วันทรัพย์สินทางปัญญาโลก: OPPO ยังคงรักษาอันดับ IP จากทั่วโลก ไว้ที่ 10 อันดับแรกติดต่อกันเป็นปีที่ 5

• ใน “OPPO Innovation and Intellectual Property White Paper” OPPO ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อนวัตกรรมและกลยุทธ์ทรัพย์สินทางปัญญาด้านการป้องกันเชิงรุก
• OPPO ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในนวัตกรรม AI และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและทำให้สมาร์ตโฟน AI เป็นที่นิยม

29 เมษายน 2567 กรุงเทพฯ – OPPO บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัว “OPPO Innovation and Intellectual Property White Paper” ในวันทรัพย์สินทางปัญญาโลก (IP) ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา จากข้อมูลขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) OPPO อยู่ในอันดับที่ 9 ของโลกในสิทธิบัตรที่ยื่นภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT) ในปี 2023 นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันในสิบอันดับแรกของโลก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024 OPPO ได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรมากกว่า 101,000 รายการทั่วโลก โดยมีสิทธิบัตรที่ได้รับอนุมัติแล้วมากกว่า 55,000 รายการ และ 91% ของการยื่นขอรับสิทธิบัตรทั้งหมดเป็นสิทธิบัตรด้านอรรถประโยชน์

“ที่ OPPO เราเชื่อว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นพื้นฐานของความสำเร็จของบริษัททั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต” Feng Ying, Chief Intellectual Property Officer of OPPO กล่าว “ด้วยกลยุทธ์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาด้านการป้องกันเชิงรุกและความมุ่งมั่นในการส่งเสริมระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญาในระยะยาว เรามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนอนาคตของนวัตกรรมตามที่กำหนดไว้ใน ‘OPPO Innovation and Intellectual Property White Paper'”

ความมุ่งมั่นของ OPPO ในการพัฒนาและเผยแพร่สมาร์ตโฟน AI

ด้วยการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางในด้านต่าง ๆ เช่น การประมวลผลภาพ คอมพิวเตอร์วิทัศน์ เทคโนโลยีคำพูด การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และการเรียนรู้ของเครื่อง OPPO กำลังบุกเบิกการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการใช้งานที่แพร่หลายในผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนของตน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024 OPPO ได้ยื่นจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ AI จำนวน 5,399 ฉบับทั่วโลก รวมถึงสิทธิบัตรด้านอรรถประโยชน์ 3,796 ฉบับในการสร้างภาพ AI จาก “Artificial Intelligence Patent Ranking” ที่เผยแพร่โดยสื่อทรัพย์สินทางปัญญา IPRdaily เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2024 OPPO อยู่ในอันดับที่ 9 ในประเทศจีน โดยได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งหมด 3,743 ฉบับ

ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามในการยกระดับประสบการณ์ชีวิตอัจฉริยะให้กับผู้ใช้ OPPO มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมทางเทคนิคล่าสุดให้เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริงและเน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI กว่าร้อยรายการใน OPPO Find X7 Series ล่าสุด ในขณะที่แผนในอนาคตเกี่ยวข้องกับการรวมฟีเจอร์ generative AI เช่น AI Eraser และ AI Magic Studio เข้ากับผลิตภัณฑ์ OPPO อื่น ๆ มากขึ้น

เทคโนโลยีหลักขั้นสูงผ่านนวัตกรรมแบบเปิด

ความมุ่งมั่นของ OPPO ในการสร้างนวัตกรรมแบบเปิดกำลังขับเคลื่อนความพยายามของบริษัทในการสร้างระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาโดยอิงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญในด้านที่มีมูลค่าสูง เช่น 5G/6G AI การชาร์จไว และการถ่ายภาพ

จนถึงปัจจุบัน OPPO ได้ปรับใช้สิทธิบัตรมาตรฐาน 5G ที่จำเป็นในกว่า 40 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรทั่วโลกมากกว่า 6,100 ตระกูล ประกาศสิทธิบัตรมาตรฐาน 5G มากกว่า 3,300 ตระกูลต่อสถาบันมาตรฐานโทรคมนาคมแห่งยุโรป (ETSI) และส่งข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน 5G มากกว่า 11,000 ฉบับไปยังโครงการความร่วมมือรุ่นที่ 3 (3GPP) ในด้านอื่นๆ OPPO ได้ยื่นขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพทั่วโลกมากกว่า 12,306 ฉบับ และได้อนุญาตเทคโนโลยีการชาร์จไว VOOC ให้กับบริษัทมากกว่า 50 แห่ง ทำให้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็วมากขึ้น

กลยุทธ์การป้องกันทรัพย์สินทางปัญญาเชิงรุกเพื่อการพัฒนาระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาที่ยั่งยืน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OPPO ได้ลงนามในข้อตกลงใบอนุญาตหรือใบอนุญาตข้ามกับเจ้าของสิทธิบัตรหลายสิบรายทั่วโลก แก้ไขปัญหาการออกใบอนุญาตทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมากผ่านการเจรจาและใบอนุญาตข้ามที่สะท้อนถึงคุณค่าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาจากทุกฝ่าย โดยขั้นตอนเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อที่กว้างขวางของบริษัทในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่สมเหตุสมผล และหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีด้านสิทธิบัตรที่บีบบังคับ ขณะเดียวกันก็ปกป้องสิทธิ์ตามกฎหมายและผลประโยชน์ตามกฎหมายตามความเหมาะสม

ด้วยพันธกิจ “Technology for Mankind, Kindness for the World” OPPO จะยังคงลงทุนในนวัตกรรมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำของอุตสาหกรรมมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาระดับโลกผ่านการปฏิบัติจริง