Apple News
สรุป 10 ฟีเจอร์ใหม่ iPad (รุ่นที่ 10) มีอะไรน่าสนใจบ้าง
iPad (รุ่นที่ 10) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เรียกได้ว่าเป็น iPad ที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด แต่ยังได้อัปเกรดสเปคภายและรองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มาพร้อม iPadOS 16 อีกเพียบ
วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวม 10 ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อม iPad (รุ่นที่ 10) ที่หลายคนอาจไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เผื่อใครกำลังหาข้อมูลอยู่ ไปดูกันเลย
จอใหญ่เต็มพื้นที่ทั้งหมด
iPad (รุ่นที่ 10) มีจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ที่ดีไซน์ใหม่โดยเป็นหน้าจอขยายชิดขอบทุกด้าน เพระไม่มีปุ่มโฮมแล้ว ทำให้ผู้ใช้มีพื้นที่หน้าจอมากขึ้นสำหรับแอป เกม และสนุกได้เต็มที่บน iPad โดยขนาดตัวเครื่องยังคงใกล้เคียงกับขนาดเดิมในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งหน้าจอของรุ่นนี้มีความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล ความสว่าง 500 นิต และเทคโนโลยี True Tone
ปุ่ม Touch ID ใหม่
Apple ได้ย้ายปุ่ม Touch ID ไปไว้ที่ปุ่มด้านบนของ iPad ทำให้ปลดล็อค ล็อกอินเข้าสู่แอป และใช้ Apple Pay ได้สะดวกมากขึ้น จากเดิมใน iPad (รุ่นที่ 9) จะใช้เป็นปุ่มโฮมแบบดั้งเดิมที่มี Touch ID ซึ่งก็ทำให้รุ่นใหม่นี้มีพื้นที่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
ชิป A14 Bionic
ใน iPad (รุ่นที่ 10) ได้มีการอัปเกรดไปใช้ชิป A14 Bionic ที่ทำงานได้มากขึ้น 20% และกราฟิกที่ปรับปรุงดีขึ้น 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมฟังก์ชั่นการเรียนรู้ของระบบที่ขับเคลื่อนโดย Neural Engine แบบ 16-core ซึ่งมีจำนวนคอร์มากกว่าชิป A13 ถึงสองเท่า ตอบโจทย์สำหรับงานทั่วไปในแต่ละวัน เช่น การทำโครงงานของโรงเรียน การตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง หรือการเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยงามสมจริง และยังประหยัดพลังงานได้ดีขึ้นด้วย
กล้องหน้าอัลตร้าไวด์แนวนอน
เป็นครั้งแรกบน iPad ที่ตอนนี้กล้องหน้าอยู่ในขอบฝั่งแนวนอน ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการโทร FaceTime หรือบันทึกวิดีโอสำหรับโซเชียลมีเดีย ก็สามารถมองตรงไปที่กล้องได้ตลอดเวลา กล้องหน้าอัลตร้าไวด์มีความละเอียด 12MP และมุมมองภาพ 122 องศา รองรับคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง ซึ่งจะคอยแพนและซูมโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในมุมมองภาพตลอดเวลาขณะที่ขยับตัวไปมา ในขณะที่กล้องไวด์ด้านหลังความละเอียด 12MP ก็รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมรองรับสโลว์โมชั่นที่ 240fps
ไมโครโฟนและเสียงดี
ไมโครโฟนคู่ใน iPad ออกแบบมาให้ทำงานไปด้วยกันกับกล้อง โดยสามารถอัดเสียงจากกล้องที่กำลังใช้งานและลดเสียงรอบข้างที่รบกวนให้เหลือน้อยที่สุด ส่วนลำโพงสเตอริโอแนวนอนใหม่ที่ทำงานผสานกับจอภาพขนาดใหญ่ขึ้นบน iPad ก็ทำให้ประสบการณ์การรับชมวิดีโอดียิ่งขึ้น
รองรับ Wi-Fi 6
บน iPad รุ่นใหม่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็วกว่าเดิม ทำให้การเชื่อมต่อบน iPad ใหม่ทำได้เร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac ที่รองรับในรุ่นก่อนหน้า
รองรับ 5G
iPad ใหม่ในรุ่นเซลลูลาร์รองรับเครือข่าย 5G แล้ว ช่วยให้ใช้งานระดับความเร็วสูงสุดได้ถึง 3.5Gbps เข้าถึงไฟล์ สื่อสารกับเพื่อน และสตรีมคอนเทนต์ได้อย่างราบรื่น และรองรับ Gigabit LTE, ซิมการ์ดจริง และ eSIM ที่เปิดใช้งานได้บนอุปกรณ์ ทำให้ iPad ให้ความคล่องตัวในเรื่องการเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา
พอร์ต USB-C
ในที่สุด iPad ใหม่ก็มาพร้อมพอร์ต USB-C ทำให้รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายและใช้เวลาชาร์จได้เร็วขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ชาร์จไฟกำลังสูง แถมยังเป็นความหวังของผู้ใช้งาน iPhone ในอนาคตด้วยว่าจะได้เปลี่ยนไปใช้พอร์ตรุ่นใหม่นี้เช่นกัน
อุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์เสริมของ iPad ช่วยให้ทำงานได้อเนกประสงค์มากขึ้น เช่น Magic Keyboard Folio ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad ใหม่ และยังเป็นครั้งแรกที่ iPad มีคีย์บอร์ดที่มีแทร็คแพดขนาดใหญ่และรองรับการคลิกตรงไหนก็ได้พร้อมด้วยคำสั่งนิ้ว Multi-Touch ในส่วนของ Apple Pencil ก็จะรองรับรุ่นที่ 1
กล่องรักษ์โลก
iPad ใหม่ยังเป็น iPad รุ่นแรกที่ใช้ทองแดงรีไซเคิล โดยทองแดงในฟอยล์ของแผงวงจรหลักเป็นทองแดงรีไซเคิล 100% โดยกล่องบรรจุภัณฑ์ของ iPad ใหม่ มีการออกแบบใหม่เลิกใช้พลาสติกหุ้มชั้นนอก และบรรจุภัณฑ์ 97% ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก
สำหรับ Pad (รุ่นที่ 10) รุ่น Wi-Fi พร้อมวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท โดยมาในความจุ 64GB และ 256GB มีให้เลือก 5 สีสันสดใส ได้แก่ สีฟ้า สีชมพู สีเหลือง และสีเงิน
ที่มา : Apple