ชอบสีแดงแบบสด ๆ ต้องถูกใจ (PRODUCT) RED ของ iPhone 14 ในปีนี้แน่นอน

ดูสีสันกันไปครบทุกสีแล้วมาปิดท้ายด้วยดีไซน์โดยรวมกันสักหน่อยบน iPhone 14 เรายังคงเห็นดีไซน์ที่คุ้นตา ขนาดที่คุ้นเคย ด้วยหน้าจอ 6.1″ รอยบากบนหน้าจอยังคงติดมาเหมือนเดิม ยังไม่ใช่ Dynamic Island หรือรูกล้องแบบรุ่น Pro ซึ่งก็ยังคงเอกลักษณ์ของ iPhone รุ่นเริ่มต้นได้ดี เหมือนแยกรุ่นกันชัดเจนมากขึ้นเลยเนาะ

ส่วนที่ด้านหลังก็ยังมีกล้องหลังคู่ที่วางแนวทะแยงแต่ด้วยเซ็นเซอร์กล้องหลังชุดใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ตัวเลนส์กล้องเลยกินพื้นที่ของกรอบเลนส์ขึ้นมาอีกหน่อย ดูเต็มตามากขึ้น แต่ถ้ามองเผิน ๆ ก็ไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนมากนักครับ