ผู้ใช้งาน iPhone 16 Series และ iPhone รุ่นเก่าบน iOS 18 บางรายเจอปัญหาแบตไหลหรือแบตลดเร็วแม้ไม่ได้ใช้งานอยู่

ดูเหมือนว่าปัญหาของ iOS 18 กับผู้ใช้งาน iPhone 16 Series บางรายจะเกิดขึ้นมาเล็กๆ น้อยๆ มาตลอด ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของปัญหานี้คือแบตเตอรี่ที่เหมือนว่าจะหมดเยอะกว่าปกติและผิดปกติมากๆ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานอยู่ก็ตามครับ โดยผู้ที่เจอปัญหาได้โพสต์ลงบน Reddit, Apple Support Communities และฟอรั่มของ MacRumors

จริงๆ แล้วปัญหาเรื่องกินแบตเตอรี่บน iOS 18 นั้นมีอยู่เรื่อยๆ โดย T1aaj หนึ่งในผู้ที่เจอปัญหาได้โพสต์บน MacRumors ไว้ว่า “ใช่แล้ว ฉันมี 16 Pro และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลดลงเหลือเกือบ 60% จาก 100% ในช่วงครึ่งวัน แม้จะไม่ได้ใช้งานหนักเลยก็ตาม มันต้องได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน ฉันควรจะเก็บ 15 Pro ไว้!”

ขณะที่บัญชี JulianL ได้โฑสต์ยาวเหยียดไว้ว่า “อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของฉันแย่มากกับรุ่น 16 Pro Max ฉันอัปเกรดจาก 15 Pro Max เป็น iOS 18 และสุขภาพแบตเตอรี่อยู่ที่ 99% เมื่อฉันขายมันไป เมื่อ Apple เสนออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่าสำหรับรุ่น 16 จึงเกิดความตื่นเต้นที่จะดูว่าจะใช้งานได้นานขึ้นแค่ไหน คำตอบคือ ตอนนี้ฉันมีเวลา 50% – 60% ระหว่างการชาร์จเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันได้ 15 Pro Max เครื่องเก่าของฉัน มันน่าผิดหวังจริงๆ การตั้งค่าทั้งหมดเหมือนกัน รวมถึงการรีเฟรชพื้นหลังที่ปิดใช้งานทั้งหมด การรีเฟรชหน้าจอสูงสุดตั้งไว้ที่ 60Hz ด้วย และการล็อกข้อมูลไว้ที่ 4G (เพราะสำหรับการใช้งานไม่เห็นความแตกต่างเลยในการทำงานของสมาร์ทโฟนเมื่อตั้งค่าการตั้งค่าทั้งหมดเหล่านี้ ดังนั้นฉันจึงควรตั้งค่าให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่เหมาะสมที่สุด) ฉันได้รับ 16PM ในวันเปิดตัว ดังนั้นตอนนี้มันมีอายุ 19 วันแล้ว”

ทั้งนี้ ก็ยังมีผู้ใช้งานบางรายที่เจอปัญหาแบตไหลแม้ยังไม่ได้ใช้งานด้วย ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นมาจากกิจกรรมเบื้องหลังอาจทำให้เกิดปัญหากับผู้ใช้บางราย ซึ่งผู้ใช้งานชื่อ huanbrother บอกไว้ว่า “16 Pro มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่แย่มากในโหมดสแตนด์บายเมื่ออยู่ในโหมดสลีป (ไม่ได้เชื่อมต่อกับ Apple Watch) และอย่างที่คุณเห็นจากกราฟ มันทำงานเบื้องหลังอย่างบ้าคลั่ง แต่สังเกตอะไรไหม ฉันได้ปิด AOD (แต่ไม่ควรเป็นกรณีนี้เมื่ออยู่ในโหมดสลีปซึ่งปิดอยู่แล้ว) และเปิดการจำกัดเฟรมในการเข้าถึง (ไม่ใช่โหมดพลังงานต่ำ) เพื่อปิด ProMotion การใช้งานต่างๆ ในพื้นหลังก็หายไป! อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานแบตเตอรี่ยังไม่ได้รับการแก้ไข 4 ชั่วโมง 20 นาที ใช้พลังงานไป 11% จาก 70% เหลือแค่ 59% เท่านั้น”

สำหรับปัญหาแบตเตอรี่หมดนั้นวินิจฉัยได้ยากเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งาน iPhone แตกต่างกันมากในแต่ละคนและในแต่ละวัน ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบได้ลองปิด ProMotion ปิดใช้งาน Always On Display ปิดการรีเฟรชแอปพื้นหลัง ลบวิดเจ็ต ปิดเครือข่ายเซลลูลาร์ และรีเซ็ต iPhone ทั้งหมด บางคนเห็นว่าวิธีการเหล่านี้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคน และปัญหาแบตเตอรี่หมดก็ยังคงมีอยู่แม้จะแก้ไขปัญหาแล้วก็ตามครับ

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานบางรายที่อัปเดต iOS 18.0.1 ที่ระบุว่าปรับปรุงการใช้านต่างๆ ของ iPhone ก็ดีขึ้นสำหรับบางคน และก็ยังไม่ได้ดีขึ้นสำหรับบางคนเช่นกันครับ ซึ่งการแก้ไขยังคงต้องทำต่อไปสำหรับ Apple ครับ

ที่มา : MacRumors