Connect with us

Featured

รีวิว realme C53 สมาร์ตโฟนแชมป์เปี้ยนในเซกเมนต์ ชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC l ROM 128GB l ดีไซน์สวยงาม

Published

on

มาตามนัดแล้วสำหรับรีวิวฉบับเต็มสำหรับ realme C53 สมาร์ตโฟนดีไซน์ในระดับแชมเปี้ยน พร้อมสเปคสุดคุ้มที่จัดเต็มตั้งแต่หน้าจอใหญ่ 6.74 นิ้ว ไหลลื่นระดับ 90Hz พร้อมได้กล้อง 50MP และแบตฯ ใหญ่ 5000mAh แถมด้วยชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC และมาในราคาสบายกระเป๋าสุดๆ แบบ 5,000 บาทมีทอน !!

สรุปสเปค realme C53

  • ขนาดตัวเครื่อง : 167.4 x 77 x 7.49 มม.
  • น้ำหนัก : 187 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลหลัก IPS LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล), 260PPI รองรับ Refresh Rate 90Hz และความสว่างสูงสุด 560 นิต
  • หน่วยประมวลผล : UNISOC T612 Octa Core ความเร็ว 1.82GHz
  • RAM : 6GB LPDDR4X
  • ROM : 128GB รองรับ MicroSD สูงสุด 2TB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์เสริมความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI T Edition
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่องกัน realme C53

ตัวกล่องของ realme C53 มาพร้อมกับสีเหลืองทั้งตัวกล่อง ตัดด้วยชื่อรุ่นและแบรนด์ realme C53 สีดำอย่างลงตัว

ภายในจะมีสิ่งที่ให้มาในกล่องทั้งเคสใสที่เป็นสีดำ พร้อมด้วยเข็มเปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ตามด้วยตัวเครื่อง realme C53 ที่ไม่มีฟิล์มหน้าจอมาให้ในจุดนี้ครับ

และด้านล่างสุดจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC มาให้แบบไม่ต้องซื้อเพิ่ม คู่กับสาย USB Type-C to Type-A มาให้ครบแล้วครับ

ดีไซน์ระดับแชมเปี้ยน สวยงามและแตกต่าง

realme C53 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นราคาประหยัดที่ดีไซน์จัดเต็มแบบแชมเปี้ยนด้วยความสวยงามที่ลงตัวด้วยสีทอง Champion Gold เป็นผิวมันเงา สวยงาม สะท้อนแสงเปล่งประกายอย่างสวยงาม พร้อมตัดกับขอบสีเงินได้อย่างลงตัว

รูปแบบของสีทองจะเห็นเป็นลายเส้นสวยงามคล้ายกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างและดูแตกต่างจริงๆ ครับ

ส่วนอีกสีจะเป็นสีดำ Mighty Black ที่ฝาหลังจะเป็นผิวด้าน ต่างจากสีทองครับ มีลายกริตเตอร์คล้ายดวงดาวยามค่ำคืน สวยงาม แต่เต็มไปด้วยความเข้มและคลาสสิกด้วยสีดำทั้งฝาหลังและขอบที่เป็นสีเดียวคลุมโทนทั้งหมดครับ

ตัวเครื่องของ realme C53 จะเน้นเรื่องความเบาบางและความสะดวกในการใช้งาน โดยบางเพียง 7.49 มม. และเบาเพียง 182 กรัมเท่านั้นครับ ถือใช้งานได้นาน ไม่เมื่อยมือ และจับได้ถนัดสุดๆ ครับ

ไม่ว่าจะสีไหนก็สวยงามในระดับแชมเปี้ยนในเซกเมนต์ได้เลยครับ

หน้าจอขนาดใหญ่ 6.74″ และไหลลื่นระดับ 90Hz แบบปรับได้

realme C53 จัดหนักเรื่องหน้าจอแสดงผลด้วยพาเนลแบบ IPS LCD ขนาด 6.74 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ HD+ 1600 x 720 พิกเซล ซึ่งการใช้งานจริงก็ใช้งานได้ชัดเจน และด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้รับชมวิดีโอได้แบบเต็มตาสะใจสุดๆ ครับ

ซึ่งความสว่างหน้าจอจะอยู่ที่สูงสุด 560 นิต ซึ่งยังคงมองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่ในที่แสงจ้าครับ

และที่ขาดไม่ได้ตามที่บอกบนหัวข้อคือการรองรับ Refresh Rate สูงสุด 90Hz ซึ่งในระบบตัวเครื่องจะเป็นการให้เราปรับแบบอัตโนมัติเท่านั้นตามเนื้อหาที่เปิดบนหน้าจอครับ จะไม่สามารถเปิด 90Hz ตลอดได้ แต่เราจะได้ประโยชน์จากการประหยัดพลังงานได้ในตัวครับ

พาชมรอบเครื่อง

เริ่มที่หน้าจอแสดงผลส่วนบนจะมีกล้องหน้าแบบหยดน้ำที่อยู่ตรงกลาง ขณะที่ลำโพง (ใช้สนทนาเท่านั้น) จะอยู่เหลือบไปทางขอบด้านบนครับ

ขณะที่ด้านซ้ายจะเป็นช่องใส่การ์ดแบบ 3 Slot แบ่งเป็น NanoSIM 2 ช่อง + MicroSD Card รองรับสูงสุด 2TB อีก 1 ช่องครับ

ส่วนด้านขวาจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ที่อยู่ถัดลงมา ซึ่งจะฝังระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้วยเพื่อการใช้งานที่สะดวก

ฟังก์ชันทางด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้อยู่ครับ ถัดไปจะเป็นไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และมีลำโพงตัวหลักครับ

และที่ด้านหลังสุด จะมีโมดูกล้องหลังที่เรียงเป็นสามเหลี่ยม โดยด้านบนสุดจะเป็นเลนส์หลัก ด้านขวาจะเป็นไฟแฟลช LED และด้านล่างสุดจะเป็นเลนส์เสริมครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

realme C53 แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 และด้วยความที่เป็นรุ่นเล็กก็เลยมาพร้อมกับ UI ที่เป็น realme UI T Edition ซึ่งจะมีฟีเจอร์หลักๆ ให้ใช้งานกันครบ และยังช่วยในเรื่องระบบการทำงานพื้นหลังที่จะทำงานอย่างเหมาะสมเพื่อให้ไหลลื่นมากที่สุดครับ

มาพร้อม Mini Capsule แสดงข้อมูลสำคัญได้อย่างมีสไตล์

ในรุ่นนี้มีความพิเศษในการแจ้งเตือนอยู่ที่ Mini Capsule ที่จะคล้ายกับการขยายแถบด้านบนหน้าจอบริเวณกล้องหน้าหยดน้ำเพื่อไม่ให้รกหน้าจอเกินไปครับ ซึ่งการแจ้งเตือนของ Mini Capsule จะมีหลายอย่าง เช่น การชาร์จแบตเตอรี่เต็ม แบตใกล้หมด สถานะการชาร์จ หรือจำนวนก้าวหรือการใช้งานอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

สแกนลายนิ้วมือด้านข้างใช้งานได้อย่างสะดวก

realme C53 มาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างที่ทำให้เราใช้งานได้อย่างสะดวกเวลาหยิบตัวเครื่องขึ้นมาก็พร้อมปลดล็อกได้ทันทีครับ

ส่วนใครไม่ถนัดก็สามารถสแกนใบหน้าได้ ซึ่งการทำงานก็ถือว่ารวดเร็วและเสถียรเหมือนกันครับ

มีวอลเปเปอร์ให้เลือกแบบจุใจ พร้อมปรับสีไอคอนได้อย่างลงตัว

ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับวอลเปเปอร์หลายรูปแบบเพื่อให้เราใช้งานได้ตามใจชอบ มีให้เลือกหลายสิบแบบเลยครับ ทั้งยังมีให้เลือกหลายสีตามความชอบ

ซึ่งความพิเศษใน realme UI T Edition จะมีฟีเจอร์ “ไอคอนตามธีม” ที่จะเป็นการเปลี่ยนสีไอคอนตามธีมที่เลือก ซึ่งจะมีให้เราเลือกหลายแบบเช่นกัน จะเลือกให้ตรงกับสีวอลเปเปอร์หรือจะให้สีตัดกันก็ทำได้ทั้งหมดตามใจชอบ

ลำโพงดังสะใจด้วยฟีเจอร์ 150% UltraBoom

แม้ว่าจะเป็นลำโพง Mono ที่เป็นลำโพงเดียว แต่รุ่นนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ 150% UltraBoom ที่จะเป็นการเร่งเสียงขึ้นไปอีกเท่าตัวเพื่อให้เราได้เสียงที่กระหึ่มมากขึ้นกว่าเดิม

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ชิปเซ็ต UNISOC T612 ใช้งานไหลลื่นกว่าที่คิดนะ !

สำหรับ realme C53 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล UNISOC T612 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.82GHz ซึ่งเป็นชิประดับประหยัดที่สามารถใช้งานได้ไหลลื่นพอสมควรเลยครับ ใช้งานทั่วไป อย่างการเล่นโซเซียล หรือดู YouTube ได้สบายมากๆ รวมไปถึงการเล่นเกมทั่วไปก็เล่นได้ไหลลื่นเช่นกันครับ

มาพร้อม Dynamic RAM จัด RAM ให้รวมสูงสุด 12GB

realme C53 มาพร้อมกับ RAM มาถึง 6GB ซึ่งยังรองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM หรือการขยาย RAM ได้ตั้งแต่ 2GB / 4GB / 6GB ซึ่งหากเราปรับที่ 6GB จะทำให้ RAM รวมสูงสุด 12GB ซึ่งเพียงพอมากๆ กับการใช้งานในสมาร์ตโฟนรุ่นประหยัดครับ

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 9.5.6 ได้มาที่ 220,076 คะแนน

ส่วนผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 409 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,466 คะแนน

ทดสอบการเล่นเกม

เรามาลองทดสอบการเล่นเกมตามที่บอกไปว่าเล่นได้ไหลลื่นกันครับ โดยเราจะทดสอบเกมหลักๆ 2 เกม เป็น ROV และ PUBG Mobile

ROV

ประเดิมกันด้วยเกม ROV สามารถเปิดกราฟิกและเฟรมเรทสูงสุดได้ทั้งหมด (ยกเส้นการแสดงผลที่เปิดได้ในระดับ “สูง”) ซึ่งเราลองเล่นโหมดปกติ 5 VS 5 เฟรมเรทได้นิ่งๆ สูงสุด 60fps อาจจะมีการร่วงลงมาที่ 50fps นิดๆ เหมือนกันในบางครั้ง แต่ไม่ได้มีอาการกระตุกจนรู้สึกได้ให้เห็นครับ

PUBG Mobile

ต่อกันด้วย PUBG Mobile จะเปิดกราฟิกได้ที่ HD และเฟรมเรทสูง ซึ่งการเล่นในโหมด 100 คน และแผนที่ใหญ่ 8×8 ก็ทำได้เป็นอย่างดี ไหลลื่น การตอบสนองหน้าจอในการกดยิงหรือเดินก็ทำได้ไว ไม่เจออาการดีเลย์เลยครับ

33W แชมป์เปี้ยนการชาร์จ ในระดับเซกเมนต์เดียวกัน !!

จากการได้ใช้งาน realme C53 ที่ใช้งานแบบทั่วไป ดูโซเซียล, TikTok และ YouTube สลับกันไปมา ด้วยแบตเตอรี่ 5000mAh ก็ถือว่าอึดมากๆ อยู่ได้ครบวันครับ มีแบตฯ เหลือให้กลับมาชาร์จต่ออย่างสบายใจด้วย

ซึ่งในการชาร์จจะรองรับเทคโนโลยี 33W SUPERVOOC ที่เป็นรุ่นที่ชาร์จเร็วสุดในระดับเซกเมนต์เดียวกัน ซึ่งเราลองชาร์จจากแบตประมาณ 30% ไปเต็ม 100% ใช้เวลาราวๆ 60 นาทีครับ

@iphone_droid

realme C53 สมาร์ตโฟนแชมป์เปี้ยนในเซกเมนต์ ชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC วันนี้พกมาใช้งานแบตก็ใกล้จะหมด มาดูกันดีกว่าระหว่างรอออกกำลังกายเสร็จ 30 นาที แบตจะชาร์จเร็วขนาดไหน #realmeC53 #33WChampionCharge #realme #realmeTH #TikTokuni #รอบรู้ไอที #iphonedroid

♬ เสียงต้นฉบับ – iphone-droid.net – iphone-droid.net

กล้อง 50MP ที่ถ่ายได้ดีกว่าเดิม !

relame C53 จัดเต็มในเรื่องกล้องหลังที่จัดเลนส์หลักมาให้ถึง 50 ล้านพิกเซล ให้ใช้งานแบบคมชัด พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่รองรับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโหมดความละเอียดสูง, โหมด AI รองรับ Auto HDR, Portrait และ Night Mode โดยมั้งหมดนี้เป็นอย่างไร มาชมกันเลย !!

50MP ถ่ายคมชัดทุกช๊อต

realme C53 เป็นสมาร์ตโฟนน้องเล็กที่ให้สเคกล้องมาแบบจัดหนักด้วยความละเอียดถึง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความคมชัดที่สูง สามารถครอปหรือนำไปใช้งานต่อได้หลายรูปแบบครับ

มาพร้อม AI Auto HDR ถ่ายสวยเกินราคา

เป็นโหมดกล้องที่บอกเลยว่า realme C53 ทำได้เกินคาดมากๆ เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในราคาใกล้ๆ กันครับ ซึ่งเราจะได้ทั้งการประมวลผที่ถ่ายได้รวดเร็ว รองรับทั้งการตรวจจับฉากด้วย AI ทำให้สีสันของภาพมีความสด ความอิ่มมากๆ ไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติมแล้วจริงๆ และที่ชอบเลยคือการมี Auto HDR ที่ถ่ายย้อนแสงได้ดีมาก ยังเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจน รวมถึงฉากหน้าก็ยังคงสว่างและเก็บรายละเอียดได้ครบ

Portrait ถ่ายสวย ปรับแต่งอย่างธรรมชาติ

ใครที่ชอบถ่ายรูป Portrait ที่มาในราคาประหยัดๆ realme C53 คือหนึ่งในรุ่นที่คุ้มค่ามากๆ สีสันของตัวบุคคลมีความสดใส พร้อมด้วยการปรับแต่งใบหน้าที่ยังคงธรรมชาติ เนียนตา และเพิ่มความสว่างของผิวได้เนียนและไม่เวอร์เกินไปครับ ขณะที่การเบลอฉากหลังก็ละลายได้ค่อนข้างแม่นยำ ไม่ค่อยมีหลุดให้เห็นแบชัดๆ ครับ

Night Mode ถ่ายสวยได้เกินราคา

อีกฟีเจอร์ในกล้องหลังของ realme C53 คือการถ่ายภาพกลางคืนที่ทำได้อย่างสวยงามอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้ใส่มาเล่นๆ เลยครับ การประมวลผลของการถ่ายโหมดอยู่ที่ประมาณ 3-4 วินาที โดยรายละเอียดของภาพจะเห็นได้ชัดเจน มีการปรับแสงให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่สว่างจนฟุ้งเกินไปครับ ทั้งนี้สีสันของภาพก็ยังคงความสดและอิ่มอยู่

สายเซลฟี่ไม่ควรพลาดด้วยความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

ในส่วนของกล้องหน้าที่ให้มาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทำให้เห็นความคมชัดของใบหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งยังรองรับการปรับบิวตี้อย่างสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงการเบลอฉากหลังก็ทำได้เนียนๆ ตัดขอบรอบใบหน้าได้คม แถมยังมี Auto HDR เพื่อถ่ายเซลฟี่ย้อนแสงได้แบบสบายๆ

สรุปการใช้งาน realme C53

realme C53 เป็นสมาร์ตโฟนที่ได้ความเป็นแชมเปี้ยนในเซกเมนต์จริงๆ ที่เริ่มจากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ realme C Series สวยงามเกินราคาทั้ง 2 สี 2 สไตล์ รวมไปถึงสเปคภายที่จัดเต็มมากๆ กับราคาไม่ถึง 5,000 บาท แต่ได้ทั้งเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC ได้ความจุสูงถึง 128GB ใช้งานได้เพียงพอแถมยังใส่ MicroSD ได้สูงสุดถึง 2TB และที่คุ้มสุดๆ คือการได้หน้าจอใหญ่ถึง 6.74 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 90Hz ซึ่งสเปคแบบครบเครื่องขนาดนี้หาได้ยากมากในสมาร์ตโฟนราคาระดับเดียวกันครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย

realme C53 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง Champion Gold และสีดำ Mighty Black โดยสนนราคาในรุ่น 6+128GB อยู่ที่ 4,999 บาทเท่านั้น โดยเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ Shopee ทั้งยังได้รับส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อระหว่างวันที่ 6 – 12 มิถนุายน 2566

ส่วนการซื้อผ่าน realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงผู้ให้บริการทั้ง AIS, True และ DTAC จะเปิดให้สั่งซื้อกันตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,890 บาท

Funtouch OS 15 All new features you need to know Funtouch OS 15 All new features you need to know
Android News16 ชั่วโมง ago

Funtouch OS 15 มีอะไรใหม่ ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15

ในยุคสมัยที่ผู้คนพึ่...

IT News1 วัน ago

AIS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567

AIS รายงานผลประกอบกา...

IT News1 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 ต.ค. – 1 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

HUAWEI MatePad Pro 12.2 Jubilee Diamond HUAWEI MatePad Pro 12.2 Jubilee Diamond
News2 วัน ago

กุญแจแห่งความสำเร็จ! เมื่อผู้บริหาร JUBILEE DIAMOND เลือก HUAWEI MatePad Pro 12.2 ตัวช่วยทำงานที่ครบครัน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเครื่องประดับเพชรแท้ JUBILEE DIAMOND

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ย...

News2 วัน ago

AIS eSports ปิดฉากทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ต ระดับมัธยมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในไทย ปีที่ 4

AIS eSports ปิดฉากทั...

Infinix HOT 50 Pro+ Smartphone gaming Infinix HOT 50 Pro+ Smartphone gaming
Android News2 วัน ago

Infinix เปิดตัว HOT 50 Pro+ เกมมิ่งสมาร์ทโฟน 6,499 บาท

Infinix เปิดตัว HOT ...

Apple News2 วัน ago

ลือต่อ !! ชิปโมเด็ม 5G และ Wi-Fi บน iPhone รุ่นปี 2025 จะเป็นชิปแยก 2 ตัว

ไม่นานนี้มีข้อมูลจาก...

Samsung Galaxy Immersive Gardena Samsung Galaxy Immersive Gardena
News2 วัน ago

ครั้งแรก! ของการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยจากซัมซุง SAMSUNG GALAXY IMMERSIVE GARDENA ในงานดอกไม้ประจำปี ที่เซ็นทรัลชิดลม วันนี้-15 พ.ย. 67

ซัมซุง ร่วมเฉลิมฉลอง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก