ข่าวประชาสัมพันธ์
AIS, dtac, TrueMove H เตรียมพร้อมเครือข่ายรับสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก”
AIS เตรียมพร้อมดูแลเครือ ข่ายเต็มที่ รับสถานการณ์พายุโซนร้ อน “ปาบึก”
นางวิไล เคียงประดู่ Head of Public Relations บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคใต้ และกระทบกับความปลอดภัยของประชาชนนั้น”
“AIS มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง จึงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเตรียมความพร้อมทั้งด้านเครือข่าย อุปกรณ์ และบุคลากร รวมถึงเตรียมมอบความช่วยเหลือด้านระบบสื่อสารให้ยังคงพร้อมบริการได้อย่างดีที่สุดในเบื้องต้น ดังนี้
- ในด้านการดูแลเครือข่ายและควบคุมคุณภาพการให้บริการ AIS ได้จัดเตรียมรถสถานีฐานเคลื่อนที่และทีมงานวิศวกร ลงพื้นที่ดูแลสัญญาณและสถานีฐานในเขตภาคใต้ตลอด 24ชม. ตลอดจนเตรียมจัดตั้ง War Room เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกับทุกหน่วยงาน ในการบริหารจัดการเครือข่าย เพื่อให้ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยสามารถติดต่อสื่อสารบนเครือข่าย AISได้อย่างปกติ
- จัดเตรียมอุปกรณ์ปั่นไฟ และน้ำมัน ในกรณีหากมีการตัดกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อให้สถานีฐานของ AIS ในพื้นที่สำคัญ สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
- จัดเตรียมน้ำดื่ม และถุงยังชีพ มอบให้แก่ประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุ
ทั้งนี้ AIS ยังเตรียมดูแลลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือได้อย่างไม่ติดขัด โดยจะไม่ตัดสัญญาณโทรศัพท์และยืดเวลาการชำระค่าบริการให้ลูกค้าทั้งระบบเติมเงินและรายเดือนอีกด้วย”
ดีแทคห่วงใยภาคใต้เตรียมพร้ อมโครงข่ายรับมือฉุกเฉินพายุ ปาบึก
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เร่งเตรียมพร้อมแผนรับมือภัยพิบัติกรณีพายุ “ปาบึก” เข้าภาคใต้ผ่านอ่าวไทย ขึ้นฝั่งที่ชุมพร-สุราษฎร์ธานี สำหรับการป้องกันสถานีชุมสายและสถานีฐานให้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งรถโมบายล์ลงพื้นที่ภาคใต้ให้บริการสื่อสารเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉินจากพายุลมแรง ฝนตกหนักและวิกฤตน้ำท่วมฉับพลัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดีแทคห่วงใยภาคใต้เตรียมพร้อมโครงข่ายรับมือฉุกเฉินพายุปาบึก
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคได้เตรียมความพร้อมโครงข่ายให้บริการสื่อสารกรณีภัยพิบัติจากพายุปาบึก (Pabuk storm) ที่เข้าไทย และคาดว่าจะส่งผลกระทบในพื้นที่หลายจังหวัดภาคใต้ โดยดีแทคได้เฝ้าระวังพื้นที่พิเศษ 16 จังหวัด คือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ภูเก็ต และสตูล เพื่อรับมือในกรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินจากพายุและน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง นอกจากทีมดีแทคประจำภาคใต้จะเตรียมพร้อมสำหรับให้บริการในพื้นที่แล้ว ดีแทคยังเตรียมทีมชุดภาคกลางและตะวันออกลงเสริมในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ ดีแทคได้ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เพื่อร่วมมือกันในการช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินต่างๆ เช่นช่วยขนย้ายสิ่งของจำเป็น ลำเลียงอุปกรณ์ช่วยเหลือ และรวมถึงเตรียมข้อมูลสำคัญในพื้นที่ต่างๆ”
สำหรับการเตรียมพร้อมของดีแทคในการรับมือพายุปาบึก และป้องกันชุมสายและสถานีฐานเพื่อให้บริการได้ต่อเนื่องในภาวะฉุกเฉิน มีดังนี้
- ดีแทคจัดเตรียมพร้อมรถโมบายล์เคลื่อนที่ภาคใต้ เพื่อให้บริการในสถานการณ์ฉุกเฉินจากฝนตกหนักและน้ำท่วม พร้อมทั้งได้เตรียมรถโมบายล์ในพื้นที่จังหวัดอื่น เช่น ภาคกลางและตะวันออก เข้าเสริมในพื้นที่ภาคใต้
- 2. จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟฟ้าฉุกเฉิน และเตรียมน้ำมันสำรองไว้สำหรับกรณีที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า โดยสถานีฐานดีแทคจะสามารถให้บริการต่อเนื่องได้หลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า พร้อมกันนี้ ดีแทคได้มีการบริหารจัดการการใช้กระแสไฟฟ้าในสถานีฐานอย่างเหมาะสมและเป็นการลดกำลังการใช้งานเพื่อให้พลังงานที่มีอยู่ได้ใช้อย่างคุ้มค่าและยาวนานในกรณีน้ำท่วมและถูกตัดกระแสไฟฟ้า
- 3.จัดเตรียมพาหนะสำหรับลงพื้นที่ เช่น รถขับเคลื่อน4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับการเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่สถานีฐานเพื่อดูแลและซ่อมแซมได้ทุกพื้นที่
- จัดเตรียมอะไหล่สำรองในการซ่อมบำรุง (Spare Parts)สำหรับชุมสายและสถานีฐานในกรณีฉุกเฉินจากพายุและน้ำท่วม
- 5.จัดเตรียมทีมงานโครงข่ายคอยตรวจสอบ และดูแลโครงข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งประสานงานกับทีมในภูมิภาคต่างๆ ของดีแทคในการเข้าช่วยเหลือฉุกเฉิน และมีการปรับแผนเรื่องกำลังคนเป็นระยะให้เหมาะสมต่อสถานการณ์
- ประสานงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กสทช. องค์การโทรศัพท์ รวมทั้งสถานีตำรวจ และโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ
- ประสานงานตลอดเวลากับการไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้มีการจ่ายไฟฟ้าให้กับชุมสายดีแทคอย่างต่อเนื่องในกรณีที่ต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้าบางส่วนในบริเวณพื้นที่น้ำท่วม
ดีแทคได้ติดตามสถานการณ์พายุปาบึกอย่างใกล้ชิด โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ดีแทคยังพร้อมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เข้าช่วยเหลือและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัยในพื้นที่อีกด้วย
ทรูตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังเครือข่ายสื่อสารเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อน ‘ปาบึก’ ตลอด 24 ชม. ระดมรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็วจากทั่วประเทศ ลงพื้นที่เฝ้าระวังพายุ 16 จังหวัด
กลุ่มทรูให้ความมั่นใจลูกค้า เปิดวอร์รูมจัดทีมเฝ้าระวังสถานการณ์พายุโซนร้อน ปาบึก ที่กำลังเคลื่อนสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ และ 2 จังหวัดภาคกลาง ประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี เตรียมพร้อมรับมือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบอุปกรณ์ชุมสาย และเตรียมแหล่งพลังงานสำรองพร้อมหากเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง พร้อมส่งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็วจากทั่วประเทศลงประจำทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และเพิ่มทีมวิศวกรทรูมูฟ เอช และไฟเบอร์ทรูออนไลน์เข้าประจำพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมการประสานงานและรายงานการให้บริการต่อ กสทช. ตามที่ กสทช. ขอความร่วมมือ
นายอดิศักดิ์ ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มทรูในฐานะผู้ประกอบการด้านสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งเป็นบริการสาธารณูปโภคที่จำเป็นต้องพร้อมบริการลูกค้าให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะสถานการณ์วาตภัยจากพายุโซนร้อน ‘ปาบึก’ ที่มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังในเขตจังหวัดภาคใต้และภาคกลาง ระหว่างวันที่ 3 – 7มกราคมนี้ โดยทีมเน็ตเวิร์คกลุ่มทรูได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ 16 จังหวัดเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแบบเรียลไทม์ พร้อมวางมาตรการป้องกันสถานีชุมสาย เตรียมระบบไฟฟ้า และน้ำมันสำรองไว้เป็นจำนวนมากให้เพียงพอต่อสถานีฐานสำหรับใช้กรณีเกิดไฟฟ้าดับ เพื่อให้สามารถดำเนินการให้บริการได้อย่างต่อเนื่องทันที รวมทั้งประสานทุกภาคทั่วประเทศให้จัดส่งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็วลงประจำทั้ง 16 จังหวัดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินกรณีไซต์ล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน ปาบึก อาทิ บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อีกทั้งยังได้เพิ่มทีมวิศวกรเฝ้าระวังในพื้นที่ใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งชุมสายระดับพื้นที่ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับภูมิภาค ขณะเดียวกัน ยังได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทีม True Recovery and Rescue team จัดเตรียมชูชีพ รองเท้าบูท ชุดตรวจสอบไฟรั่ว รถยกสูง เรือท้องแบน เพื่อให้การดำเนินการของทีมงานเป็นไปอย่างปลอดภัยสามารถดูแลเครือข่ายเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ 1242 เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีการประสานงานและรายงานการให้บริการต่อ กสทช. ตามที่ กสทช.ขอความร่วมมือด้วย”