พรีวิวแรกสัมผัส Xiaomi 14 เรือธงไซซ์กะทัดรัดพร้อมกล้อง Leica SUMMILUX สุดทรงพลัง!

Xiaomi 14 Series เตรียมเปิดตัวทางการในประเทศไทยวันที่ 13 มีนาคมนี้แล้ว รอบนี้มาด้วยกัน 2 รุ่นคือ Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Ultra ซึ่งทีมงาน iphone-droid.net เราก็ได้มีโอกาสไปสัมผัส Xiaomi 14 เครื่องจริงมาแล้วด้วย แน่นอนว่าไม่พลาดเอาความรู้สึกแรกมาเขียนเป็นบทความให้อ่านกันอีกเช่นเคย

บอกเลยว่าแม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็มีดีในทุกด้านไม่แพ้รุ่นพี่ใหญ่เลยล่ะ น่าสนใจแค่ไหนมาติดตามได้ใน พรีวิวแรกสัมผัส Xiaomi 14 นี้เลยครับ!

ดีไซน์ Xiaomi 14

เริ่มที่ดีไซน์ตัวเครื่องก่อนเลย Xiaomi 14 จะมาพร้อม หน้าจอขนาด 6.36″ เท่ากับ Xiaomi 13 รุ่นก่อน ซึ่งเราว่าเป็นขนาดที่กะทัดรัดดีมาก ในปี 2024 แบบนี้ เพราะเราไม่ค่อยได้เห็นขนาดแบบนี้บนเรือธงยุคนี้ที่เน้นใหญ่ขึ้นสักเท่าไหร่อะเนาะ พอได้จับเครื่องที่เล็กพอดีมือแบบนี้ก็แอบถูกใจอยู่เหมือนกัน

ตัวหน้าจอของ Xiaomi 14 จะเป็นจอ AMOLED แบบ Flat ไปเลย ไม่มีความโค้งของกระจกใด ๆ การแสดงผลทำได้ยอดเยี่ยมด้วยความละเอียดระดับ 1.5K (2670×1200 พิกเซล) สวยงามคมชัด สว่างได้สูงสุดถึง 3000nits เลยล่ะแถมขอบหน้าจอที่บางเฉียบมากเพียง 1.61มม.ยังทำให้รู้สึกว่าได้จอที่เต็มมาก ในขณะที่เครื่องเล็กกะทัดรัดไปด้วยครับ

กรอบเครื่องของ Xiaomi 14 จะเป็นโลหะขัดเงา ซึ่งให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมาก ๆ แม้รูปทรงจะเป็นแบบเหลี่ยมไปเลย แต่ก็เหลี่ยมแบบกำลังดีไม่บาดมือ และตามมุมเครื่องก็จะมีความโค้งให้เวลาถือบนมือแล้วเข้ามือมาก ไม่ทึ่มจนเจ็บอีกต่างหากครับ

ปุ่มกดอยู่ที่ด้านขวาตัวเครื่องทั้งหมดพื้นผิวเป็นแบบเรียบ ๆ แต่ก็กดได้ง่าย ด้วยความที่ตัวเครื่องไม่ใหญ่ วางตำแหน่งได้ดีต่อการกดมือเดียวอยู่นะ

พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกันบ้าง Xiaomi 14 จะมาพร้อมฝาหลังกระจกโค้ง ที่เข้ากับรูปมือได้ดี ซึ่งเราชอบการผสานกันระหว่างจอแบนกับฝาหลังโค้งแบบนี้มาก เพราะไม่ทำให้เครื่องดูเหลี่ยมจนเกินไป แถมยังช่วยให้เราหยิบถือได้เต็มมือกว่าด้วย

ที่กล้องหลังยังวางอยู่มุมซ้ายบนคล้ายกับรุ่นก่อน แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีลวดลายที่เพิ่มความหรูหราอยู่ตรงฐานกล้องด้วยครับ ส่วนกล้องหลังก็ได้มา 3 ตัววางเรียงกันในกรอบเลนส์สี่เหลี่ยม และที่ขาดไม่ได้เลยคือคำว่า Leica พร้อมข้อมูลสเปคกล้องที่เดี๋ยวเรามาดูกันอย่างละเอียดอีกทีเนาะ

ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C ไมโครโฟนกับลำโพงและช่องใส่ซิมอยู่ด้วยครับ

สำหรับสีสันของ Xiaomi 14 ที่จะนำเข้ามาขายในบ้านเราจะมีด้วยกัน 3 สีคือ สีขาว, สีดำ และสีไฮไลท์อย่างเขียว Jade Green นั่นเองครับ เป็น 3 โทนที่ลงตัวกันคนละแบบ และผิวสัมผัสที่แตกต่างกันด้วยครับ

คือสีขาวกับสีเขียวจะเป็นผิวมันวาวหรูหรา แต่ก็แอบเก็บคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายเหมือนกัน แต่ในสีดำจะเป็นกระจกด้านที่มีพื้นผิวแบบผิวทรายแทรกเข้าไปด้วย ได้อารมณ์ที่แตกต่างกันอยู่ครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Xiaomi 14 ก็ยังทำให้เราประทับใจได้เหมือนเดิม ด้วยขนาดที่พกพาได้ง่าย แต่ก็ยังได้ขนาดหน้าจอที่เต็มตาและฟิลลิ่งการถือใช้งานที่พรีเมี่ยมไม่แพ้เรือธงรุ่นไหน ๆ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความจัดเต็มในขนาดที่กะทัดรัดจริง ๆ

กล้อง Xiaomi 14

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่สเปคหรืองานประกอบเท่านั้นที่ทำให้ Xiaomi 14 อยู่ในระดับเรือธงเครื่องเล็กที่น่าจับตามองที่สุด เพราะเรื่องกล้องก็จัดเต็มที่สุดในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยกล้องหลัง 50MP ทั้งหมด 3 ตัวดังนี้

• 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ Light Fusion 900) f/1.6
• 50MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
• 50MP กล้อง Tele 3.2x f/2.0

บนรุ่นนี้ก็ยังได้การพัฒนากล้องร่วมกับ Leica เหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่าฮาร์ดแวร์นั้นขั้นเทพการันตีด้วยเลนส์ Leica SUMMILUX ที่มีค่ารูรับแสงกว้าง แถมรอบนี้ยังได้เซ็นเซอร์กล้องหลักใหม่เป็น Light Fusion 900 ขนาด 1/1.31″ ที่เคลมว่าจัดการ Dynamic Range ได้กว้างขึ้นและจัดการ Noise ได้ดีกว่าเดิมมาก!

หรือจะเป็นโหมด Portrait บน Xiaomi 14 ก็ยังมีรูปแบบเลนส์จาก Leica มาให้เราเลือกเปิดใช้งานใน 4 ระยะเหมือนเดิมคือ 35มม./50มม./75มม./90มม.พร้อมฟิลเตอร์จาก Leica ที่มีให้เลือกปรับ อยากได้โทนสีสดก็ปรับเป็น Leica Vivid หรือโทนขาว-ดำก็มี Leica BW มาให้ใช้ด้วย

ซึ่งภาพที่ได้ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมตามสไตล์ Leica เลย ทั้งโทนของภาพที่ทำออกมาได้ประทับใจ เซ็นเซอร์กล้องหลักใหม่ที่ถ่ายภาพได้รวดเร็ว เก็บแสงได้เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีกล้อง Tele 3.2x เข้ามาเสริมการถ่ายภาพระยะไกลได้เป็นอย่างดี จะซูมในระดับ 5x – 10x ก็ถือว่าโอเคเลยด้วยครับ

สเปค Xiaomi 14

ปิดท้ายที่เรื่องสเปค Xiaomi 14 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) ตัวล่าสุด แน่นอนว่าประสิทธิภาพไม่เป็นรองใครในตอนนี้ ความจุรุ่นที่ขายในไทยจะมีให้เลือกสูงสุดที่ 12GB + 512GB กันเลยครับ

ส่วนแบตเตอรี่ก็ได้มาเยอะ 4610mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 90W แบบสายและไร้สายถึง 50W ระบบปฏิบัติการจะใช้เป็น HyperOS ตัวล่าสุดจาก Xiaomi เลย ซึ่งเท่าที่ลองเบื้องต้นก็ถือว่าลื่นไหลดี แต่ยังไม่เห็นถึงความแตกต่างมากกว่าตอน MIUI เท่าไหร่

สรุปสเปค Xiaomi 14

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.36″
• ความละเอียดหน้าจอ : 2670 x 1200 พิกเซล, ความสว่างสูงสุด 3000nits
• Refresh rate : 1-120Hz (LTPO)
• ชิปเซ็ต : Snapdragon 8 Gen 3 Octa-Core (4nm)
• RAM : 12GB (LPDDR5X)
• ความจุ : 256GB/512GB (UFS 4.0)
• แบตเตอรี่ : 4610mAh
• ระบบชาร์จไว : 90W HyperCharge (แบบสาย) | 50W HyperCharge (ไร้สาย)
• กล้องหน้า : 32MP f/2.0
• กล้องหลัง : 3 ตัว LEICA VARIO-SUMMILUX
  • 50MP กล้องหลัก (Light Fusion 900) f/1.6
  • 50MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
  • 50MP กล้อง Tele 3.2x f/2.0
• มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 (HyperOS)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวแรกสัมผัสของ Xiaomi 14 เท่านั้น แต่ก็พอจะได้เห็นภาพกว้าง ๆ ของประสิทธิภาพกล้อง รวมถึงดีไซน์ที่น่าสนใจไม่มากก็น้อยแล้วใช่ไหมล่ะครับ ความรู้สึกแรกของเราต้องบอกเลยว่าถูกใจมาก เพราะทั้งฮาร์ดแวร์กล้องกับซอฟต์แวร์ที่อัปเกรดขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ ถ่ายออกมาในโทน Leica ได้จริง แถมยังได้ขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดแบบที่ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ ในกลุ่มเรือธงอีกด้วย แต่แน่นอนว่าในการใช้งานด้านอื่น ทั้งซอฟต์แวร์ ประสิทธิภาพ หรือแบตเตอรี่ยังคงต้องทดสอบลงลึกกว่านี้อีก ก่อนจะเป็นรีวิวฉบับเต็มได้

สำหรับ Xiaomi 14 Series นั้นเตรียมเปิดตัวทางการในบ้านเราวันที่ 13 มีนาคมนี้แล้ว ราคาและรายละเอียดเต็ม ๆ รอติดตามได้ในวันนั้นเลยเนาะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน พบกันใหม่ในรีวิวฉบับเต็มครับ!