Microsoft เผยโฉม “Skype for Business” พลิกรูปแบบการสื่อสาร และการทำงานร่วมกันขององค์กรธุรกิจ

ไมโครซอฟท์ เผยโฉม “Skype for Business” พลิกรูปแบบการสื่อสาร และการทำงานร่วมกันขององค์กรธุรกิจผสมผสานประสบการณ์การใช้งานที่คุ้นเคยเข้ากับมาตรฐานความปลอดภัยระดับองค์กร ที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จในยุคเออีซี และเศรษฐกิจดิจิทัล

กรุงเทพฯ  3 เมษายน 2558 – บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉม Skype for Business(สไกป์ฟอร์ บิสซิเนส)  อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการสื่อสารระดับองค์กร เสริมศักยภาพให้ธุรกิจไทยสามารถก้าวสู่ความสำเร็จในยุคเออีซีและเศรษฐกิจดิจิทัล Skype for Business (หรือในชื่อเดิมว่า Microsoft Lync) เป็นบริการเพื่อการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพภายในองค์กร มีฟังก์ชันรองรับทั้งการแสดงสถานะผู้ใช้ การสนทนาผ่านข้อความ เสียง วิดีโอ และการประชุมออนไลน์  ไมโครซอฟท์วันนี้ ได้เปิดให้ผู้สนใจสามารถทดลองใช้ Skype for Business รุ่นพรีวิวได้แล้ว เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้งาน Microsoft Lyncอยู่ในปัจจุบันได้ทำความคุ้นเคยและเตรียมพร้อมสำหรับการอัพเกรดระบบ   สู่บริการ Skype for Business ซึ่งจะเปิดตัวในรูปของซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้ในองค์กร เซิร์ฟเวอร์ และบริการออนไลน์  เริ่มตั้งแต่พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป

Skype for Business มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายคลึงกับ Skype ซึ่งเป็นบริการเพื่อการสื่อสารที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 300 ล้านคน พร้อมพัฒนาต่อยอดด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและการบริหารจัดการในระดับองค์กร ทั้งยังสามารถใช้ค้นหา เชื่อมต่อ และสื่อสารกับผู้ใช้ Skype ทั้งในและนอกองค์กรได้อีกด้วย นอกจากนี้ Skype for Business ยังเป็นส่วนหนึ่งของชุดซอฟต์แวร์ Microsoft Officeจึงทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารหรือเข้าประชุมควบคู่ไปกับการทำงานในโปรแกรม Office อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

“การเชื่อมโยงให้ผู้คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เป็นภารกิจหลักของไมโครซอฟท์ในการยกระดับการทำงาน เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถใช้เวลากับทุกกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ” มร. จิโอวานนี่ เมสเกค ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์สไกป์สำหรับธุรกิจ ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว“Office 365 เป็นบริการคลาวด์ที่ภาคธุรกิจต่างเลือกใช้งาน ทั้งในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ทั่วโลก โดยในประเทศไทยนั้น หน่วยงานทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนต่างหันมาเลือกใช้ Office 365 กันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เมืองไทยเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับไมโครซอฟท์และ Skype for Business”

บริการคลาวด์ที่เหมาะสมสำหรับการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ไมโครซอฟท์ได้มีการลงทุนและพัฒนาบริการคลาวด์  Office 365  เพื่อยกระดับการเป็นโซลูชั่นชั้นนำของอุตสาหกรรมด้านการเสริมประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อการสื่อสารแบบเรียลไทม์  โดยSkype for Business ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Office 365  จึงทำให้บริการนี้สามารถใช้งานและรองรับได้ทั่วโลกด้วยศูนย์ข้อมูล (data centers) ที่กระจายอยู่ใน 37 ประเทศ รองรับการทำงานในทุกฟังก์ชันอย่างครบครัน บนระบบที่มีเสถียรภาพสูง จัดการได้ง่าย ปลอดภัย และรองรับมาตรฐานและข้อกำหนดต่างๆ ของภาคธุรกิจ สำหรับประเทศไทย ได้มีองค์กรและธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากมายที่ไว้วางใจเลือกใช้Office 365 ไม่ว่าจะเป็น สายการบินนกแอร์ ไทยสไมล์ กลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ดีทแฮล์ม  แทรเวล จำกัด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หรือสภากาชาดไทย เป็นต้น

นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ออฟฟิศ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมอีกว่า “เรามีความยินดีที่จะแนะนำบริการ Skype for Business ซึ่งจะพลิกรูปแบบของการสื่อสารและทำงานร่วมกันสำหรับองค์กรในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นได้จากรายงานวิจัยโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเผยว่ายอดการใช้อินเตอร์เน็ตในไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่สูงที่สุดในโลกเมื่อปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าบริการ Skype for Business และ Office 365 จะเสริมศักยภาพให้ภาคธุรกิจทำงานร่วมกันได้จากทุกสถานที่ แพลตฟอร์ม และดีไวซ์ เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และปูทางไปสู่จุดเริ่มต้นของยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในช่วงสิ้นปี 2558 นี้ และการรองรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล”

คู่ค้าไมโครซอฟท์ พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อวางระบบ Skype for Business

เครือข่ายพันธมิตรของไมโครซอฟท์พร้อมแล้วที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ วางแผนงานเพื่อรองรับการติดตั้ง Skype for Business โดยจำนวนคู่ค้าของไมโครซอฟท์ที่สามารถติดตั้งระบบ Microsoft Lyncในรูปแบบคลาวด์ได้นั้น เพิ่มสูงขึ้นถึงห้าเท่าตัวในช่วงปีที่ผ่านมา และกว่าร้อยละ 80 ของคู่ค้าทั้งหมดได้ผ่านการอบรมด้านการวางระบบ Skype for Business เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ โซลูชั่นซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่มีคุณสมบัติพร้อมใช้งานกับ Lync 2013 ยังสามารถนำมาใช้กับ Skype for Business ได้ทันที จึงทำให้ลูกค้า Lync ในปัจจุบันสามารถอัพเกรดมาใช้งาน Skype for Business ได้อย่างรวดเร็ว

ในงานแถลงข่าว “The Future of Skype” ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ  พาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์อย่าง ออดิโอโค้ดส์ (AudioCodes) หนึ่งในผู้นำด้านการวางระบบโซลูชั่นเพื่อการสื่อสารด้วยเสียงในระดับองค์กรจากไมโครซอฟท์ ได้จัดแสดงโซลูชั่นการสื่อสารแบบครบวงจร One Box 365  ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถรวบรวมระบบการติดต่อสื่อสารด้วยเสียงทุกรูปแบบให้เป็นหนึ่งเดียวบนแพลตฟอร์ม Lync ได้อย่างง่ายดาย โดยโซลูชั่นนี้รองรับโครงสร้างระบบทั้งแบบภายในองค์กร แบบคลาวด์ และแบบผสม และยังรองรับ Skype for Business อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย

ส่วนทางฮิวเลตต์ แพคการ์ด (HP) ได้นำเสนอโซลูชั่นและบริการด้านการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับ Skype for Business ทั้งในด้านการออกแบบ วางระบบ และการสนับสนุนระบบ โดยผลิตภัณฑ์อย่าง HP Network Solution for Lync มีคุณสมบัติช่วยให้การสื่อสารผ่าน Lync และ Skype for Business ทั้งในรูปแบบการรับส่งข้อความหรือโทรศัพท์ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ยังคงดำเนินต่อไปได้ แม้ในกรณีที่ขาดการติดต่อกับเครือข่ายบริเวณกว้าง (Wide Area Network; WAN)

นอกจากนี้ ซิสเตมส์ 2000 ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ชุดหูฟังคุณภาพระดับโลกจากแบรนด์ แพลนโทรนิคส์(Plantronics) ยังได้ร่วมเปิดตัวอุปกรณ์ในซีรีส์ Plantronics Unified Communications รุ่น Voyager Edge UC และ Clarity 340 ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับ Lync และ Skype for Business โดยมอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพในทุกที่

เริ่มทดลอง Skype for Business ได้แล้ววันนี้

ลูกค้าในประเทศไทยที่ใช้งาน Lync อยู่ในปัจจุบัน สามารถทดลองใช้ Skype for Business รุ่นพรีวิวได้แล้ววันนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2558 โดยสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่ https://technet.microsoft.com/en-gb/evalcenter/dn917485 ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Skype for Business ได้ที่ https://updates.skypeforbusiness.com/