Smart Review
รีวิว Amazfit BIP 3 Pro สมาร์ทวอทช์ฟีเจอร์ครบจบด้านสุขภาพ แบตอึด กันน้ำ 5ATM พร้อมราคาสบายกระเป๋า
รีวิว Amazfit BIP 3 Pro สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่จาก Amazfit ใครที่มองหาสมาร์ทวอทช์ฟังก์ชันครบๆ พร้อมดีไซน์คลาสสิกแบบสวยงาม โดย Bip Series ก็เป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความคุ้มค่าและเป็นหนึ่งในตระกูลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกครับ ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้ว รุ่นนี้คุ้มค่าทุกบาทที่เสียไปจริงๆ ครับ
สรุปสเปค Amazfit BIP 3 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 44.2 x 36.6 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก : 120 กรัม
- หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 1.69 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล พร้อม 237 PPI
- ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 และมี GPS ในตัว
- ระบบปฏิบัติการ Amazfit OS
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 หรือ iOS 12 ขึ้นไป
- กันน้ำระดับ 5 ATM หรือ 50 เมตร
- แบตเตอรี่ความจุ 280mAh
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเรือน Amazfit BIP 3 Pro
- สายชาร์จแบบแม่เหล็ก
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์สวยงาม ได้ความเบาบางใส่ได้สะดวกตลอดวัน
รีวิว Amazfit BIP 3 Pro ใช้ดีไซน์ที่มีความคลาสสิกด้วยรูปทรงที่เป็นสี่เหลี่ยมพร้อมขอบตัวเรือนแบบแบนเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกขั้นครับ ทั้งนี้วัสดุยังแบบผิวด้านที่ป้องกันรอยนิ้วมือหรือคราบมันได้ดีมากๆ ซึ่งจากที่ใช้มาหลายวันแทบไม่ต้องเช็ดเลยครับ
สำหรับ Amazfit BIP 3 Pro จะมีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ, ชมพู และครีม ซึ่งในรุ่น Amazfit BIP 3 ก็จะมี 3 สีเช่นกัน ได้แก่ สีดำ, ชมพู และฟ้า
ที่สำคัญ Amazfit BIP 3 Pro ยังมีน้ำหนักที่เบาเพียง 32 กรัมซึ่งเบาจนแทบไม่รู้สึกหนักเกินไปจนเมื่อยมือเวลาใส่ไปแล้วหลายชั่วโมงครับ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสิ่งที่รู้สึกชอบในสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ครับ
หน้าจอใหญ่สุดในกลุ่มราคาเดียวกัน !!
Amazfit BIP 3 Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่สัมผัสได้ขนาด 1.69 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 237 PPI พร้อมพาเนลแบบ TFT ซึ่งจะได้สีสันที่สดใสและมองเห็นได้ชัดเจนแน่นอนครับด้วยขนาดที่ให้มา ทั้งยังเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ได้จอใหญ่สุดในกลุ่มราคาเดียวกันอีกด้วย และได้ความโค้งบนที่ขอบหน้าจอ 2.5D เพิ่มความสวยงามของตัวเรือนไปได้อีก
ส่วนใครที่กังวลว่าจะใช้งานในที่กลางแจ้งแล้วจะมองเห็นหรือไม่ก็หายห่วงได้เลยครับ เพราะหน้าจอปรับความสว่างได้หลายระดับ แถมมองเห็นได้ชัดมากๆ (ปรับแสงต่ำๆ ก็มองชัดเจนแล้วครับ)
กันน้ำระดับ 5 ATM ได้สบายๆ
ในการออกแบบของ Amazfit BIP 3 Pro รองรับมาตรฐานป้องกันน้ำ 5ATM หรือลึกสุด 50 เมตรครับ ซึ่งใช้งานว่ายน้ำได้สบายๆ พร้อมใช้ได้ทุกสถานการณ์
วิธีการเชื่อมต่อไม่กี่ขั้นตอน
การเริ่มการใช้งาน Amazfit BIP 3 Pro ก็ง่ายมากๆ ครับ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Zepp ที่รองรับที่ง iOS และ Android แล้วทำการสแกน QR Code บนหน้าจอเริ่มบนตัวเรือนก็จะทำการเชื่อมต่อ
หน้าปัดมีให้เลือกกว่า 50 แบบ
เมื่อเชื่อมต่อแล้ว อย่างแรกที่หลายคนน่าจะต้องมาเลือกกันคือหน้าปัดหรือ Watch Face ครับ โดยภายในแอป Zepp ของ Amazfit BIP 3 Pro มีให้เลือกกว่า 50 แบบ และหลายหมวดหมู่ เช่น กิจกรรม, คลาสสิก, พื้นฐาน หรือฟรีสไตล์ เป็นต้น
โดยแต่ละแบบก็สามารถมาปรับค่าที่เราต้องการให้แสดงได้เหมือนกัน เช่น หน้าปัดเราแสดงผลเป็นอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ ก็สามารถกดค้างที่หน้าปัดจนขึ้นสัญลักษณ์การแก้ไข และทำการเปลี่ยนเป็นค่าอื่นๆ ได้เลย เช่น ก้าวเดิน หรือแบตเตอรี่ เป็นต้น
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพใช้มาครบถ้วน
วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้อย่างแม่นยำ
สิ่งที่สมาร์ทวอทช์หลายรุ่นต้องมีในยุคนี้คือการวัดค่าออกซิเจนในเลือด ซึ่งใน Amazfit BIP 3 Pro ก็มีมาให้ครับ โดยการสามารถวัดได้ง่ายๆ เพียงปัดซ้ายไปที่หมวด SpO2 ก็สามารถกดวัดค่าได้ทันที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 20 วินาทีครับ โดยค่าที่ควรได้ควรอยู่ที่ 95% ขึ้นไปครับ ทั้งนี้ ประวัติการวัดจะมีการบันทึกไว้ในแอป Zepp ทั้งหมด
ระบบติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง
ในส่วนของการวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็มีมาให้แน่นอน โดยเราสามารถวัดได้ความถี่ตั้งแต่ทุก 1 นาที ไปจนถึง 30 นาที โดยระบบสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนได้หากพบว่ามีอัตราการเต้นที่สูงเกินตามที่เราตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็น 100 ครั้ง/นาที ไปถึง 150 ครั้ง/นาที
วัดคุณภาพการนอนหลับได้อย่างละเอียด
หากเราใส่ Amazfit BIP 3 Pro นอนหลับไปพร้อมกับเราก็จะสามารถวัดคุณภาพการนอนหลับได้เช่นกันครับ (อย่าลืมไปเปิดให้ใช้งานบนแอป Zepp ด้วยนะ) เมื่อตื่นมาเราจะเห็นว่าเรานอนไปทั้งหมดกี่ชั่วโมง กี่นาที ตั้งแต่กี่โมง-กี่โมงครับ
มีการบอกช่วงของการนอน 4 ระยะ ได้แก่ หลับลึก, หลับตื้น, REM และตื่น ซึ่งจะมีการรวมคะแนนการนอนบอกเรา (เต็ม 100 คะแนน) โดยข้อมูลที่เราได้มาสามารถนำมาปรับปรุงการนอนของเราให้ดีขึ้นได้เช่นกัน
ตรวจจับความเครียดได้เองอัตโนมัติ
อีกสิ่งที่สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้สามารถวัดได้คือความเครียดระหว่างวันของเราครับ ซึ่งจะมีการวัดตลอดวันที่มีการคำนวณจากความแปรผันของอัตราการเต้นของหัวใจ โดยระดับความเครียดจะมีทั้งหมด 4 ระดับ ได้แก่ ผ่อนคลาย, ปกติ, ปานกลาง และสูงครับ
รองรับการออกกำลังกายกว่า 60 โหมด
นอกจากเรื่องการตรวจจับสุขภาพที่มีให้เพียบแล้ว Amazfit BIP 3 Pro ก็ยังมีการออกกำลังกายให้เลือกกว่า 60 โหมดเลยทีเดียวครับ โดยกีฬาหลักๆ มีให้ครบ เช่น การวิ่งกลางแจ้ง, ลู่วิ่งไฟฟ้า, การปั่นจักรยานกลางแจ้ง, การเดิน, ว่ายน้ำ, กระโดดเชือก หรือโยคะ เป็นต้น รวมถึงกีฬาชนิดอื่นอีกเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์, การแล่นเรือ,การเล่นสเก็ตบอร์ด, โรลเลอร์สเก็ต, โบว์ลิ่ง, วอลเลบอลล์, ฮิพออพ, เต้นบอลลูม, คาราเต้, ยูโด, มวยไทย, ไท่ฉี, เทคัวนโด, การโดดเชือก และอื่นๆ
ซึ่งการตรวจจับระหว่างการออกกำลังกายจะมีทั้งระยะเวลาที่ทำการออกกำลังกาย, การเผาผลาญแคลเลอรี่, อัตราการเต้นของหัวใจ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬานั้นๆ เช่น หากเดินก็จะมีจำนวนก้าวและระยะทางบอก เป็นต้น
การใช้งานทั่วไปก็ทำงานได้สะดวก
ในการใช้งานทั่วไประหว่างวันก็ยังมีการแจ้งเตือนต่างๆ ให้เราได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องแตะสมาร์ทโฟนเลยครับ รวมถึงการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสุขภาพเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน ดังนี้
แจ้งเตือนหากนั่งนานเกินไป : หากเรามีการนั่นนานเกินไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตัวระบบจะมีการแจ้งเตือนว่าเรากำลังนั่งนานเกินไปเพื่อให้ลุกยืดเส้นยืดสายเป็นระยะครับ
การแจ้งเตือนข้อความหรือสายโทรเข้า : เมื่อเราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Amazfit BIP 3 Pro จะสามารถแจ้งเตือนข้อความต่างๆ, แอปพลิเคชั่นที่เราเลือกไว้ หรือสายที่โทรเข้ามาได้ทันทีครับ
ใช้แทนชัตเตอร์บนสมาร์ทโฟน : เป็นฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะได้ใช้กันครับ โดยเราสามารถให้ Amazfit BIP 3 Pro เป็นรีโมทถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟนได้เลยทันที
แบตเตอรี่อึดใช้งานได้หลายวันแม้ใช้งานหนัก
สำหรับ Amazfit BIP 3 Pro จะใช้แบตเตอรี่อยู่ที่ 280mAh ซึ่งอาจจะดูเหมือนไม่เยอะครับ แต่พอได้ลองใช้งานจริงๆ สามารถอยู่ได้นานหลายวันเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว หากใครที่ใช้งานทั่วไปไม่ได้ใส่ออกกำลังกายทุกวันจะอยู่ได้นานมากถึง 14 วัน หรือเกือบครึ่งเดือนต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
สรุปการใช้งาน
Amazfit BIP 3 Pro จัดว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานได้คุ้มค่าเลยทีเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มาครบถ้วนทั้งด้านการตรวจจับสุขภาพและการออกกำลังกายที่ให้มาครบ ใครที่มาสายออกกำลังกายก็จะใช้งานได้ดีหรือใครสายรักสุขภาพที่เน้นการตรวจจับก็ทำได้แม่นยำเหมือนกันครับ ทั้งนี้ สิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งในรุ่นนี้คือดีไซน์ที่มาแบบเรียบง่าย คลาสสิก และน้ำหนักเบามากๆ จะผู้ชายหรือผู้หญิง จะเด็กหรือผู้ใหญ่ใส่ก็ได้ทั้งหมดเลยครับ
ราคาอย่างเป็นทางการ
สำหรับ Amazfit BIP 3 Pro สนนราคาอยู่ที่ 1,650 บาท และยังมี Amazfit BIP 3 ที่มาในราคาเพียง 1,290 บาทเท่านั้น โดย Amazfit BIP 3 Series ทั้ง 2 รุ่นสามารถหาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนี้
- ร้านค้าเป็นทางการของ Amazfit ใน Shopee : http://bit.ly/3wsp1KI
- ร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Zepp Official ใน Shopee : http://bit.ly/37XNCxE
และช่องทางพันธมิตรแบบออฟไลน์ ได้แก่ Com7, Banana, Pando Selection, Btrend, IT City, B2S, Powerbuy, TGFone, JIB, Officemate และ iBiz