Apple News
รีวิว iPhone 5s มาพร้อมปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือ ชิปประมวลผล Apple A7 แบบ 64-bit เร็วแรงกว่าเดิม
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่าน iPhone 5s ได้เริ่มวางจำหน่ายวันแรกใน 9 ประเทศ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ต A7 แบบ 64-bit และมาพร้อมเทคโนโลยีระบบสแกนลายนิ้วมือ
ในส่วนของหน้าจอ iPhone 5s ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ยังคงมีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว Retina Display ความละเอียด 1,136 x 640 พิกเซล (326 ppi)
iPhone 5s มาพร้อมหูฟัง Apple EarPods เช่นเดียวกับ iPhone 5 หูฟังรุ่นนี้มาจากที่แต่ละคนสวมหูฟังแบบ Earbud ได้สบายไม่เท่ากัน ดังนั้นนักออกแบบและวิศวกรของ Apple จึงทำการทดสอบต้นแบบกับคนจริงๆ หลายร้อยคน เพื่อให้ได้ Earbud ที่กระชับ สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับหูที่หลากหลาย และให้เสียงดี ผลลัพธ์ที่ได้คือ Apple EarPods และสาย Lightning
iPhone 5s ตัวเครื่องอลูมิเนียม มีขนาดตัวเครื่อง 123.8 x 58.6 x 7.6 มม. น้ำหนัก 112 กรัม
ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ตรงกลางจะเป็นพอร์ต Lightning และมีลำโพงคู่ ตัวเครื่องมีความจุ 16 GB, 32 GB และ 64 GB รองรับ 4G LTE, Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi (802.11 a/b/g/n)
iPhone 5s มาพร้อมตัวเครื่อง 3 สี ได้แก่ สีดำเทา (Black/Slate), ขาวเงิน (White/Silver) และสีทอง (Gold)
มาถึงส่วนที่ฮือฮากันทั้งโลก นั่นคือ ปุ่มโฮมที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ (Touch ID) ทำจากคริสตัลแซฟไฟร์และสแตนเลส สำหรับใช้งานการปลดล็อกหน้าจอ ซื้อสินค้าและบริการจาก iTunes Store ข้อมูลลายนิ้วมือจะไม่สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้ นอกจากซอฟต์แวร์ของ Apple เท่านั้น
iPhone 5s มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดของจุดพิกเซล 1.5 ไมโครเมตร เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 15% ค่ารูรับแสง ƒ/2.2 มีแฟลช dual-LED (True Tone) ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และทำให้ถ่ายภาพออกมาเป็นธรรมชาติ
กล้องหลังมีระบบโฟกัสภาพมากถึง 15 จุด พร้อมโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง (burst mode) 10 ภาพต่อวินาที และสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 1080p
ภาพเปรียบเทียบ iOS 6 บน iPhone 5, ตรงกลางเป็น iPhone 5C และขวาสุดเป็น iPhone 5S ที่มาพร้อม iOS 7
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AirDrop สามารถแบ่งปันไฟล์ ภาพถ่าย วิดีโอ และรายชื่อติดต่อ ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth นอกจากนี้ยังแจกฟรีชุด iWork อีกด้วย
ฟีเจอร์ใหม่บน iOS 7 เกี่ยวกับการแจ้งเตือน เพียงลากแถบสถานะด้านบนลงมาเพื่อการแจ้งเตือนทั้งหมดในขณะนั้น จะมีช่อง all และ miss ต่างกันยังไง ช่อง all จะแสดงทุก ๆ การแจ้งเตือนทั้งในขณะนี้ที่ใช้งานตัวเครื่องอยู่ และขณะที่ล็อคหน้าจอไปแล้ว และช่อง miss จะแสดงผลก็ต่อเมื่อมีการหน้าจอขณะที่หน้าจอล็อคไปแล้วเท่านั้นครับ
Control Center เปิดใช้งานที่ Settings > Control Center หลังจากที่เปิดแล้ว ปัดจากด้านล่างจอขึ้นมา สามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของตัวเครื่องโดยประกอบไปด้วย
เปิด / ปิด Airplane Mode , เปิด / ปิด wifi , เปิด / ปิด bluetooth , เปิด / ปิด Dotnot Distrub , ล็อคการหมุนของหน้าจอ , เพิ่มลดแสงหน้าจอ , แสดงระยะเวลาขณะเล่นเพลง , เพิ่ม / ลด เสียงขณะเล่นเพลง , ใช้งาน AirDrop , ใช้งานไฟฉาย , เปิดเมนูนาฬิกา , เปิดเครื่องคิดเลข , เปิดใช้งานกล้อง
Siri มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ สามารถใช้คำสั่งเสียงเปิดเว็บเพื่อค้นหาได้
ภาพเปรียบเทียบ iPhone 5 (ซ้าย) กับ iPhone 5s (ขวา) โดย iPhone 5s มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง (ถอดเปลี่ยนไม่ได้) ความจุ 1,560 mAh ชาร์จไฟจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออะแดปเตอร์ผ่านสาย USB รองรับเวลาสนทนาสูงสุด 8 ชั่วโมง เมื่อเชื่อมต่อ 3G หรือเวลาสแตนด์บายสูงสุด 225 ชั่วโมง และการใช้อินเทอร์เน็ตนานถึง 8 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G และนานถึง 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi
สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง และเล่นเสียงเพลงนานสูงสุด 40 ชั่วโมง
iPhone 5s มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A7 ตัวใหม่แบบ 64-bit และเป็นครั้งแรกที่มีการนำมาใช้บนสมาร์ทโฟน การทำงานของ CPU เร็วขึ้น 40 เท่า และการทำงานของ GPU แรงขึ้น 56 เท่า ยังไม่หมดแค่นั้นมีการเพิ่มหน่วยประมวลผลร่วม M7 ที่จะเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวและทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นประเภทนี้ด้วย อีกทั้งยังมี OpenGL|ES 3.0
ภาพเปรีบเทียบ HTC One, Samsung Galaxy S4, Motorola Moto X และ iPhone 5s จากซ้ายไปขวา ซึ่งเป็นรุ่นที่วางขายในสหรัฐอเมริกาครับ
จุดเด่น : iPhone 5S มาพร้อมกล้องที่ดีขึ้น, เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ และหน่วยประมวลผล Apple A7 แบบ 64-bit รุ่นใหม่ พร้อมชิปประมวลผลการเคลื่อนไหว M7 นอกจากนี้ยังแจกฟรีชุด iWork
จุดสังเกต : การออกแบบภายนอกเหมือน iPhone 5 ไม่ว่าจะขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว และยังไม่ค่อยมีแอปพลิเคชันที่รองรับมากนักในขณะนี้
ที่มา : CNET