Connect with us

Smart Review

รีวิว Belkin Travel Kit เติมเต็มไลฟ์สไตล์ ด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่พร้อมใช้ในทุกเวลา

Published

on

รีวิว Belkin Travel Kit รวม 4 ผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันพร้อมให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพผ่านนวัตกรรมและดีไซน์ที่ล้ำสมัยจาก Belkin ที่ประกอบด้วยหัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W, สายชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE USB-C with Lightning รุ่น PRO Flex, หูฟังไร้สายพร้อมกล่องชาร์จขนาดกระทัดรัด Belkin SoundForm Pulse Nose Cancellation Earbuds และแท่นชาร์จไร้สายติดรถยนต์ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger with MagSafe 15W โดยทั้งนี้ใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง ทีมงาน iphone-droid.net จะพาไปชมกันทีละผลิตภัณฑ์กันเลยครับ

หัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W (WCH013dqWH)

เริ่มกันด้วยหัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W (WCH013dqWH) ที่มาในดีไซน์ขนาดเล็ก พกพาสะดวก และใช้เทคโนโลยี GaN ที่ช่วยให้มีขนาดเล็กแต่ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพด้วยการชาร์จกำลังไฟสูงสุด 65W

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • หัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W (WCH013dqWH)
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

คุณสมบัติ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W

  • โมเดล : WCH013dq
  • Input : AC 100-240V~ 1.5A 50-60Hz
  • Output (USB-C1/C2) : (PDO) 5.0V=3.0A, 9.0V=3.0A, 12.0V=3.0A, 15.0V=3.0A, 20.0V=3.25A (PPS) 3.3-21.0V=3.0A
  • Output (USB-C1+C2) : 20W+45W (สูงสุด 65W)

ดีไซน์สวยงาม ขนาดเล็ก พกพาสะดวก

ในเรื่องของดีไซน์หัวชาร์จจาก Belkin ถือเป็นจุดเด่นอยู่แล้วครับ ในรุ่นนี้มาในดีไซน์ที่ดูคลีนมากๆ มีขนาดเล็กๆ พกพาไปได้สะดวกทุกทีแน่นอน ซึ่งจุดนี้เป็นเพราะการที่หัวชาร์จจาก Belkin รุ่นนี้ได้ใช้เทคโนโลยี GaN เพื่อทำให้ส่วนประกอบภายในมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ภาพรวมดูเล็กลงไปด้วยนั่นเองครับ

ขณะที่ตัวน้ำหนักก็เบามากๆ ใช้งานได้ทั้งที่บ้าน ที่ทำงานหรือพกพาไปยังสถานที่ต่างๆ ได้แบบไม่เกะกะเลยครับ

ที่สำคัญ Belkin BOOST↑CHARGE โมเดล WCH013dq ยังพับบริเวณหัวได้เพื่อให้ทุกการพกพาง่ายขึ้น ไม่ไปโดนอุปกรณ์อื่นๆ ครับ

การจ่ายไฟแรงสุด 65W

หัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W รองรับการชาร์จที่กำลังไฟสูงสุด 65W เมื่อใช้การชาร์จแบบเดี่ยว หรือหากจะใช้ทั้ง 2 ช่องก็จะมีการกระจายกำลังไฟได้อย่างเหมาะสม

โดยหากใช้ 2 ช่องพร้อมกัน ช่องแรกจะรองรับ 45W เหมาะกับการชาร์จ MacBook, iPad, แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อปรุ่นต่างๆ ขณะที่ช่องที่ 2 จะรองรับสูงสุด 20W ที่เหมาะกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ขนาดเล็กอื่นๆ ครับ

และจากที่เราได้ลองใช้งานจริงด้วยการชาร์จ iPhone 14 สามารถชาร์จจาก 0% ไปที่ 50% ในเวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้นครับ และก็จะเต็มในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ

ระหว่างการชาร์จ ตัวหัวชาร์จของ Belkin รุ่นนี้ก็สามารถระบายความร้อนออกมาได้ดีมาก เวลาสัมผัสหัวชาร์จตอนชาร์จจะรู้สึกถึงความร้อน (ปกติของเทคโนโลยี GaN ที่ระบายความร้อนออกมาภายนอกครับ) แต่พอชาร์จเสร็จแล้วก็ใช้เวลากลับมาอยู่อุณหภูมิปกติได้ไวเช่นกัน

ใช้งานได้กับอุปกรณ์มากมาย

จริงๆ แล้ว หัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W รองรับการชาร์จเร็วให้กับอุปกรณ์ที่มากมายไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Samsung ไปจนถึง Macbook หรือ Laptop รุ่นที่รองรับ ซึ่งหากใช้เต็มประสิทธิภาพจะทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ ดังนี้

  • iPad รุ่นที่ 9
  • MacBook Pro
  • iPad mini รุ่นที่ 6
  • Dell XPS 13”
  • Google Pixel 5
  • Google Pixel 6
  • iPhone 14
  • iPhone 14 Pro
  • iPhone 14 Plus
  • iPhone 14 Pro Max
  • iPhone 12
  • iPhone 12 mini
  • iPhone 12 Pro
  • iPhone 12 Pro Max
  • iPhone 13
  • iPhone 13 mini
  • iPhone 13 Pro
  • iPhone 13 Pro Max
  • Galaxy S21 5G
  • Galaxy S21+ 5G
  • Galaxy S21 Ultra 5G
  • Galaxy S23
  • Galaxy S23 Plus
  • Galaxy S23 Ultra
  • Galaxy Note20
  • Galaxy Note20 Ultra
  • Surface Pro 3
  • Surface Pro X

ราคาอย่างเป็นทางการ

หัวชาร์จ BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C 65W เทคโนโลยี GaN (Gallium nitride) พร้อม PPS (WCH013dqWH) เหมาะสำหรับการชาร์จ iPhone, iPad, MacBook Air สามารถสั่งซื้อได้ในราคาเพียง 1,790 บาท โดยจะมีการรับประกัน 2 ปีและรับประกันอุปกรณ์เชื่อมต่อ (CEW) สูงสุด 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ

สายชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE USB-C with Lightning รุ่น PRO Flex (CAA011bt1MBL)

มาต่อกันด้วยผลิตภัณฑ์ที่ 2 ของ Belkin Travel Kit ที่เป็นสายชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE USB-C with Lightning รุ่น PRO Flex (CAA011bt1MBL) ที่สามารถใช้งานร่วมกับหัวชาร์จ BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C 65W ได้อย่างลงตัวเหมือนกันครับ ซึ่งเจ้าตัวสายชาร์จมีจุดเด่นอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • สายชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE USB-C with Lightning รุ่น PRO Flex (CAA011bt1MBL)
  • แม่เหล็กยึดโต๊ะ

สายแบบถัก แข็งแรงทนทานและลดการพันกัน

สายชาร์จ BOOST↑CHARGE Pro Flex USB-C with Lightning จะเป็นสายที่ให้ดีไซน์มาแบบถัก 2 ชั้นที่มีความแข็งแรงและทนทานสุดๆ ตอนสัมผัสก็รู้สึกถึงความแข็งแรงของสายได้แล้วครับ ซึ่งสายแบบถักสายนี้เพิ่มคาวมทนทานมากกว่าสายทั่วไปถึง 30 เท่า

โดยสาย Belkin BOOST↑CHARGE Pro Flex USB-C with Lightning มีการทดสอบการหักงอมากถึง 30,000 ครั้ง ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าสายนี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน ต่างจากแบบสายวัสดุทั่วไปที่อาจกรอบหรือหัวบริเวณหัวชาร์จได้ง่ายครับ

สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ใน BOOST↑CHARGE Pro Flex USB-C with Lightning จะเป็นแบบซิลิโคน Ultra-flexible เพิ่มความยืดหยุ่นเป็นพิเศษครับ หมดปัญหาการงอและการพันกันของสายได้เป็นอย่างดี ไม่ปวดหัวเวลาพกสายใส่กระเป๋า แต่พอจะใช้งานจริงต้องเสียเวลาแกะไม่ให้พันกัน

ทั้งนี้ ในกล่องที่จะมีแม่เหล็กยึดโต๊ะมาให้ด้วย และสามารถนำไปติดกับขอบโต๊ะได้เลยครับ ซึ่งตรงนี้นำไปติดกับแม่เหล็กที่อยู่ตรงตัวสายเพื่อไม่ให้สายพันกันเวลาใช้บนโต๊ะทำงาน และยังทำให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ไม่ต้องวางสายบนโต๊ะให้เกะกะเลย

ทดสอบการชาร์จร่วมกับหัวชาร์จ BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C 65W

สาย BOOST↑CHARGE Pro Flex USB-C with Lightning รองรับมาตรฐาน USB Power Delivery (PD) ซึ่งเราได้ลองใช้กับหัวชาร์จ BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C 65W ตอนต้นก็ทำงานร่วมกันได้ดีมากครับ

ซึ่งเราได้ลองชาร์จ iPhone 14 ก็ทำได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ได้ลดทอนความแรงของกำลังไฟของอะแดปเตอร์ที่ส่งมายังสายเลยครับ และยิ่งไปกว่าสายนี้ยังผ่านการรับรอง MFi (Made for iPhone iPod iPad) ที่เป็นมาตรฐานอุปกรณ์เสริมที่กำหนดโดย Apple ด้วยครับ

ราคาอย่างเป็นทางการ

สายชาร์จ BOOST↑CHARGE Pro Flex USB-C (CAA011bt1MBL) พร้อมหัวต่อ Lightning มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ น้ำเงิน ชมพู และขาว วางจำหน่ายในราคาเพียง 990 บาท (ความยาว 1 เมตร) และราคา 1,190 บาท (ความยาว 2 เมตร) โดยมีการรับประกันจาก Belkin นานถึง 5 ปี

แท่นชาร์จไร้สายติดรถยนต์ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger with MagSafe 15W (WIC008btGR-NC)

มาถึง Belkin Travel Kit ชิ้นที่ 3 อย่าง Belkin BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger with MagSafe 15W ที่เป็นแท่นชาร์จสำหรับการใช้งานบนรถยนต์ครับ ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone 12 Series ขึ้นไปเท่านั้น โดยจะสะดวกขนาดไหนมาดูกันครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ที่ชาร์จไร้สายพร้อม Belkin BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger with MagSafe 15W
  • คู่มือติดตั้งฉบับย่อ

คุณสมบัติ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger with MagSafe 15W

  • ความสูง : 6 ซม. / 2.4 นิ้ว
  • ความยาว : 9 ซม. / 3.54 นิ้ว
  • ความกว้าง : 8.6 ซม. / 3.4 นิ้ว
  • น้ำหนัก : 142 กรัม
  • กำลังไฟสูงสุด 15W

ดีไซน์เรียบหรู พร้อมติดตั้งอย่างแน่นหนา

สำหรับแท่นชาร์จไร้สาย MagSafe บนรถยนต์ใช้ดีไซน์แบบเรียบหรูที่เข้ากันกับ iPhone มากๆ ครับ โดยแท่นชาร์จนี้มีความเบาและบางพอสมควรครับ

โดยการติดตั้งก็สามารถติดเข้ากับช่องแอร์บนรถยนต์ได้อย่างแน่หนา เวลาขับรถต้องมีการสั่งและสะเทือนอยู่ก็ไม่มีทางหลุดแน่นอนครับ

ที่สำคัญตรงเกลียวของแท่นชาร์จไร้สายตัวนี้ยังสามารถหมุนเพื่อปรับระดับองศาเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละคนได้ด้วยเหมือนกัน

ด้วยการที่รองรับการติดแบบ MagSafe เราจะปรับให้ใช้งานเป็นแนวตั้งเพื่อดูหน้าจอ ฟังเพลงทั่วไป หรือปรับเป็นแนวนอนเพื่อดูวิดีโอหรือเส้นทางก็ทำได้ทั้งหมด โดยที่เราใช้มือปรับได้เลยทันทีเพราะความแข็งแรกของตัวแม่เหล็ก ไม่ต้องถอดและใส่กลับเข้าไปใหม่ครับ

ชาร์จเร็วสูงสุด 15W

ด้วยเทคโนโลยี MagSafe ทำให้เราสามารถชาร์จเร็วผ่าน MagSafe ได้สูงสุด 15W (ต้องใช้กับหัวชาร์จ 20W ขึ้นไป) โดยความเร็วในการชาร์จจากที่ทดสอบจาก 0-50% จะใช้เวลาประมาณ 50 นาที ซึ่งย้ำอีกครั้งว่าจำเป็นต้องใช้กับ iPhone 12 Series ขึ้นไปเท่านั้นครับ

ราคาอย่างเป็นทางการ

แท่นชาร์จไร้สายติดรถยนต์ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger with MagSafe 15W (WIC008btGR-NC) วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท โดยมีการรับประกัน 2 ปีโดย Belkin

หูฟังไร้สาย Belkin SoundForm Pulse Nose Cancellation Earbuds (AUC007)

และผลิตภัณฑ์สุดท้ายใน Belkin Travel Kit เพื่อให้เราเดินทางได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น จะเป็นหูฟังไร้สาย True Wireless อย่าง Belkin SoundForm Pulse Nose Cancellation Earbuds (AUC007) ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ระดับท็อปเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการปรับ EQ, ไมโครโฟนที่ตัดเสียงรบกวนได้เยี่ยม และตัดเสียงรบกวนภายนอกระหว่างฟังเพลงได้ขั้นสุด

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • หูฟังไร้สาย SoundForm Pulse Noise Cancelling Earbuds
  • เคสชาร์จไร้สายหรือ USB Type-C
  • จุกหูฟังซิลิโคน 3 ขนาด (เล็ก/กลาง/ใหญ่)
  • สาย USB-C
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

สรุปสเปค Belkin SoundForm Pulse Nose Cancellation Earbuds

  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
  • ขนาดไดเวอร์ไดนามิก : 12 มม.
  • กันน้ำ/ฝุ่น (หูฟัง) : IPX5
  • การชาร์จ (เคส) : USB Type-C หรือไร้สาย

ดีไซน์เคสขนาดเล็ก พกพาไปได้ทุกที่

หูฟังไร้สาย Belkin SoundForm Pulse มาในตัวเคสขนาดเล็กและพกพาไปได้สะดวกทุกที่ พร้อมมีน้ำหนักเบามากๆ พร้อมให้ใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งการดีไซน์บอกเลยว่าเป็นเอกลักษณ์ของทาง Belkin สุดๆ ด้วยจะได้ความหรู พรีเมียม และแอบมินิมอลอยู่ผ่านสีขาวรอบตัวเคส แถมที่ด้านบนก็มีการสลักโลโก้ Belkin เอาไว้ด้วย

ที่ด้านหน้าตัวเคสจะมีไฟ LED เพื่อบอกสถานะของแบตเตอรี่เคส ส่วนด้านหลังจะมีพอร์ต USB Type-C เพื่อชาร์จได้ (หรือจะชาร์จไร้สายก็ได้เหมือนกันครับ)

และที่ชอบในตัวเคสของ คือตัวฝาผิดที่ทำได้แข็งแรงมากครับ สามารถเปิดกางออกได้แบบนิ่งๆ ดูแข็งแรง ไม่โยกเยกเลย

มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและเหงื่อระดับ IPX5

ตัวของหูฟังก็พร้อมให้เราได้ใช้งานหลายสถานการณ์ โดยรองรับมาตรฐานกันละอองน้ำและเหงื่อได้แบบ IPX5 ซึ่งสามารถใช้ได้แน่นอนในตอนออกกำลังกาย

ที่ตัวของหูฟังก็มาพร้อมขนาดเล็ก น้ำหนักไม่หนักจนเกินไป ช่วยให้สวมใส่ได้นานโดยไม่เมื่อยใบหูครับ

การเชื่อมต่อง่ายทั้ง iOS และ Android

Belkin SoundForm Pulse สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายทั้งสมาร์ทโฟน Android หรือ iPhone ซึ่งในฝั่งของ Android จะรองรับฟีเจอร์ Google Fast Pair ที่เพียงแค่เปิดฝาหูฟังและนำไปไว้ใกล้กับสมาร์ทโฟนที่ต้องการเชื่อมต่อ ก็จะเด้ง Pop-Up ให้เราได้เชื่อมต่อทันที ขณะที่ฝั่งของ iOS ก็จะเชื่อมต่อได้ง่ายเช่นกันครับ โดยเราสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SoundForm ได้จาก App Store หรือ Google Play Store ได้เลยเพื่อใช้งานได้แบบเต็มที่

ทั้งนี้ Belkin SoundForm Pulse ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Multipoint ที่ให้เราได้เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน 2 เครื่องได้พร้อมกัน ช่วยให้เราสามารถสลับการใช้งานระหว่างกันได้อย่างราบรื่น

Google Fast Pair เมื่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟน Android

แตะเพื่อควบคุมได้อย่างสะดวก

ที่แถบด้านบนของตัวหูฟังของ Belkin SoundForm Pulse จะรองรับการแตะเพื่อควบคุมได้ง่ายๆ และตอบสนองได้ไวเลยทีเดียว ซึ่งค่าของระบบพื้นฐานมีตามนี้เลย

  • แตะ 1 ครั้ง : เล่น/หยุดเพลง
  • แตะ 2 ครั้ง : เล่นเพลงถัดไป หรือรับสาย/วางสาย
  • แตะ 3 ครั้ง : เล่นเพลงก่อนหน้า
  • แตะค้าง 2 วินาที (ข้างไหนก็ได้) : ตัดสาย
  • แตะค้าง 2 วินาที (ข้างซ้าย) : เปิดโหมด ANC หรือตัดเสียงรบกวน
  • แตะค้าง 2 วินาที (ข้างขวา) : เรียกใช้ผู้ช่วยส่วนตัว Siri/Google Assistant

ระบบเสียงคมชัด เบสแน่น และมีมิติผ่านไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 12 มม.

ใครที่ชอบฟังเพลงจากแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น Spotify เป็นต้น ก็สามารถได้รับประสบการณ์เสียงได้เต็มที่และทำได้เกินราคามากๆ ซึ่งใน Spotify จะมีเพลย์ลิสต์ชื่อ “BELKIN SOUNDFORM” ที่ออกแบบมาให้เราฟังเสียงเพลงที่ทำให้หูฟังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเราได้ลองในเพลง Royals ของ Lorde ที่ตัวเพลงจะมีเบสหนักสะใจ รวมถึงเสียงคอรัสก็สดใส ได้มิติที่หลากหลายเกินราคาครับ

ขณะที่อีกเพลงที่ทดสอบจะเป็นเพลง Say Something ของ A Great Big World และ Christina Aguilera ที่จะได้ย่านเสียงที่สดใสและคมชัด ซึ่งเพลงนี้จะมีเสียงที่สูงทำให้เรารู้สึกและได้อรรถรสเพิ่มมากขึ้นจากการใช้หูฟังรุ่นนี้ครับ

การที่เราได้เสียงระดับนี้เป็นเพราะ Belkin SoundForm Pulse มาพร้อมไดร์เวอร์แบบไดนามิกขนาดใหญ่ 12 มม. ช่วยให้เบสแน่นและเสียงคมชัดได้ทุกมิติเลยครับ

ปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการด้วยแอพฯ SoundForm

ตัวของแอปพลิเคชั่น SoundForm ที่เราโหลดไว้ข้างต้นก็ช่วยให้เราปรับแต่งเสียงให้ตรงใจเราได้มากขึ้นไปอีก หลักๆ แล้วจะมีทั้งหมด 4 โหมดแบบอัตโนมัติ ได้แก่ ค่าพื้นฐาน, Immerse, Voice และ Relax ซึ่งในแต่ละแบบก็จะเน้นการใช้งานที่แตกดต่างกันออกไป อย่าง Immerse จะเน้นเรื่องการฟังเพลง ช่วยให้เบสหนักแน่นมากขึ้นทันที หรือหากเป็น Voice ก็จะเป็นโหมดที่ให้เน้นเสียงร้องมากขึ้นและลดเบสลง หรือหากเป็น Relax ก็จะเน้นเสียงสดใสมากขึ้น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาฟังเพลงครับ

หรือหากโหมดต่างๆ ยังไม่ตอบโจทย์ เราก็สามารถปรับค่า EQ ได้ตามในชอบเหมือนกันครับ

มาพร้อม Hybrid Active Noise Cancelling เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนขั้นสูง

เวลาเราฟังเพลงก็ไม่ต้องการให้เสียงรบกวนภายนอกทะลุเข้ามาแน่นอน ซึ่ง Belkin SoundForm Pulse ก็มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid Active Noise Cancelling ลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ซึ่งลดเสียงภาพนอกได้อย่างชัดเจนมาก และที่ชอบเลยคือไม่ปวดหูเวลาเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ครับ

เปิดรับเสียงภายนอกผ่านโหมด Hear-thru

ในบางเวลาเราก็ต้องการความปลอดภัยระหว่างการใช้งานหูฟังเหมือนกัน อย่างตอนที่เดินบนถนนที่ต้องฟังเสียงต่างๆ รอบข้าง ในแอพ SoundForm ก็จะมีโหมด Hear-thru หรือโหมด “ได้ยินเสียงจากภายนอก” ให้เราได้ยินเสียงจากภายนอกได้โดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังเลยครับ ซึ่งเราสามารถปรับค่าได้ตั้งค่า 0-100 ระดับเลยด้วย

คุยโทรศัพท์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากจะฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรสแล้ว Belkin SoundForm Pulse ก็ยังให้เราคุยโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจนและเพิ่มความสะดวกสบาย ตั้งแต่การให้เราได้ใช้งานทั้งหูฝั่งซ้ายหรือขววอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องใส่หูฟังทั้ง 2 ข้างครับ ที่สำคัญก็ยังมีไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวแบบ Micro Electro-Mechanical System (MEMS) เพื่อช่วยตรวจจับเสียงพูดของเราเพื่อให้ปลายสายได้ยินอย่างชัดเจน คู่กับการตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไปได้เยี่ยมเลยครับ

จะใช้เล่นเกมก็ยังทำได้เกือบจะเรียลไทม์

หูฟังไร้สาย Belkin SoundForm Pulse ก็ยังให้ใช้งานด้านการเล่นเกมได้ด้วยเหมือนกันครับ ซึ่งเราได้ลองเล่นเกม Call of Duty: Mobile พบว่าความหน่วงหรือค่า Latency ก็ค่อยข้างน้อยเลยครับ เสียงที่เกิดขึ้นบนจอและเสียงที่ได้ยินจริงๆ ก็แทบจะตรงกันเลยครับ ไม่ได้หน่วงจนเกินไป และยังคงอยู่ในระดับที่เล่นได้แน่นอนครับ ทั้งนี้ การแยกมิติของเสียงฝั่งซ้ายและขวาก็ทำได้แม่นยำเช่นกัน

แบตอึดใช้งานนานสุดถึง 35 ชั่วโมง

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องแบตเตอรี่ของหูฟัง True Wireless รุ่นนี้ถือว่าใช้งานได้อึดมากๆ ครับ หากเราชาร์จเต็มทั้งตัวหูฟังและเคส จะใช้งานได้เต็มที่สูงสุด 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งหากชาร์จต่อในเคสไปต่อก็สามารถใช้งานได้อีก 28 ชั่วโมง หรือรวมสูงสุดถึง 35 ชั่วโมงครับ

ในการชาร์จเราเลือกได้ทั้งแบบไร้สายตามมาตรฐาน Qi หรือจะชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ก็ได้หมดตามความถนัดของเราครับ ทั้งนี้ ในหากใครที่มีเวลาไม่มาก หูฟังรุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ฟังเพลงได้ต่อเนื่องอีก 1 ชั่วโมง

ราคาอย่างเป็นทางการ

หูฟังไร้สาย SoundForm Pulse Nose Cancellation (AUC007) มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและขาว โดยวางจำหน่ายในราคา 3,490 บาท ซึ่งจะมีการรับประกัน 2 ปีโดย Belkin

สรุปการใช้งาน Belkin Travel Kit

สำหรับอุปกรณ์ทั้ง 4 อย่างใน Belkin Travel Kit เป็นอุปกรณ์ที่ครบเครื่องเพื่อให้เราได้พกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก และเน้นเพื่อใช้ในการทำงานจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE Pro Dual USB-C GaN Wall Charger with PPS 65W ที่มาในขนาดเล็ก และใช้งานได้ครบและกำลังไฟเต็มที่ทั้งฝั่ง Android, iOS หรือแล็ปท็อปรุ่นต่างๆ ซึ่งหากใช้งานร่วมกับสาย BOOST↑CHARGE USB-C with Lightning PRO Flex ก็รองรับได้เต็มกำลังไฟ โดยระหว่างการทำงานหากใครที่ต้องการฟังเพลงก็ยังมีหูฟังไร้สายแบบ True Wireless อย่าง Belkin SoundForm Pulse Nose Cancellation ที่มีขนาดเล็กแต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่นเข้ามาเพียบเลยครับ และท้ายสุดอย่างอุปกรณ์ที่ใช้งานบนรถยนต์ BOOST↑CHARGE Pro Wireless Car Charger ที่รองรับ MagSafe เพื่อใช้งานกับ iPhone 12 Series ขึ้นไปได้ทั้งหมด ใช้เพื่อดูเส้นทางหรือข้อมูลต่างๆ ไปพร้อมกันการชาร์จไร้สายที่ 15W ด้วยครับ

ใครที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ Belkin official store ได้แก่ Belkin official Lazada store และ Belkin official Shopee store, BananaIT, iStudio by Copperwired, iStudio by SPVI and iStudio by Uficon, Power Buy, PowerMall และ Studio 7 ครับ

Android News3 ชั่วโมง ago

Dave2D ทำการทดสอบ Snapdragon 8 Elite ได้การประหยัดพลังงานสูงขึ้นถึง 43%

นับว่าเป็นการอัปเกรด...

Android News4 ชั่วโมง ago

คาดหวัง ! Ice Universe เผย One UI 7.0 จะมีแอนิเมชันและการเปลี่ยนฉากต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมมาก

หลังจากที่เคยมีรายงา...

Android News5 ชั่วโมง ago

Redmi Note 14 5G Series ยืนยันเปิดตัวในอินเดียวันที่ 9 ธ.ค. มาพร้อมสโลแกน “Super Camera, Super AI”

Xiaomi ได้ประกาศวันเ...

Apple News5 ชั่วโมง ago

ลือ ! Apple กำลังสร้าง ‘LLM Siri’ ในปี 2026 บน iOS 19

ตามรายงานของ Bloombe...

Android News20 ชั่วโมง ago

เช็คกัน !! OPPO เผยตารางอัปเดต ColorOS 15 บน Android 15 ทั่วโลก

ในวันนี้ OPPO ได้เปิ...

Apple News20 ชั่วโมง ago

อย่างสวย ! YouTuber โชว์ดีไซน์ iPhone 17 Air กล้องหลัง 1 เลนส์ พร้อมจอ Dynamic Island

เราได้ยินมาแค่ข่าวลื...

HUAWEI IdeaHub HUAWEI IdeaHub
IT News21 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่

หัวเว่ยเปิดตัว IdeaH...

Smart Review23 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook S 14 OLED (S5406) โน้ตบุ๊คดีไซน์มินิมอล l Intel Core Ultra 7 258V l ใช้นานสุด 27 ชม. และคีย์บอร์ดมีไฟ RGB !

รีวิว ASUS Vivobook ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก