รีวิวกล้อง OPPO Find X7 Ultra อีกหนึ่งเรือธงกล้องเทพที่ขนเทคโนโลยีดีที่สุดมาให้ในปีนี้!

OPPO จัดงาน OPPO Cultural Imaging Tour ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งงานนี้ทีมงาน iphone-droid.net ก็ได้รับเกียรติไปร่วมงานนี้ด้วย โดยในงานจะมี Workshop เกี่ยวกับเทคโนโลยีกล้องของ OPPO Find X7 Ultra เรือธงรุ่นปัจจุบัน และแน่นอนว่าเราก็มีโอกาสได้ทดลองใช้กล้องกันแบบจัดเต็มตลอดทั้งทริป ไหน ๆ ก็ได้ลองมาขนาดนั้นก็ไม่พลาดเก็บภาพถ่ายตัวอย่างพร้อมประสบการณ์การใช้งานมาฝากกันเช่นเคย จะสวยงามแค่ไหน ติดตามได้ในบทความนี้เลย!

แต่ก่อนจะไปรับชมกันต้องบอกก่อนว่า OPPO Find X7 Ultra นั้นยังไม่มีแผนวางจำหน่ายในไทย (หรือประเทศอื่นนอกจีน) เครื่องที่ได้มาทดสอบนี้เป็นจาก HQ ประเทศจีน เพื่อให้ได้ทดลองเทคโนโลยีกล้องที่ OPPO พัฒนาขึ่นมาเท่านั้น ต้องขอบคุณ OPPO ประเทศไทยที่จัดทริปนี้ขึ้นมาด้วยครับ

สเปคกล้อง OPPO Find X7 Ultra

มามะ…เข้าเรื่องของเราได้แล้ว เริ่มที่เช็กสเปคกล้องของ OPPO Find X7 Ultra กันก่อนเลย ปีนี้ OPPO อัปเกรดกล้องหลังชุดใหม่หมด เป็นเรือธง 4 กล้องหลัง พร้อมตำแหน่ง เรือธงรุ่นแรกที่มีกล้อง Periscope ถึง 2 ตัวอีกด้วย สเปคก็ตามนี้เลยครับ

• 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ LYT-900 ขนาด 1″) f/1.8, PDAF, Laser AF, OIS
• 50MP กล้อง Ultra Wide (เซ็นเซอร์ LYT-600 ขนาด 1/1.95″) f/2.0 มุมกว้าง 123⁰
• 50MP กล้อง Periscope 3x (เซ็นเซอร์ IMX890 ขนาด 1/1.56″) f/2.6, PDAF, OIS
• 50MP กล้อง Periscope 6x (เซ็นเซอร์ IMX858 ขนาด 1/2.51″) f/4.3, PDAF, OIS

ก็อย่างที่เห็น สเปคกล้องแต่ละตัวคือให้มาสุดสมกับเป็นเรือธงที่เน้นกล้องมาก ๆ ทั้ง 4 ตัวมีความละเอียด 50MP เหมือนกันหมด ได้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ และรอบนี้มีการเพิ่มกล้อง Periscope 6x เข้ามาอีกตัวเพื่อเสริมความต่อเนื่องในระยะตั้งแต่ Ultra Wide จนถึงซูมไกลมาก ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อยิ่งขึ้นด้วย!

พัฒนาร่วมกับ Hasselblad เหมือนเดิม เอกลักษณ์กล้องใหญ่มาเต็ม

อย่างที่ทราบว่า OPPO นั้นเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์กล้องระดับโลก Hasselblad มาตั้งแต่ Find X5 Pro บนรุ่นนี้ก็ยังต่อยอดในเรื่องซอฟต์แวร์ให้เข้าที่เข้าทางไปอีก ทั้งลายน้ำแบบ Exclusive การจูนสี รายละเอียดของภาพ เสียงชัตเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ โหมด XPAN หรือโหมดใหม่อย่าง Master mode ที่ทำให้เราได้อารมณ์ของ Haselblad ขึ้นไปอีก

โดยโทนภาพของ Master mode ในรอบนี้ก็จะเน้นความคมเข้มที่ OPPO บอกว่าดึงเอกลักษณ์มาจากกล้อง Hasselblad X1D มีตัวเลือกให้เลือกปรับทั้งความสดของภาพ, คอนทราสต์, ความคมชัด และขอบดำ ซึ่งในค่าเริ่มต้นจะตรงกับโทนของ X1D อย่างที่บอกไป ทำให้เมื่อเราถ่ายด้วยโหมดนี้ ภาพจะออกมาเหมือนกล้องตัวละหลาย ๆ แสนได้เลย เพราะทั้งซอฟต์แวร์ที่จูนมาดีบวกกับฮาร์ดแวร์ระดับสูงสุดแล้วด้วย

Portrait mode ที่ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ Hasselblad XCD

แน่นอนว่าโหมดถ่ายบุคคลหรือ Portrait นั้นถือเป็นอีกจุดเด่นของสมาร์ทโฟน OPPO ในยุคหลัง การที่ Find X7 Ultra มีสเปคกล้อง 4 ตัวเทพ ๆ แบบนี้ก็เหมาะกับการถ่ายภาพคนในหลายระยะมากขึ้นไปอีก แต่แค่ระยะภาพมาอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะ Hasselblad ยังจำลองตัวเลนส์ XCD 4 ตัวมาเข้ากับระยะของภาพด้วยดังนี้

• เลนส์ XCD 3.5/30 ในระยะภาพ 1x
• เลนส์ XCD 2.8/65 ในระยะภาพ 2x
• เลนส์ XCD 1.9/80 ในระยะภาพ 3x
• เลนส์ XCD 2.8/135 ในระยะภาพ 6x

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ชวนทึ่งไม่น้อยครับ เพราะโทนภาพที่ได้นั้นสวยเนียนเป็นธรรมชาติ ได้กลิ่นอายของกล้องโปรตัวละหลายหมื่นมาก ๆ ทั้งการละลายฉากหลังที่ลึก-ตื้นไล่ระดับสมจริง ตัดขอบเนียน (แม้จะถูกปรับเบลอด้วยซอฟต์แวร์ก็ตาม) มีระยะที่ครบตั้งแต่กว้างไปยันเจาะใกล้สุด ๆ แถมแต่ละช่วงยังทำได้ดีใกล้เคียงกันหมด จนเผลอคิดว่านี่ใช้กล้องใหญ่เปลี่ยนเลนส์เอารึเปล่าเลยด้วย สมแล้วที่คุยว่าเหมือนยกเลนส์ Hasselblad XCD มาใส่ไว้จริง ๆ

HyperTone Image Engine ระบบกล้องที่ปรับจูนมาให้ทำงานร่วมกับ AI โดยเฉพาะ

เรื่องการประมวลผลกล้องร่วมกับ AI ทาง OPPO ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทั้ง AI Scene Recognition, AI Portrait Retouching หรืออีกเพียบ มารอบนี้ OPPO เลยพัฒนาเป็นเอนจิ้นใหม่ชื่อ HyperTone ซะเลย ในนี้จะรวมการประมวลผลตั้งแต่ AI Turbo RAW, AI Denoise, AI TMC, AI SuperRes Zoom, Instant Dual Exposure รวมถึงอัลกอริธึม Natural Color เข้าไปทั้งหมด ซึ่งแปลง่าย ๆ คือ AI จะมีส่วนร่วมในการประมวลผลให้ภาพสวยในทุกสภาพแสงและสถานการณ์นั่นเองครับ

แน่นอนว่าอัดแน่นเทคโนโลยีมาขนาดนี้ ภาพที่ได้ก็สวยคมชัดและจัดการทุกอย่างได้อยู่หมัดจริง ๆ ครับ ทั้งโทนภาพที่ยังมีความเป็นธรรมชาติ แต่ก็ได้การปรับจูนให้สีสวยขึ้นตามสถานการณ์นั้น ๆ มิติของภาพที่ลงตัวอยู่แล้วด้วยขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่เพียงพอที่จะละลายหลังได้เลยแม้ไม่ใช้โหมด Portrait เราแทบไม่ต้องใช้ความสามารถในการตั้งค่าเลย แค่เล็งมุมที่ถูกใจ กดชัตเตอร์ฟังเสียงนุ่ม ๆ แบบ Hasselblad และกดเช็กภาพก็ถูกใจได้ง่าย ๆ แถมที่เราชอบอีกอย่างก็คือการประมวลผลภาพหลังถ่ายก็เร็วมาก ๆ ถ่ายปั๊บกดดูก็รอไม่เกิน 1 วินาที ภาพปรับเสร็จเรียบร้อย!

กล้อง Periscope คู่ครั้งแรกของวงการ!

อย่างที่บอกไปว่า OPPO Find X7 Ultra นั้นเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกล้อง Periscope ถึง 2 ตัว ทำให้ทุกการซูมนั้นเข้าที่ คมชัด และแม่นยำมากขึ้น เพราะปัจจุบันเรือธงส่วนใหญ่จะได้กล้องหลังมาแค่ 3 ตัว ส่วนระยะก็จะเป็น Ultra Wide + Main + Tele ซึ่งตัว Tele ก็มีทั้ง 3x บ้าง 4.3x บ้าง หรือ 5x บ้าง แน่นอนว่ารูปแบบนี้จะยังมีช่องว่างระหว่างระยะ 1x ไป 5x ถ้าอยากซูมสัก 3x หรือ 4x ภาพก็จะสุดทางของกล้องหลักทำให้ภาพไม่ชัด หรือถ้าจะซูมจากระยะ 3x ไปไกลระดับ 10x ภาพก็จะมีช่องว่างมากเกินไป ทำให้ไม่ชัดเช่นกัน

เพราะฉะนั้น OPPO จึงอุดช่องว่างทั้งหลายด้วยกล้อง Periscope คู่ไปเลย คือจะซูมระยะ 2x ก็กล้องหลักเอาอยู่สบาย เขยิบไปหน่อยเป็น 3x – 5x ก็มีกล้อง Periscope ตัวแรกที่เซ็นเซอร์ใหญ่เพียงพอให้ In-Sensor Zoom ได้สบาย หรือถ้าอยากไปไกลระดับ 10x – 20x ตัวกล้อง Periscope ตัวที่สองก็ยังไฮบริดร่วมกับตัวอื่น ๆ เสริมเข้าไปได้อีก ทำให้ทุกระยะที่อยากถ่ายจะยังคมชัดสุด ๆ ดั่งตัวอย่างด้านล่างนี้เลย

และไม่เพียงแค่ระยะที่ไปถึงเท่านั้น แต่การเก็บแสงก็ทำได้ครบถ้วน สวยงาม แม้จะอยู่ในสภาพแสงน้อยก็เอาอยู่ การละลายหลังที่สวยงามเป็นธรรมชาติจากเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และรูรับแสงที่กว้างมาก ๆ อีกด้วย ใครเป็นสายซูม เข้าใกล้เราว่านี่คืออีกรุ่นที่ซูมได้ครบสุด ๆ

XPAN mode ภาพมุมกว้าง เก็บภาพได้แปลกใหม่

XPAN mode หรือโหมดเก็บภาพมุมกว้างในอัตราส่วนแบบ 65:24 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกล้อง Hasselblad XPAN ยังคงมีติดมาให้เหมือนเดิม ยังมีให้เลือกใช้ระหว่างภาพสีและขาว-ดำ ให้ฟิลเหมือนกล้องฟิล์มตอนถ่าย พอใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์เทพ ๆ ถึง 4 ตัวก็ยิ่งติดปีกเข้าไปอีกเลยล่ะครับ

สรุปแล้วกล้องของ OPPO Find X7 Ultra ก็ถือว่าให้มาครบและขนเทคโนโลยีขั้นสุดเท่าจะหาได้ในปีนี้มาให้อย่างครบถ้วน ทั้งกล้อง Periscope คู่ที่แก้ปัญหาเรื่องระยะได้อย่างหมดจด ซอฟต์แวร์ที่เก่งพอจะประมวลผลงานยาก ๆ เพิ่มความคมชัดและสมบูรณ์ให้ภาพถ่ายได้อย่างไร้ที่ติ หรือจะเป็นการต่อยอดในเรื่อง Portrait ให้สมจริงได้กว่าที่เคย ทั้งหมดนี้ทำให้เราประทับใจมาก ๆ ไม่แปลกใจที่ครั้งหนึ่งรุ่นนี้เคยเป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องดีที่สุดของตาราง DXOMARK มาแล้ว!

ยังมีสเปคเด่นอีกเพียบ

นอกจากเรื่องกล้องที่เด่นอย่างชัดเจนแล้ว จุดเด่นอื่น ๆ ของ OPPO Find X7 Ultra ก็ไม่น้อยหน้าเรือธงรุ่นไหนในตลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอความละเอียดสูง 2K+ ที่มีความสว่างสูงสุดถึง 4500nits, ชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 3, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 100W อีกด้วย!

หรือจะเป็นเรื่องดีไซน์ก็ไม่ธรรมดา ด้วยสีไฮไลท์น้ำเงิน Ocean Blue ที่ผสานวัสดุกระจกสีขาวเข้ากับหนังวีแกนสีน้ำเงินได้อย่างลงตัว และโมดูลกล้องวงกลมขนาดใหญ่อย่างที่เราได้เห็นกันไปแล้วนั่นเอง

สรุปหลังลองจับ OPPO Find X7 Ultra

สรุปหลังลองจับ OPPO Find X7 Ultra ไปใช้ถ่ายรูปแบบจริงจังในทริป OPPO Cultural Imaging Tour ที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ต้องบอกว่า “ทำถึงมาก” เพราะประสิทธิภาพกล้องที่ให้มานั้นสมกับที่ชูจุดเด่นมาอย่างครบถ้วน ข้อมูลที่นำเสนอถูกถ่ายทอดมาถึงการใช้งานจริงทั้งหมด ดีไซน์ก็สวยและสัมผัสได้ถึงความประณีต เป็นความลงตัวจนต้องเสียดายมาก ๆ ที่รุ่นนี้ไม่ทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ ๆ…รุ่นถัดไปอย่าง OPPO Find X8 Series ก็มีลุ้นว่าจะเปิดตัวในตลาดโลกอีกครั้งด้วย ถึงตอนนั้นเราคงได้รีวิวให้เห็นประสิทธิภาพและเชิญชวนให้เลือกซื้อกันมากกว่านี้แน่นอนครับ!