Smart Review
รีวิว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ตัดเสียงรบกวนดีกว่าเดิม | เต็มอิ่มกับเสียงสุดสมจริง | เคสชาร์จดีไซน์ใหม่
รีวิว AirPods Pro รุ่นที่ 2 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก Apple ที่ถึงคราวอัปเกรดเป็นรุ่นที่ 2 เสียที รอบนี้มีการอัปเกรดในเรื่องของคุณภาพเสียง, ระบบตัดเสียงรบกวน, การควบคุมและดีไซน์ของเคสชาร์จเพื่อให้การใช้งานนั้นสะดวกยิ่งขึ้น การใช้งานจะเป็นอย่างไร น่าใช้มากขึ้นแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ
คุณสมบัติเด่น AirPods Pro รุ่นที่ 2
- ขนาดเคสชาร์จ : ประมาณ 45.2 x 60.6 x 21.7 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 50.8 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง : 5.3 กรัม x 2
- Bluetooth : เวอร์ชั่น 5.3
- แบตเตอรี่ : ฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด 6 ชม.
- พอร์ตการเชื่อมต่อ : Lightning
- กันน้ำ : IPX4
- เทคโนโลยีเสียง
- ไดรเวอร์ High-excursion แบบเฉพาะของ Apple
- ตัวขยายสัญญาณช่วงไดนามิกสูงแบบเฉพาะ
- โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ
- ระบบช่องระบายอากาศเพื่อการรักษาแรงดันให้เท่ากัน
- ระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณพร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิก
- EQ แบบปรับได้เอง
- ระบบตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancellation
อุปกรณ์ในกล่อง AirPods Pro รุ่นที่ 2
ก่อนจะไปดูดีไซน์และฟีเจอร์การใช้งานเต็ม ๆ ของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 เรามาเช็กตัวกล่องและอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องกันก่อนดีกว่า กล่องของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 จะมาในโทนสีขาวพร้อมความรักษ์โลกไม่มีพลาสติกหุ้มเหมือนกับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ครับ ที่ด้านหลังจะมีสติกเกอร์ให้เราฉีกเพื่อแกะกล่องครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะให้มาแบบมาตรฐานของ AirPods คือมีตัวหูฟังอยู่ในเคสชาร์จ, สาย Lightning to USB-C เอกสารคู่มือและจุก EarTips ไซซ์อื่น ๆ ครับ
ซึ่งจุก EarTips ในรอบนี้ก็จะมีขนาด XS เพิ่มเข้ามาด้วย สำหรับคนที่อาจจะมีหูเล็กจะได้สวมใส่ได้กระชับมากขึ้นไปอีกครับ
เคสชาร์จทรงเดิม เพิ่มเติมลูกเล่นเข้าไป
ได้เวลามาดูดีไซน์รอบ ๆ ของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 แล้วครับ เคสชาร์จของรุ่นนี้ยังมีขนาดเท่ากับรุ่นก่อน มาในทรงโค้งมนแนวนอน พกพาได้ง่าย ที่ด้านหน้าจะมีไฟ LED สำหรับบอกสถานะของแบตเตอรี่เหมือนเดิม เรียกว่ามองด้านหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยล่ะครับ
แต่ถ้าเราพลิกมาดูที่ด้านข้างฝั่งขวาของตัวเคสชาร์จจะเห็นจุดที่แตกต่างไปนิดหน่อยคือมีรูสายคล้องสีเงินเพิ่มขึ้นมา 1 จุด ช่วยให้เราสามารถคล้องสายได้โดยไม่ต้องเพิ่งอุปกรณ์เสริมใด ๆ ครับ ใครที่ชอบพก AirPods แบบเปลือย ๆ มีช่องนี้เพิ่มเข้ามาก็หาอะไรมาคล้องได้เนาะ
และอีกจุดที่เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนก็คือด้านล่างของเคสชาร์จที่คราวนี้มีลำโพงตัวน้อยเพิ่มเข้ามาที่ด้านล่าง สามารถส่งเสียงเมื่อเราชาร์จแบตฯหรือส่งเสียงเวลาตามหาผ่านแอป Find My ได้ด้วย ใครที่ชอบหา AirPods ไม่เจอมีลำโพงช่วยส่งเสียงเพิ่มแบบนี้ก็น่าจะหาง่ายขึ้นครับ
ส่วนด้านหลังของเคสชาร์จก็ยังมีปุ่มสำหรับ Reconnect เหมือนเดิม เผื่อเราอยากจะจับคู่กับอุปกรณ์อื่นก็เพียงแค่กดที่ปุ่มนี้ค้างไว้ได้ครับ
หูฟังก็ทรงเดิม แต่มีไมโครโฟนเพิ่มขึ้น
เปิดเคสชาร์จออกมาเราจะเจอกับหูฟัง AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่ยังมาในทรง In-Ear เหมือนเดิม มองเผิน ๆ ก็แอบเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ตรงบริเวณด้านบนของหูฟังจะมีแถบสีดำที่เป็นไมโครโฟนเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งจุด เพื่อระบบการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้นนั่นเองครับ
ตัวหูฟังยังมาในทรง In-Ear ที่มอบความกระชับและแน่นหนาเมื่อสวมใส่เหมือนเดิม แต่รอบนี้เพิ่มจุก EarTip ขนาด XS มาให้ด้วย ใครที่เคยใส่แล้วแน่นหูเกินไปไม่พอดีเชื่อว่าขนาดใหม่น่าจะพอดีขึ้นไปอีกครับ
โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ AirPods Pro รุ่นที่ 2 นี้ก็แทบไม่ต่างจากรุ่นแรกมากนัก แต่ก็ปรับบางจุดให้ลงตัวกว่าเดิมทั้งเคสชาร์จที่มีที่คล้องสายมาให้ หรือลำโพงที่ตัวเคสชาร์จเพื่อส่งเสียงแจ้งเตือนได้มากขึ้น ส่วนตัวหูฟังเองก็ยังสวมใส่ได้สบายหูและแน่หนาในแบบที่ควรจะเป็นเช่นเคยครับ
เชื่อมต่อได้ง่ายตามสไตล์ Apple Ecosystem
สำหรับการเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายเหมือนอุปกรณ์อื่น ๆ ใน Apple Ecosystem ครับ เพียงแค่เราเปิดเคสชาร์จและนำมาใกล้ ๆ iPhone, iPad หรือ Mac ก็จะมี Pop Up ขึ้นมาให้เชื่อมต่อได้ทันทีในครั้งแรก และหลังจากเชื่อมต่อกันแล้วในครั้งถัดไปก็เพียงเปิดฝาเคสชาร์จขึ้นก็จะเชื่อมต่อพร้อมมีสถานะแบตเตอรี่ของ AirPods แสดงขึ้นบนหน้าจอได้ทันทีครับ
การควบคุมที่ทำได้มากขึ้น
ในส่วนของการควบคุม AirPods Pro รุ่นที่ 2 นั้นยังคงสั่งงานได้ผ่านการบีบที่บริเวณก้านหูฟังเหมือนเดิม มีคำสั่งคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- บีบ 1 ครั้งเพื่อเล่น หยุดพัก หรือรับสายโทรศัพท์
- บีบ 2 ครั้งเพื่อข้ามไปข้างหน้า
- บีบ 3 ครั้งเพื่อข้ามไปข้างหลัง
- บีบค้างไว้เพื่อสลับระหว่างการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟกับโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ
และนอกจากการบีบแล้วรอบนี้ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังเพิ่มรูปแบบการเลื่อนขึ้น-ลงเพื่อปรับระดับเสียงได้ด้วย ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าน iPhone หรือ Mac เลยล่ะครับ
ชิปใหม่ H2 ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก
AirPods Pro รุ่นที่ 2 มาพร้อมชิปตัวใหม่ H2 ที่เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (Active Noise Cancellation) ได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ตรงนี้ Apple เคลมว่าตัดเสียงได้ดีกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่าด้วยกัน พอบวกกับไมโครโฟนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็ช่วยให้เราได้ยินเสียงที่ชัดเจน ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว
เท่าที่เราลองใช้งานจริง ๆ ชอบเลย บรรยากาศทั่วไปอย่างร้านกาแฟนี่เรียกว่าเงียบสนิทเพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม หรือจะเป็นในตอนเดินทางขึ้นรถไฟฟ้าก็ไม่ได้มีเสียงแทรกจนเกินไป เรียกว่าเรื่องตีดเสียงรบกวนนี่สมราคาคุยจริง ๆ ครับ ยอดเยี่ยม!
Spatial Audio ตามตำแหน่งได้ดียิ่งขึ้น
อีกฟีเจอร์ที่ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ทำได้ดีขึ้นก็คือ การยังยกระดับประสบการณ์การฟังแบบเฉพาะบุคคลด้วย Spatial Audio หรือระบบเสียงตามตำแหน่งที่รอบนี้เราสามารถตั้งค่าโดยใช้ Face ID บน iPhone ช่วยระบุตำแหน่งการติดตามศีรษะแบบไดนามิกทำให้เวลาเราใช้ฟีเจอร์ Head Tracking จะมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้เราดื่มด่ำอยู่ในภวังค์เสียงที่โอบล้อมรอบตัวได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงหรือดูหนังก็จะได้อรรถรสมากกว่าเดิม เสียงมาจากรอบทิศทางแบบ 3 มิติ เสมือนเราอยู่ในโรงภาพยนตร์ที่มีระบบเสียงคุณภาพเลยจริง ๆ ครับ
คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมระดับ Pro
ส่วนเรื่องคุณภาพเสียง AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่ใช้ชิป H2 ช่วยมอบประสิทธิภาพด้านเสียงขั้นสูง โดยจะ
ทำงานประสานกันกับไดรเวอร์และตัวขยายสัญญาณที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อมอบเสียงสูงที่ใสคมชัด และเสียงเบสที่ทุ้มลึกอย่างชัดเจนในระดับที่น่าทึ่ง ทำให้ทุกเสียงที่ได้ยินสดใสสมจริงยิ่งกว่าเดิม
แบตเตอรี่ที่ใช้งานสูงสุด 30 ชม.
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ ตัวหูฟังของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 สามารถใช้งานได้นานถึง 6 ชม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (เปิด ANC แล้วด้วยนะ) ทำให้เราสามารถฟังเพลงหรือดูหนังต่อเนื่องได้เป็นเวลานานโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องถอดออกมาชาร์จในเคสบ่อย ๆ
ส่วนตัวเคสชาร์จเองก็สามารถชาร์จกลับให้กับหูฟังได้อีกเยอะ รวมแล้วเป็น 30 ชม.เมื่อชาร์จแบตฯมาเต็ม ๆ ครับ จะใส่ใช้งานทั่วไประหว่างเดินทางถ้าคิดเล่น ๆ ว่าฟังวันละ 5 ชม.ก็อยู่ได้เป็นสัปดาห์แล้วนะ ส่วนพอร์ตชาร์จของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 นี้ยังคงเป็น Lightning ใครที่ใช้คู่กับ iPhone อยู่แล้วคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะก็ใช้ที่ชาร์จเดียวกันได้ หรือถ้ามีที่ชาร์จ MagSafe อยู่ก็สามารถแปะชาร์จได้เลยเช่นกันครับ
AirPods Pro รุ่นที่ 2 วางจำหน่ายแล้ววันนี้
AirPods Pro รุ่นที่ 2 ตอนนี้ก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยในราคา 8,990 บาท มีให้เลือกสีขาวสีเดียวเหมือนเดิมครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟัง TWS รุ่น Pro ใหม่ที่อัปเกรดได้สมการรอคอย”
สรุปแล้ว AirPods Pro รุ่นที่ 2 นี้ก็ถือเป็นการอัปเกรดได้อย่างสมการรอคอยจริง ๆ ทั้งในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมขึ้น ระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีกว่าเดิม ใช้งานในสภาพเสียงรบกวนสูงได้เป็นอย่างดี ฟีเจอร์ Spatial Audio หรือเสียงตามตำแหน่งแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ได้อานิสงค์จากชิปใหม่ H2 แบบเต็ม ๆ ส่วนดีไซน์ภายนอกแม้จะไม่ได้ต่างไปจากรุ่นก่อนมากนัก แต่ก็ปรับในส่วนของเคสชาร์จให้มีช่องสายคล้องและลำโพงในตัว ช่วยให้เราพกพาหรือใช้งานได้ดีขึ้นไปอีกด้วย ใครที่ใช้รุ่น Pro แรกอยู่แล้วตอนนี้แบตฯเริ่มเสื่อม อยากได้ระบบตัดเสียงที่ดีกว่านี้ และก็ชอบความ Ecosystem ที่แข็งแรงในแบบฉบับของ AirPods อยู่ ก็คงถึงเวลาที่จะอัปเกรดมาเป็นรุ่นนี้แล้วล่ะครับ!