IT News
Amazfit GTR 2 และ Amazfit GTS 2 เปิดตัวแล้ว ราคาราว 5,600 บาท
Amazfit GTR 2 และ Amazfit GTS 2 เปิดตัวแลัว สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมฟีเจอร์ดูแลสุขภาพรอบด้าน โดยรุ่น GTR 2 มาพร้อมดีไซน์นาฬิกาทั่วไปและมีฟีเจอร์ดูแลสุขภาพครบวงจร ในขณะที่อีกรุ่น GTS 2 มีรูปทรงเพรียวบาง
จุดแตกต่างด้านดีไซน์ GTR 2 มีความคลาสสิก ตัวเรือนมีให้เลือกทั้งแบบสเตนเลสสตีลและอลูมินัมอัลลอยสีดำ หน้าปัดเป็นจอ AMOLED ทรงกลมขนาด 1.39 นิ้ว ใช้กระจกโค้ง 3D ในขณะที่ GTS 2 มีรูปทรงเพรียวบาง มาพร้อมจอ AMOLED ทรงสี่เหลี่ยมขนาด 1.65 นิ้ว และมีตัวเรือนอลูมินัมอัลลอยหลายสี ได้แก่ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey
กระจกหน้าจอของสมาร์ทวอทช์ทั้ง 2 รุ่นทำจากกระจก 3D Corning Gorilla Glass เคลือบกันรอยนิ้วมือและเคลือบฟิล์ม optical Diamond-like Carbon (oDLC) ทำให้จอแข็งแรง ต้านทานรอยขีดข่วนได้มากขึ้น และไม่สกปรกง่าย นอกจากนี้ จอที่หมุนได้รอบยังช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายสำหรับคนถนัดซ้ายและถนัดขวา
GTR 2 และ GTS 2 มาพร้อมเซ็นเซอร์ BioTracker 2 PPG ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก โซนอัตราการเต้นของหัวใจ และแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่เข้าใจสุขภาพหัวใจของตนเองมากขึ้น
นอกจากนี้ BioTracker 2 PPG ยังรองรับระบบ OxygenBeats ซึ่งสามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ เมื่อผู้สวมใส่ทำงานที่ต้องใช้สมองหรือทำกิจกรรมทางกายนานๆ เช่น วิ่งมาราธอนหรือเล่นกีฬาอย่างหักโหมแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี ก็สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดเพื่อทำความเข้าใจสภาพร่างกายของตนเองอย่างรวดเร็ว และดูแลสุขภาพด้วยมือของตัวเอง
ระบบตรวจสอบคุณภาพการนอน ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถติดตามการนอนและเข้าใจรูปแบบการนอนของตนเองได้อย่างง่ายดาย นำไปสู่การยกระดับคุณภาพการนอนในที่สุด เมื่อเชื่อมต่อกับแอป ผู้สวมใส่สามารถวัดระยะเวลานอนทั้งหมด ทั้งช่วงหลับไม่สนิท ช่วงหลับลึก และช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM) หรือแม้แต่ช่วงนอนกลางวัน
สมาร์ทวอทช์ทั้ง 2 รุ่นมีระบบประเมินสุขภาพ PAI สุดล้ำที่แปลงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ กิจกรรมทางกาย และข้อมูลสุขภาพอื่นๆ เป็นคะแนน PAI ช่วยให้ผู้สวมใส่เข้าใจสุขภาวะทางกายของตนเองได้ทันที อีกทั้งยังรองรับระบบตรวจสอบความเครียด ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับระดับความเครียดให้สมดุล
GTR 2 และ GTS 2 จึงมาพร้อมโหมดกีฬายอดนิยม 12 โหมดที่ใช้งานง่ายทุกครั้งที่เริ่มออกกำลังกาย เช่น โหมดบันทึกระยะทาง ความเร็ว การเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจ การเผาผลาญแคลอรี่ และข้อมูลการออกกำลังกายอื่นๆ
หน่วยความจำภายใน 3GB ผู้สวมใส่จึงสามารถฟังเพลงได้โดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ Haptic Vibration ที่สามารถตั้งค่า Haptic Feedback เมื่อรับสายโทรเข้าหรือมีการแจ้งเตือนเข้ามา
เมื่อถอดสมาร์ทวอทช์ ฟังก์ชันตรวจจับการสวมใส่จะล็อกสมาร์ทวอทช์โดยอัตโนมัติ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้สวมใส่ ทั้งยังสามารถตั้งรหัสผ่านเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยได้ด้วย
GTR 2 และ GTS 2 มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว ผู้สวมใส่สามารถโทรออกได้ผ่านบลูทูธ และมีระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Amazon Alexa
Amazfit GTR 2 จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 ตุลาคม ในราคา 179 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,600 บาท และ Amazfit GTS 2 จะวางจำหน่ายในวันที่ 1 พฤศจิกายน ในราคา 179 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,600 บาท บนเว็บไซต์ทางการ