IT News
ทีโอทีเลือกโนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส อัพเกรด 3G สู่ HSPA+ พร้อมรองรับ LTE
ทีโอทีเลือกโนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส ในการอัพเกรด 3G สู่ HSPA+ พร้อมรองรับ LTE พร้อมเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดสู่ระดับ 42 เมกะบิต…
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีโอทีไว้วางใจเลือกโนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส ให้เป็นผู้อัพเกรดโครงข่าย 3G สู่ HSPA+ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการบรอดแบนด์ไร้สายให้กับลูกค้ากว่า 7.2 ล้านรายของทีโอที และเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดสู่ระดับ 42 เมกะบิต จากระดับความเร็วที่ 7.2 เมกะบิต ต่อวินาทีในปัจจุบัน การอัพเกรดจะเสร็จสิ้นภายในเดือน เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ธุรกิจเครือข่ายไร้สายในไทยมีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้น ทีโอทีจึงมั่นใจว่า TOT 3G ตอบโจทย์และดีที่สุดสำหรับลูกค้า ด้วยปริมาณความต้องการใช้บริการด้านข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของลูกค้า และสภาพตลาดที่ถูกกระตุ้นด้วย Smart Phone กลุ่มโอเปอเรเตอร์ต่างเริ่มลงทุนในเทคโนโลยี 3G ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่ทีโอทีจะอัพเกรดโครงข่าย TOT 3G โดย โนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาและขยายโครงข่ายให้สามารถรองรับปริมาณความต้องการของบรอดแบนด์ไร้สายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ โซลูชั่นของโนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส ยังช่วยให้ทีโอทีสามารถพัฒนาโครงข่ายสู่ 4G ด้วยเทคโนโลยี LTE ได้อย่างรวดเร็วเมื่อถึงเวลาอีกด้วย
นายกฤติกา มหัทธนกุล ประธานกลุ่มธุรกิจเอเชียเหนือ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส กล่าวว่า การใช้สมาร์ทโฟนมีความแพร่หลายและเป็นเรื่องปกติธรรมดามากขึ้นในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่อื่นๆ ผู้คนจึงเริ่มหันมาใช้แอพพลิเคชั่นที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก เครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สายจึงจำเป็นต้องสามารถที่จะจัดการกับปริมาณความต้องการด้านความจุเหล่านี้และสามารถสร้างความพึงพอใจในการใช้งานให้กับลูกค้าได้ ซึ่งทีโอทีได้สร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับความต้องการเหล่านี้ได้ด้วยการอัพเกรดโครงข่ายสู่เทคโนโลยี HSPA+ ก่อน
ประธานกลุ่มธุรกิจเอเชียเหนือ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส กล่าวต่อว่า โซลูชั่น all-IP ready HSPA+ ของโนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส ทำงานบนเทคโนโลยี Dual Carriers HSDPA, สถานีฐาน Flexi Multiradio และ 3G Radion Network Multicontroller (RNC) โซลูชั่นนี้ยังรวมถึง Liquid Core’s ATCA-based Mobile Switching Server (MSS) ซึ่งมาพร้อมกับสถานีฐาน Flexi Multiradio ซึ่งจะช่วยให้การปรับเปลี่ยนสู่ LTE เป็นไปอย่างราบรื่น
นอกจากนี้ โครงข่ายของทีโอที ซึ่งรวมถึงจีเอสเอ็มและ 3G จะได้รับการตรวจสอบและปรับใช้ให้เหมาะสมด้วยระบบการจัดการเครือข่าย NetAct ของโนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส นอกจากนี้ ยังมีโซลูชั่น Location Based Services ที่จะช่วยให้ทีโอทีสามารถนำเสนอบริการเสริม (Value Added Services – VAS) อย่างเช่น การโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่ ให้กับลูกค้าได้ บริการที่ โนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์คส จะจัดหาและส่งมอบให้กับทีโอทีนั้น ครอบคลุมตั้งแต่บริการด้านการวางแผนเครือข่าย การนำปฏิบัติและการปรับใช้ให้เหมาะสม รวมถึงบริการด้านสนับสนุนการปฏิบัติการและการฝึกอบรมอีกด้วย
ที่มา : ไทยรัฐ