Smart Review
รีวิว Amazfit Neo สมาร์ทวอทช์เอาใจสายเรโทร ฟีเจอร์ครบ ตรวจจับการออกกำลังกายได้ ในราคาสุดประหยัด
รีวิว Amazfit Neo สมาร์ทวอทช์ดีไซน์สุดเรโทร ดีไซน์คลาสสิก พร้อมฟังก์ชันแบบครบครัน ทั้งการออกกำลังกาย, ด้านสุขภาพ และมีราคาที่เข้าถึงได้สบายกระเป๋า
สเปคโดยรวมของ Amazfit Neo
- ขนาดรอบตัวเครื่อง 40.3 x 41 x 11.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 32 กรัม
- หน้าจอแสดงผล STN ขนาด 1.2 นิ้ว สีขาวและดำ
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0 BLE
- เซ็นเซอร์
- เซ็นเซอร์สัดความเร่ง
- เซ็นเซอร์แสง PPG สำหรับ BioTracker
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- แบตเตอรี่ความจุ 160 mAh
- อุปกรณ์ที่รองรับ Android 5.0 หรือ iOS 10.0 ขึ้นไป
- มีมาตรฐานกันน้ำลึก 5ATM
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องของ Amazfit Neo มาในขนาดเล็กกะทัดรัด เมื่อเปิดออกมาก็จะเจออุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ ตัวเรือน Amazfit Neo, แท่นชาร์จ และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์ของ Amazfit Neo มาในรูปแบบของเรโทรที่ออกมาแนวคลาสสิกเบาๆ ทำให้มีความสวยงามในตัว สวมใส่ได้สบายด้วยน้ำหนักที่เบาจะขนาดที่เล็กกะทัดรัด โดย Amazfit Neo มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สี ดำ, เขียว และแดง ซึ่งสีที่เราได้มาจะเป็นสีดำสุดคลาสสิกครับ
สายรัดข้อมือมาในรูปแบบของโพลียูรีเทน (PUR) ที่มีความยืดหยุ่นและสวมใส่ได้แบบไม่รัดข้อมืดมากเกินไป ทำให้ไม่มีรอยเมื่อใช้งานไปนานๆ
หน้าจอของ Amazfit Neo มาแบบ STN ขนาด 1.2 นิ้ว แสดงผลเป็นสีขาวและดำ โดยสามารถแสดงต่างๆ ได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเวลา, วันที่ และฟังก์ชันต่างๆ ได้ครบ
สำหรับรอบตัวเครื่องที่ทั้ง 2 ฝั่งซ้ายและขวามีข้างละ 2 ปุ่ม โดยฝั่งซ้ายมีปุ่ม Select (เลือก) และ Back (ย้อนกลับ) ส่วนฝั่งขวามี UP (ขึ้น) และ Down (ลง)
ส่วนด้านหลังจะเป็นระบบเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
สำหรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพต่างๆ ต้องบอกว่าให้มาแบบครบครันเลยทีเดียวครับ โดย Amazfit Neo สามารถติดตามการออกกำลังกายได้แบบเรียลไทม์ทันที 3 แบบ ได้แก่ เดิน, วิ่ง และปั่นจักรยาน ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายภายในแอปพลิเคชั่น Zeep ที่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก่อนครับ
ใครที่จะออกกำลังกายเพื่อใส่ว่ายน้ำก็ทำได้เช่นกันครับ เพราะมีมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM ที่ทำได้ลึกสุด 50 เมตร
สำหรับสิ่งที่ Amazfit Neo ระบุได้ภายในตัวเรือนเลยก็จะเป็นจำนวนก้าวและวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ทำได้อย่างแม่นยำและแบบเรียลไทม์จากการมีเซ็นเซอร์ PPG BioTracker โดยจะแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีอัตราการเต้นที่เร็วหรือช้ากว่าปกติตามที่เราได้ตั้งค่าภายในแอป Zeep ครับ
ประเมินภาวะสุขภาพส่วนบุคคล (PAI Health Assessment System)
สำหรับค่า PAI ก็มีระบุเหมือนกัน โดยจะเป็นคะแนนของค่าหัวใจของแต่ละคนที่จะไม่เหมือนกัน ซึ่งจะวัดจากข้อมูลส่วนตัว, กิจกรรมต่างๆ ที่ทำในแต่ละวัน และค่าอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เรารู้ได้ว่าการออกกำลังกายของเราเป็นอย่างไร หรือช่วยให้เรารู้ถึงสุขภาพตัวเองว่าควรทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายมากหรือน้อย
ติดตามการนอนได้
สำหรับ Amazfit Neo ก้รองรับการตรวจวัดคุณภาพการนอนได้เช่นกัน โดยเราสามารถเปิดใช้งานได้ทันทีบนตัวนาฬิกา และเมื่อตื่นมาอีกวันก็สามารถดูคุณภาพการนอนได้ผ่านแอป Zeep โดยจะดูข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ได้ เช่น หลับลึก, หลับตื้น และหลับฝัน (REM) รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนได้ด้วย
แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
Amazfit Neo สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 37 วันเมื่อใช้โหมดประหยัดพลังงาน หรือนานสูงสุดถึง 28 วันเมื่อใช้งานในรูปแบบปกติและเปิดโหมดการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์
ราคาสบายกระเป๋า
Amazfit Neo วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วผ่านทาง Shopee ในราคาเพียง 1,190 บาท