IT News
AIS ชวนลูกค้าใช้ 3G ใหม่บนคลื่น 2.1 GHz. พร้อมเปิดตัวนวัตกรรม NFC กับบริการ AIS mPAY Rabbit
เอไอเอสเริ่มเชิญลูกค้าบางส่วนใช้บริการ AIS 3G ใหม่บนคลื่น 2.1 GHz หลังจากใช้เวลาเพียง 4 เดือนติดตั้งเครือข่ายจนพร้อมให้บริการในหัวเมือง 18 จังหวัด รวมพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร พร้อมผนึกกำลังรถไฟฟ้าเปิดตัวนวัตกรรม NFC อย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกในประเทศไทย กับบริการ AIS mPAY Rabbit นำบัตรแรบบิท มาไว้ในซิม AIS 3G 2.1 GHz
นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “3G นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านสื่อสารโทรคมนาคม ที่จะยกระดับและเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของประเทศไทยอย่างที่พวกเราทราบและเฝ้ารอคอยกันมานาน ดังนั้นเอไอเอสในฐานะ 1 ในผู้ที่ได้รับใบอนุญาต 3G บนคลื่น 2.1 GHz เราจึงมุ่งมั่นและใช้ความพยายามอย่างเต็มกำลังหลังจากได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเราได้ใช้งบประมาณราว 70,000 ล้านใน 3 ปี เตรียมการเพื่อให้พร้อมมอบบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพในทุกด้าน โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือนก็สามารถเริ่มทำให้เครือข่ายพร้อมรองรับการใช้งานใน หัวเมืองของ 18 จังหวัด รวมพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานครได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงได้เริ่มเรียนเชิญลูกค้าบางส่วน (ด้วยElectronics Random) ที่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ และมีเครื่องโทรศัพท์พร้อมด้วยซิมการ์ดที่พร้อมรองรับ 3G 2.1 GHz ให้ได้เริ่มใช้บริการเบื้องต้น ก่อนที่จะเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้”
“อย่างไรก็ตาม 3G ในมุมมองของเอไอเอสจะต้องสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม มอบประโยชน์ สร้างคุณภาพชีวิต และเสริมศักยภาพให้แก่คนไทยได้อย่างแท้จริง ดังนั้นด้วยแนวทางของเราที่เชื่อมั่นกับการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม วันนี้จึงมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจาก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด ในฐานะของผู้พัฒนาและให้บริการระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ “แรบบิท” มาเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาบริการกับเรา ทำให้จากนี้ไป แรบบิทเทคโนโลยีจะไม่ได้จำกัดอยู่ในเฉพาะรูปแบบบัตรที่เราคุ้นเคยอีกต่อไป แต่กำลังจะมาอยู่ในรูปแบบ SIM Card บน AIS 3G ใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกใน ASIA Pacific ที่นวัตกรรมซึ่งมีความปลอดภัยสูงสุดนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยแน่นอนว่าจะอำนวยความสะดวกให้แก่การใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างเป็นรูปธรรมที่สุดเป็นรายแรกและรายเดียวเท่านั้น”
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในปัจจุบัน แทบทุกคนใช้สมาร์ทโฟน และมีแอปพลิเคชั่นต่างๆเกิดขึ้นมามากมาย เพื่อช่วยให้การดำเนินชีวิตง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ร่วมพัฒนาโครงการการชำระเงินผ่านเทคโนโลยี NFC โดยท่านสามารถนำโทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับเทคโนโลยีนี้ในระบบ AIS 3G ใหม่ ไปใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าและระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ รวมถึงใช้ซื้อของ ณ ร้านค้าที่ร่วมให้บริการ นอกจากนี้ ลูกค้าของเราทั้งคู่จะสามารถเติมเงินและตรวจสอบเงินคงเหลือได้อย่างง่ายดาย และเรียกดูรายการเงิน – เข้าออกได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าการร่วมมือของเราทั้งคู่ครั้งนี้สามารถยกระดับชีวิตของคนเมืองได้เลยทีเดียว” บริการ AIS mPAY Rabbit ได้เริ่มเปิดให้ลูกค้าที่มีความสนใจทดลองใช้บริการ ก่อนจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3 ของปีนี้
สำหรับแผนงานของ AIS 3G ใหม่นั้น หลังจากเริ่มเรียนเชิญลูกค้าบางส่วนใช้บริการใน 18 จังหวัด รวมพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานครแล้ว เรายังเตรียมที่จะเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมกับพื้นที่ให้บริการมากกว่า 20 จังหวัด จากนั้นก็จะครบในหัวเมืองของทั้ง 77 จังหวัดภายในสิ้นปี 2556 อย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้ลูกค้าสามารถกดหมายเลข *988*เลขบัตรประชาชน# แล้วโทรออกได้ฟรี! เพื่อเป็นการสมัครและเตรียมความพร้อมการใช้งานของท่าน ก่อนที่จะอัพเกรดการใช้งานเป็น AIS 3G ใหม่ เมื่อพื้นที่ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่การใช้งานของท่านต่อไป
“การเริ่มเรียนเชิญลูกค้าบางส่วนใช้บริการในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจของเราและสัญญา ที่จะนำคลื่นความถี่ 2.1 GHz ซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติ ที่ได้จากการประมูลมาสร้างประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่ประเทศอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพการสื่อสารของคนไทยตามเจตนารมณ์ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. อีกทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างรถไฟฟ้าก็เป็นเสมือนหนึ่งสิ่งที่ยืนยันให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้ว่า 3G 2.1 GHz ซึ่งเป็นคลื่นมาตรฐาน จะสามารถยกระดับและเสริมศักยภาพการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง” นายวิเชียรกล่าวสรุป
จังหวัดที่เริ่มเรียนเชิญลูกค้าใช้งาน ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, เชียงใหม่, เชียงราย, พิษณุโลก, ภูเก็ต, สงขลา, ชลบุรี, ระยอง, อุดรธานี, ขอนแก่น, โคราช, นครปฐม, อยุธยา, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี
ที่มา-ฐานเศรษฐกิจ