Featured
พาทัวร์งานโชว์นวัตกรรม 5G สุดล้ำ ใจกลางกรุง @ สามย่านมิตรทาวน์ ตอกย้ำ AIS 5G ที่ 1 ตัวจริงทดสอบแล้วทั่วไทย
AIS ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรม 5G รายแรกรายเดียวของไทยที่ทดลองทดสอบ 5G ครบทุกภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง, ภาคตะวันออก, ภาคใต้, ภาคอีสาน และภาคเหนือ ล่าสุด ประกาศความพร้อมพาคนไทยก้าวเข้าสู่ยุค 5G จัดงานแสดงนวัตกรรม 5G สุดล้ำที่เกิดจากความร่วมมือของพันธมิตรทุกภาคส่วน ในงาน “AIS 5G ที่ 1 ตัวจริง ทดสอบแล้วทั่วไทย” ที่สามย่านมิตรทาวน์
สำหรับ AIS ได้เตรียมพร้อมเครือข่ายและองค์ความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีแบบครบวงจร ตั้งแต่โครงสร้างการทำงานของเทคโนโลยี 5G, อุปกรณ์โครงข่าย, อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณ, ดีไวซ์, 5G SIM Card สำหรับเชื่อมต่อเพื่อทดสอบ Use Case ต่างๆ บนเครือข่าย 5G พร้อมทั้งทำ Workshop ผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วทุกภูมิภาคและเหล่าพันธมิตรชั้นนำด้านเทคโนโลยี ดำเนินการทดสอบ 5G ครบทุกภูมิภาคทั่วไทย
และเพื่อขยายการรับรู้และสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ให้กับคนไทย เอไอเอส จึงได้ร่วมมือกับ สามย่านมิตรทาวน์ ศูนย์การค้าแห่งนวัตกรรม โดยซินเนอร์ยี่เทคโนโลยีเข้ากับเอไอเอส เปิดให้คนไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยี 5G ใจกลางกรุงเทพฯ
สถานที่จัดแสดงนวัตกรรม 5G จาก AIS จะอยู่ที่ลานกิจกรรม Semi outdoor ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์ โดยในงานนี้ AIS ดึงแบมแบม หนึ่งในพรีเซนเตอร์จาก AIS มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย และทางทีมงานก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมงาน เพื่อเก็บบรรยากาศภายในงาน ความน่าสนใจของเทคโนโลยี 5G จาก AIS ที่ขนมาจัดแสดงในงานนี้แบบจัดเต็ม เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์ ซึ่งลานจัดแสดงจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ มี 5G Use Cases ที่น่าสนใจมากมาย เดี๋ยวจะพาไปดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1. 5G Hologram 3 มิติ
ครั้งแรกของไทยกับการนำเทคโนโลยี 3D Hologram การสื่อสารระยะไกลที่เหนือไปอีกขั้นในยุค 5G ที่สามารถถ่ายทอดภาพวิดีโอ 3 มิติ ได้แบบ 360 องศา มีความเสมือนจริงและเรียลไทม์ มาจัดแสดงให้ได้สัมผัสกันในงานนี้ ซึ่งมี 2 Use Cases ด้วยกัน ดังนี้
HoloPort
ตรงจุดนี้จะเป็นการสาธิตการสื่อสารระยะไกลระหว่างบุคคลต้นทางและปลายทางที่อยู่ต่างสถานที่กัน ให้สามารถโต้ตอบแบบตัวต่อตัวและมองเห็นภาพ 3 มิติ ได้รอบด้านแบบ 360 องศา โดยที่ฝ่ายต้นทางจะเป็นผู้สร้างภาพโฮโลแกรม 3 มิติของตัวเองผ่านหน้ากล้อง เพื่อให้ระบบทำการประมวลผลเปลี่ยนภาพ 2 มิติ ไปเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ และส่งเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติออกมา
โดยวิดีโอแบบ 3 มิตินี้จะถูกส่งแบบสตรีมไปยังผู้รับผ่านเครือข่าย 5G ซึ่งปลายทางหรือผู้รับจะต้องสวมแว่นตา Hololens เพื่อแสดงผลเป็นภาพโฮโลแกรม 3 มิติ จากวัตถุในคอมพิวเตอร์ให้เป็นภาพเสมือนจริงขึ้นมา จึงทำให้ผู้รับรู้สึกว่าคู่สนทนาปรากฎอยู่ตรงหน้าในสถานที่เดียวกัน
Shared Mixed Reality
เป็นการสาธิตภาพโฮโลแกรม 3 มิติ ที่ผู้ใช้งานมากกว่า 1 คน สามารถมองเห็นภาพวิดีโอวัตถุ 3 มิติเดียวกันได้ ในสถานที่เดียวกัน ด้วยมุมมองแบบ 360 องศา ผ่านแว่นตา Hololens ซึ่งจะช่วยผู้ใช้งานให้สามารถแชร์ไอเดียและพัฒนาชิ้นงานร่วมกันได้พร้อมกันแบบเรียลไทม์
โดยเทคโนโลยีโฮโลแกรมนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานออกแบบ วิศวกร เจ้าของผลิตภัณฑ์ และลูกค้าการประชุมธุรกิจ การศึกษาทางไกล การแพทย์ การเกษตร และงานด้านแฟชั่นและบันเทิง ตลอดจนเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้พัฒนาเกม, แอนิเมชั่น 3 มิติ, AR , VR และ MR ซึ่งจะช่วยสร้างความชัดเจนในการสื่อสารระหว่างกันได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. 5G VDO Call
การทดลองใช้งานโทร 5G VDO Call ผ่านเครือข่าย 5G ด้วยสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ซึ่งคุณสมบัติเฉพาะของเทคโนโลยี 5G ที่มีค่าความหน่วงต่ำ ทำให้มีการตอบสนองแบบเรียลไทม์ คมชัดและไม่สะดุด ซึ่งภาพจะมีความละเอียดสูงระดับ Full HD – 4K และสัญญาณเสียงที่คมชัดระดับ Ultra HD voice
การโทร 5G VDO Call ในงานนี้ได้ทดสอบโทร ข้ามภูมิภาคแบบครบทุก 5 ภาค ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก โดยในทุกๆ ภาคที่ทำการทดสอบโทรกันสดๆ ซึ่งโชว์ให้เห็นประสิทธิภาพของสัญญาณ 5G เมื่อ VDO Call จะเห็นภาพที่คมชัด เสียงไม่ขาดหาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามเมื่อใช้งานผ่านสัญญาณ 5G
ซึ่งในการทดสอบ VDO Call 5 ภาค ในตอนท้ายได้มีการร่วมพูดคุยทั้ง 5 ภาค ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย ซึ่งการ VDO Call ทำได้ลื่นไหลไม่มีสะดุดด้วย 5G VDO Call จาก AIS นั่นเองครับ
3. 5G Remote Control Vehicle
สาธิตเทคโนโลยีการบังคับรถยนต์ไร้คนขับทางไกล ผ่านเครือข่าย 5G บริเวณลานหน้าสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ AIS โดยเป็นการแสดงศักยภาพของเครือข่าย 5G ที่มีความเร็วสูง, ความหน่วงต่ำ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อนำ 5G มาใช้ มีความหน่วงต่ำ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วก็จะทำให้ผู้ควบคุมรถไม่จำเป็นต้องอยู่ในตัวรถ แต่จะสามารถบังคับรถให้เคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในรถแต่ยังสามารถมองเห็นมุมมองต่างๆ ได้เสมือนอยู่ในรถ และขับขี่ได้อย่างปลอดภัย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการขนส่งสินค้าในภาคอุตสาหกรรม และการสัญจรในอนาคตได้ ตรงจุดนี้ก็เป็นอะไรที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างมาก
4. 5G Connected Drones
การสาธิตบังคับโดรนระยะไกล ระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองโคราช จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตผ่านเครือข่าย 5G บน Live Network แสดงแนวคิดการใช้งานโดรนในยุค 5G ที่ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำซึ่งคนควบคุมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกับโดรน แต่สามารถควบคุมโดรนระยะทางไกลได้ผ่านเครือข่ายมือถือ และสามารถ Streaming Video ที่มีความละเอียดสูงกลับมาหาผู้ใช้งานได้ทันที
ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์, การเกษตร, ความปลอดภัยสาธารณะ, การตรวจงานในโรงงาน, การกู้ภัย รวมถึงการนำไปใช้ควบคุมโดรนภายในเมืองอัจฉริยะ เพื่อใช้ในการเข้าไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ ได้อีกด้วย
5. 5G The Robotics
ตรงนี้จะจัดแสดงแนวคิดหุ่นยนต์ ผ่านเทคโนโลยี 5G ที่มีความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ โดยมี 2 Use Cases ด้วยกัน คือ
5G The Robotic, the future of store เป็นการแสดงแนวคิด ซูเปอร์มาร์เก็ตในอนาคต ที่ทำงานโดยหุ่นยนต์ ผ่านเทคโนโลยี 5G ทำให้หุ่นยนต์ประมวลผลได้แบบเรียลไทม์และมีความแม่นยำสูง
หลังจากที่มีการสั่งให้หุ่นยนต์ทำงาน หุ่นยนต์จะรับคำสั่งทันทีแบบเรียลไทม์ ทำให้มีความแม่นยำสูง จึงทำให้หุ่นยนต์หยิบสินค้าได้ตรงตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการสั่งซื้อ จากตัวอย่างจะเห็นว่าถึงแม้ผลไม้จะมีลักษณะหรือสีคล้ายคลึงกัน หุ่นยนต์ก็สามารถหยิบของผลไม้ได้ถูกต้อง และนำมาใส่ในจุดที่เตรียมไว้ได้ถูกต้องตามต้องการ
5G Smart Little Robot Companion หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่เห็นแล้วจะต้องหลงรักกับความน่ารักและสุดฉลาด ที่ทำงานผ่าน 5G ซึ่งสามารถพูดคุยและตอบคำถามแก่ผู้มาใช้งานได้ผ่านเทคโนโลยี 5G ช่วยให้จดจำการสั่งการ Smart Connected Devices และการตอบสนองของหุ่นยนต์เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดย Bannee และ Bookky เป็นหุ่นยนต์บรรณารักษ์ (Librarian-Bot) ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อปฏิบัติงานที่สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น สามารถสื่อสารกันเองและสื่อสารกับคนได้
ทั้งหมดนี้ คือนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G ที่น่าสนใจจาก AIS ที่นำมาจัดแสดง ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และภาคอุตสาหกรรมของประเทศไปอีกขั้น ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AIS 5G เพื่อยกระดับประเทศสู่ Thailand 4.0
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมทดลอง ทดสอบ และอยากสัมผัสนวัตกรรม 5G ด้วยตัวเอง สามารถไปได้ที่สามย่านมิตรทาวน์ ลานกิจกรรม Semi outdoor ชั้น G ซึ่งจะมีการจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2562 – 3 มกราคม 2563 เวลา 10.00น. – 22.00น. (วันที่ 24-31 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. – 24.00 น.) ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเครือข่าย คอยสาธิตและให้คำแนะนำตลอดทั้งงาน