กลับมาพบกับ vivo X200 Pro อีกครั้ง ถือว่าเป็นเรือธงอีกรุ่นที่สร้างความว้าวไว้อย่างมากในปีที่ผ่านมา ซึ่งความน่าสนใจของ vivo X200 Pro นอกจากเรื่องกล้องระดับสูงสุด ยังมีขุมพลัง MediaTek Dimensity 9400 ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนการใช้งานส่วนใหญ่อย่างมากอยู่ด้วยนะ ไหน ๆ ก็เกริ่นมาแบบนี้แล้ว ขอเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เราอยากมาแนะนำความเก่งกาจที่ชิปตัวนี้มอบให้เรือธงที่เรียกว่า “เก่งรอบด้าน” นี้ พร้อมแล้ว เริ่มกันเลย!
ขุมพลัง MediaTek Dimensity 9400 ใน vivo X200 Pro
ชื่อของชิป MediaTek Dimensity 9000 Series เราคงได้ยินกันตลอด ช่วงปลายปีที่แล้ว MediaTek เปิดตัว Dimensity 9400 รุ่นล่าสุดออกมาเป็นชิปเซ็ตเรือธงที่ มอบประสิทธิภาพแบบไม่มีใครเทียบได้ ขีดสุดแห่งการประหยัดพลังงาน และการจัดการความร้อนที่ไม่มีใครเหมือน
โดย vivo X200 Pro ก็เป็นรุ่นแรก ๆ ที่ใช้ชิปตัวนี้และวางจำหน่ายในประเทศไทย สามารถทำงานร่วมกับชิป MediaTek Dimensity 9400 ได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ สร้างสรรค์ ประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับเลยล่ะ
สถาปัตยกรรมแบบ All Big-Core CPU
เบื้องหลังความแรงแบบขีดสุดของชิป MediaTek Dimensity 9400 บน vivo X200 Pro นี้ก็มาจากกระบวนการผลิต 3nm รุ่นที่สองของ TSMC และยังใช้สถาปัตยกรรมแบบ All-Big-Core CPU ซึ่งจะใช้ CPU ตัวแรงทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 Cluster ดังนี้เลยครับ
- 1 x Core Cortex-X925 ความเร็วสูงสุด 3.62GHz
- 3 x Core Cortex-X4 ความเร็ว 3.30GHz
- 4 x Core Cortex-A720 ความเร็ว 2.4GHz
ซึ่งการใช้สถาปัตยกรรมแบบนี้ทำให้ชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงนี้ให้ความเร็วในการประมวลผลแบบ Single-core เพิ่มขึ้นถึง 35% และ Multi-core เพิ่มขึ้น 28% ช่วยให้เปิดแอปพลิเคชันได้รวดเร็วและทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่น
มี NPU รุ่นใหม่ เก่ง AI เหมาะกับยุคใหม่มาก ๆ
นอกจากความแรงของ CPU แล้ว ยุคนี้ความราบรื่นในการสั่งงาน AI ก็จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งชิป MediaTek Dimensity 9400 นี้ก็มาพร้อมกับ NPU รุ่นที่ 8 ของ MediaTek เป็นผู้นำด้านฟีเจอร์สำหรับ Generative AI สุดล้ำหลายอย่างที่ใช้งานครั้งแรกในอุตสาหกรรม เป็นชิปเซ็ตมือถือรุ่นแรกที่รองรับการฝึก LORA บนอุปกรณ์ การสร้าง วิดีโอคุณภาพสูงบนอุปกรณ์ และการรองรับเพื่อพัฒนา Agentic AI 1 เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชัน Agentic และ Generative AI ล่าสุด Dimensity 9400 มอบประสิทธิภาพ LLM Prompt ที่เร็วขึ้น 80% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 35% เมื่อเทียบกับ Dimensity 9300 รุ่นก่อนเลยด้วยนะ
ใช้งานจริง เห็นผลทันที
ซึ่งพอชิป MediaTek Dimensity 9400 ที่เร็วแรงแบบนี้มาอยู่กับการจัดการซอฟต์แวร์ที่ดีอย่าง FunTouchOS 15 ของ vivo X200 Pro แล้วก็ทำให้มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลอย่างมากเลยทีเดียว ทั้งอนิเมชั่นที่ตอบสนองได้อย่างลื่นไหล หรือการเข้า-ออกแอปแบบรวดเร็ว
ผลทดสอบล่ะ ที่ว่าแรงจริงนี่ขนาดไหน ?
ถึงแม้จะบอกว่าลื่นไหล เร็ว แรงแค่ไหน ก็อาจจะยังไม่เห็นภาพจริงในบทความ งั้นเราลองทดสอบ ชิป MediaTek Dimensity 9400 บน vivo X200 Pro ผ่านแอป Benchmark ชื่อดัง 2 เจ้าหลัก ๆ AnTuTu Benchmark, Geekbench 6 ให้เห็นตัวเลขสูง ๆ สักหน่อยดีกว่าเนาะ
ซึ่งคะแนนที่ได้ในแต่ละแอปต้องบอกว่า สูง สมคำร่ำลือจริง ๆ ครับ แบ่งเป็น Geekbench 6 ได้ Single-Core 2722 คะแนน และ Multi-Core พุ่งไปถึง 8034 คะแนน ส่วน AnTuTu Benchmark v10 ได้ออกมาที่ 2,518,008 คะแนนกันเลย
ลงสนามจริง ก็ต้องเล่นเกมพิสูจน์ไปเลย!
เหมือนเคยครับ ที่ว่าแรง ก็ต้องลงสนามจริง เราทดสอบกับการเล่นเกมเพื่อวัดทั้งการประมวลผล CPU และกราฟิกจาก GPU ไปด้วยเลย รอบนี้เราทดสอบกับ 3 เกมสุดฮิต PUBG, Call of Duty และ Genshin Impact ไปเลย และผลทดสอบของชิป MediaTek Dimensity 9400 บน vivo X200 Pro ก็ออกมาดังนี้เลยครับ
เล่น PUBG ด้วยชิป MediaTek Dimensity 9400 บน vivo X200 Pro
เริ่มที่ PUBG Mobile ตรงนี้เราสามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้ 2 แบบคือ แบบภาพสวยสุด Ultra HDR + Extreme หรือแบบเฟรมเรตลื่นสุด Smooth + Ultra Extreme ซึ่งในการทดสอบนี้เราเลือกไปที่เฟรมเรตสูงสุด ตัวเกมก็สามารถรันได้ที่ 120fps แบบลื่น ๆ เลยทีเดียว เล่นได้อย่างลื่นไหล ตอบสนองไว สนุกสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ
เล่น Call of Duty Mobile บน vivo X200 Pro
มาต่อกันที่เกมยิง Call of Duty Mobile บน MediaTek Dimensity 9400 สามารถปรับการตั้งค่ากราฟิก + เฟรมเรตได้สูงสุดที่สุดใน 2 ตัวเลือก คือ Very High + Max หรือ Medium + Ultra พร้อมเอฟเฟกต์อื่น ๆ ได้หมด เท่าที่เราเล่นก็เพลิดเพลินไปกับกราฟิกที่สวยงามและเฟรมเรตที่ลื่นไหลเป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเปิดเฟรมเรตเป็น Ultra ก็ทำได้ลื่นระดับ 120fps จริง ๆ ครับ ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลย นี่แหละน้าชิปเรือธงแบบ All Big-Core แรงมาก!
เล่น Genshin Impact บน vivo X200 Pro
ปิดท้ายกับเกมสุดแรงของยุคนี้กับ Genshin Impact ด้วยชิป MediaTek Dimensity 9400 ให้ความเต็มอิ่มด้วยหน้าจอที่เต็มตา ส่วนการตั้งค่าก็ไม่ต้องห่วง สามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้สูงสุด 60fps เราลองเปิดไปที่สูงสุดเลย (แต่ปิด Motion Blur) ก็พบว่าตัวเกมทำได้ลื่นไหลมาก แทบไม่เจอจังหวะที่เฟรมดรอปเลย แม้จะเล่นต่อเนื่องนาน ๆ ก็ตาม
แบตเตอรี่และการจัดการความร้อนที่ยอดเยี่ยม
ด้านแบตเตอรี่อันนี้เป็นอีกจุดที่เราชอบมาก ๆ บน vivo X200 Pro เพราะนอกจากตัวแบตเตอรี่ Silicon-Carbon ความจุเยอะถึง 6000mAh แล้ว การจัดการพลังงานของชิป MediaTek Dimensity 9400 ที่ทำได้ดีมาก ทำให้เราใช้งานจริงได้แบบไม่ต้องกังวลว่าแบตฯจะหมดง่าย ๆ เลยด้วย และถึงแม้จะผ่านการเล่นเกมอย่างหนักหน่วงมาก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่เจออาการร้อนแบบรู้สึกได้ให้เห็นเลย มีแค่อุ่น ๆ ให้ถือใช้งานได้แบบสบายเท่านั้น
กล้องก็ถ่ายภาพได้ถูกใจ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ส่วนเรื่องกล้อง vivo X200 Pro ก็ทำถึงอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่เรารีวิวฉบับเต็มไป หรือพาไปถ่ายคอนเสิร์ตแบบจัดหนัก ซึ่งตรงนี้นอกจากฮาร์ดแวร์กล้องระดับสูงแล้ว ตัวชิป MediaTek Dimensity 9400 นั้นก็ช่วยประมวลผลให้ภาพออกมาสวยถูกใจได้อีกเยอะเช่นกัน
เพราะตัว ISP ของชิป MediaTek Dimensity 9400 ที่ใช้ใน vivo X200 Pro นั้นรองรับ HDR ซูมแบบเต็มช่วง พร้อมการสลับเลนส์ต่าง ๆ ที่ราบรื่นและการโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง ช่วยให้ได้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูงในทุกระยะตั้งแต่มุมกว้างไปจนถึงการซูม
หรือจะเป็นการซูมก็จะได้ทั้ง Generative-AI Super Resolution และ Gen-AI Super Zoom จากชิป MediaTek Dimensity 9400 ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพและความสามารถในการซูมอย่างน่าประทับใจ ช่วยให้การถ่ายภาพบนมือถือล้ำหน้าไปอีกขั้นด้วยเช่นกันนะ!
สายวิดีโอก็ต้องถูกใจเช่นกัน เพราะอย่างที่ทราบว่า vivo X200 Pro นั้นถ่ายวิดีโอได้สูงสุดระดับ 4K/60fps ในทุกกล้อง ด้วยประสิทธิภาพ AI-ISP บน MediaTek Dimensity 9400 นี้ช่วยให้ถ่ายวิดีโอ 4K/60fps ได้นานขึ้น พร้อมทั้งใช้การทำ segmentation ด้วย AI-ISP เพื่อปรับปรุงคุณภาพภาพและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ถ่ายหนักแค่ไหน ก็จัดการพลังงานได้ดีไม่ร้อนมากยังไงล่ะ
ชิป MediaTek Dimensity 9400 และ vivo X200 Pro ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ไร้ที่ติ
หลังจากเราได้ทดสอบขุมพลัง MediaTek Dimensity 9400 บน vivo X200 Pro แบบจริงจัง ก็รู้สึกได้เลยว่านี่คือคู่ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ไร้ที่ติจริง ๆ ครับ ชิปเรือธงแบบ All Big-Core CPU นี้มอบทั้งความเร็วแรงได้ในทุกสถานการณ์ที่เราอยากไปถึง จัดการพลังงานได้อย่างดีจนเราไม่ต้องกังวล หรือจะเป็นความสามารถด้าน AI ที่มีบทบาทกับการใช้งานจริงตั้งแต่การใช้งานทั่วไป จนถึงการถ่ายภาพ เป็นอีกมิติของเรือธงที่ให้มากกว่าแค่แรงจริง ๆ ชิป MediaTek Dimensity 9400 และ vivo X200 Pro สุดยอดมาก!
