IT News
ศธ.ถก ICT เคาะชื่อบริษัทฯผลิต ‘แท็บเล็ต’แจกเด็ก ป.1วันนี้
รมว.ศธ.ประธานประชุมร่วม ICT วันนี้ เตรียมเคาะรายชื่อ บ.เอกชนจีน โครงการผลิตแท็บเล็ตแจกเด็ก ป.1 ก่อนเสนอ ครม.พิจารณา 6 มี.ค.
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นายสุชาติ ธาราดำรงค์เวช รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ โดยยอมรับว่า วันนี้ (5 มี.ค.) ช่วงเวลาประมาณตั้งแต่ 13.00 น. ตนในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายแท็ปเล็ต ป.1พร้อมคณะ จะประชุมร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเลือกชื่อบริษัทเอกชนบริษัทผู้ผลิตแท็บเล็ตของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้เสนอ ที่จะรับการอนุมัติให้ผลิตแท็บเล็ตเพื่อใช้แจกนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 900,000 เครื่อง ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อไทย
เบื้องต้นมีชื่อเสนอเข้ามา 4 บริษัทให้คัดเลือก ได้แก่ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัท ทีซีแอล บริษัท ไฮเออร์ และบริษัท สโคป ก่อน จะนำเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่เป็นผู้พิจารณา คาดว่าจะเลือกบริษัทผู้ผลิตเพียงรายเดียว เพื่อสามารถต่อรองราคาต่อเครื่องให้ต่ำลงได้อีกจากที่กำหนดไว้เบื้องต้น 3,100 บาท หรือไม่เกิน 3,400 บาทต่อเครื่อง หลังจากนั้น จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติวันที่ 6 มี.ค. 2555
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า จะพยายามดำเนินการตามกระบวนการทุกอย่างให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะทันแจกให้กับเด็กนักเรียน ป.1 ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คาดหวัง คือภายในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยอมรับว่า ก็ไม่ทราบว่าจะสามารถดำเนินการทันตามกำหนดหรือไม่ แต่จะพยายามอย่างเต็มที่
นายสุชาติ ย้ำอีกว่า ที่ให้กระทรวงไอซีทีรับผิดชอบการกำหนดสเปก ไปถึงการจัดซื้อแท็บแเล็ตทั้งหมดนั้น เนื่องจากเห็นว่ากระทรวงไอซีที มีความเชี่ยวชาญ และมีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญมากกว่ากระทรวง ศธ.
“ขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสอย่างแน่นอน และความจริงแล้ว ผมก็เป็นผู้เสนอนายกรัฐมนตรีเอง ให้กระทรวงไอซีทีเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วย ซึ่งนายกฯ ก็เห็นชอบตามนั้น ส่วน ศธ.มีหน้าที่กำหนดข้อมูลเนื้อหาวิชาที่จะบรรจุลงในแท็บเล็ตแต่ละเครื่อง ที่จะใช้แจกนักเรียน” รมว.ศธ. กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณี นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที มีแนวคิดเสนอให้บรรจุเนื้อหา 8 สาขาวิชาที่นักเรียนจะต้องใช้เรียนลงไปในแท็บเล็ตแต่ละเครื่อง โดยไม่จำเป็นต้องมีไวไฟ เพราะเห็นว่าข้อมูลที่จะบรรจุก็เหมือนกันอยู่แล้วนั้น นายสุชาติ ระบุว่า อันนั้นเป็นแนวคิดส่วนตัวของนายอนุดิษฐ์ แต่ตนยังเห็นว่า อย่างไรก็ต้องใช้ควบคู่กับระบบไวไฟ เนื่องจากความชอบ หรือความสนใจของนักเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางรายก็ชอบวิชาวิทยาศาสตร์ บางรายก็อาจชอบวิชาคณิตศาสตร์เป็นพิเศษ มีความแตกต่างกันไป เมื่อมีระบบไวไฟครอบคลุมทั้งหมด นักเรียนแต่ละคนก็จะสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาแต่ละวิชาได้มาก-น้อย ตามแต่นักเรียนละคนต้องการ สนใจ หรือมีความถนัด หากสามารถทำได้เช่นนั้นเห็นว่าน่าจะดีกว่า
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์