Android News
Qualcomm เปิดตัวโมเด็ม Snapdragon X80 5G เพิ่มความเร็ว 5G และ AI พร้อมระบบการเชื่อมต่อ FastConnect 7900
Qualcomm เปิดตัวโมเด็ม 5G รุ่นใหม่ Snapdragon X80 5G ซึ่งเป็นโมเด็มรุ่นที่ 7 ของแบรนด์แล้ว พร้อมเป็นโมเด็ม 5G ที่เพิ่มความเร็ว 5G และขยายด้าน AI เพื่อให้รองรับการใช้งานการเชื่อมต่อดาวเทียมด้วยครับ
โมเด็มนี้จะใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟน, XR Headset, PC, ยานยนต์ และอุปกรณ์ IoT ซึ่ง X80 5G มาพรอมกับหน่วยประมวลผล 5G AI เพื่อการประมวลผลด้านความเร็วเทนเซอร์ซึ่งรับประกันความเร็วข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ความครอบคลุม และประสิทธิภาพการใช้พลังงานในขณะที่ลดเวลาความหน่วงลงด้วย ทั้งนี้ 5G AI Suite Gen 3 บนเครื่องนำเสนอการพัฒนาด้าน AI ซึ่งจะช่วยให้มีความครอบคลุมและความแม่นยำของตำแหน่งมากขึ้น โดย Qualcomm ยังบอกด้วยว่าจะใช้พลังงานน้อยลง 10% เมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย mmWave และปรับปรุงความแม่นยำของตำแหน่ง 30%
Snapdragon X80 ยังเป็นโมเด็ม 5G ตัวแรกที่รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมย่านความถี่แคบ (NB) ไปจนถึงเครือข่ายนอกภาคพื้นดิน (NTN) ซึ่งหมายความว่าเราน่าจะได้เห็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่รองรับการเชื่อมต่อดาวเทียมที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ด้วยครับ
ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดในโมเด็มนี้อยู่ที่ 10Gbps ขณะที่การอัปโหลดอยู่ที่ 3.5Gbps โดยรองรับทั้งความถี่ 5G mmWave (การรวมตัวของผู้ให้บริการ 10 ราย) และความถี่ต่ำกว่า 6GHz (การรวมตัวของผู้ให้บริการ 5 ราย) ที่สำคัญ X80 ยังใช้สถาปัตยกรรมเสาอากาศรับสัญญาณ 6 ตัวและเป็นโมเด็ม 5G ตัวแรกที่มีการรวมตัวรับส่งสัญญาณดาวน์ลิงก์ 6 ตัว และการขยายช่วง mmWave ที่ใช้ AI X80 ใช้เสาอากาศ QTM565 mmWave เดียวกันกับโมเด็ม Snapdragon X75
นอกจากนี้ Qualcomm ยังเปิดตัวระบบการเชื่อมต่อมือถือ FastConnect 7900 ซึ่งเป็นระบบแรกที่รวมการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth และ Ultra Wideband ไว้ในชิปขนาด 6 นาโนเมตรตัวเดียว พร้อมรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7 รุ่นล่าสุดที่มีความเร็วสูงสุดสูงสุด 5.8Gbps รวมถึงมาตรฐาน Bluetooth 5.4 พร้อม Spatial Audio และรองรับ ANT+
ตัวโมดูลนี้ยังได้รับการปรับปรุง AI ซึ่งลดความหน่วงและการดึงพลังงานที่เหมาะสมที่สุด ขณะเดียวกันก็ปรับให้เข้ากับกรณีการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง โดย Qualcomm ระบุว่าใช้พลังงานน้อยกว่า FastConnect 7800 รุ่นก่อนหน้าถึง 40% ด้วย
สำหรับ Qualcomm FastConnect 7900 คาดว่าจะปล่อยให้มีการใช้งานอย่างเป็นทางการในครึ่งหลังของปี 2024 นี้ครับ