Android News
สรุปฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมด Android N เวอร์ชั่นต่อไปของหุ่นเขียว
Google ได้แนะนำตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ของระบบปฏิบัติการ Android รุ่นถัดไป หรือโค้เนม Android N (Android 7.0) ที่เริ่มปล่อยรุ่นสำหรับนักพัฒนาได้ทดสอบกันไปแล้ว มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. รองรับ Unicode 9 และตัวอิโมจิใหม่
เป็นฟีเจอร์สำหรับคนรักตัวอิโมจิ เพราะว่า Android รุ่นใหม่นี้รองรับ Unicode 9 และเพิ่มอีโมจิตัวใหม่อีกกว่า 70 แบบ มีหลากหลายโทนสีผิว และท่าทางที่เพิ่มมากขึ้น
2. Google Assistant
พัฒนาไปอีกขึ้นสำหรับผู้ช่วยส่วนตัวรุ่นใหม่ที่อัปเกรดมาจาก Google Now โดยใช้ชื่อว่า Google Assistant มาพร้อมความสามารถในการถาม-ตอบด้วยคำสั่งเสียงที่มีความซับซ้อนได้มากขึ้น เรียกได้ว่า Siri มีคู่แข่งและมีเพื่อนเพิ่มมาอีกหนึ่งแล้ว
3. ปิดง่ายในคลิกเดียวด้วย ‘Clear All’
ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งาน Android เรียกหาและรอคอย นั่นก็คือปุ่ม ‘Clear All’ สำหรับปิดการทำงานแอพพลิเคชั่นทั้งหมดในคลิกเดียว ไม่ต้องปัดทีละอันเหมือนเช่นทุกวันนี้ และที่มีใช้กันอยู่ในขณะนี้ก็เพราะว่าบางแบรนด์ปรับแต่งอินเตอร์เฟซขึ้นมาครอบทับเข้าไปเองในส่วนของหน้า Recent Apps
4. Instant Apps
เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้แอพได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอพ ตามภาพตัวอย่าง เป็นการเรียกใช้งานแอพของ B&H เพื่อสั่งซื้อสินค้าโดยไม่จำเป็นต้องไปติดตั้งแอพก่อนให้ยุ่งยาก ลดขั้นตอนไปได้เยอะ
5. Seamless Updates
เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยดาวน์โหลดและอัปเดทเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ให้อัตโนมัติโดยเป็นการทำงานอยู่เบื้องหลัง ไม่รบกวนผู้ใช้งาน และจะแสดงผลเป็นเวอร์ชั่นใหม่เมื่อปิดแล้วเปิดเครื่องในครั้งต่อไป จากเดิมที่จะเป็นการแจ้งเตือนให้ดาวน์โหลดและรีสตาร์ทเครื่องเพื่อเริ่มทำงานใหม่
6. อินเตอร์เฟซสำหรับ VR
ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาให้การแสดงผลบนหน้าจอรองรับแว่น VR คือโค้งเว้าตามมุมมองที่แท้จริง จากเดิมที่ใส่แว่น VR เมื่อมองหน้าจอก็ไม่ต่างจากไม่ใส่แว่นคือแบนราบเหมือนเดิม อีกทั้ง Google ยังได้พัฒนา Daydream ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับคอนเทนต์ VR อีกด้วย
7. ใช้งานหลายหน้าต่างได้แท้จริง
เป็นฟีเจอร์สำหรับแบ่งหน้าจอใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าต่างในจอเดียวกันนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการวางคู่กันคนละฝั่งหน้าจอ หรือจะวางหน้าต่างซ้อนทับกัน และสามารถปรับขนาดหน้าต่างของแต่ละอันได้ด้วย
8. รวมการแจ้งเตือนไว้ด้วยกัน
ฟีเจอร์ที่ตัดความน่ารำคาญของการแจ้งเตือนที่เรียงกันยาวจนล้นหน้าจอ นั่นก็คือ Bundled notifications ซึ่งเป็นการรวมรายการแจ้งเตือนของแอพเดียวกันไว้ด้วยกัน และสามารถแตะขยายเพื่อดูรายละเอียดการแจ้งเตือนของแต่ละรายการได้
9. ตอบกลับด่วนจากการแจ้งเตือน
สำหรับฟีเจอร์นี้เป็นการตอบกลับข้อความได้ทันทีจากรายการแจ้งเตือน ซึ่งไม่ต้องแตะเปิดแอพให้ยุ่งยาก โดยเฉพาะการส่งข้อความในลักษณะแชท หรือตอบอีเมลเป็นข้อความสั้น ๆ เป็นต้น
10. สลับแอพได้ง่ายขึ้น
ฟีเจอร์นี้เป็นการสลับไป-มาระหว่างการใช้งานแอพพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยการแตะปุ่ม Recent Apps ต่อเนื่องติดกัน 2 ครั้ง
11. เพิ่มตัวเลือกใน Quick Settings
ในส่วนของ Quick Settings ได้เพิ่มตัวเลือกเมนูการตั้งค่า และสามารถปรับแต่งหรือนจัดวางเมนูที่ต้องการได้เอง
12. โหมดกลางคืนถนอมสายตา
สำหรับคนชอบนอนเล่นสมาร์ทโฟนบนเตียงในช่วงกลางคืน ด้วยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเป็นการลดแสงขาว ปรับสีพื้นหลังให้เข้มขึ้นด้วยธีมโทนสีดำ เพื่อช่วยถนอมสายตา
13. ประหยัดเน็ตมือถือด้วยฟีเจอร์ Data saver
ฟีเจอร์สำหรับช่วยประหยัดเน็ตมือถือ จะได้ไม่ต้องงงเวลาเน็ตหมดแบบไม่รู้ตัว โดยการจำกัดการรับส่งข้อมูลผ่านเน็ตมือถือ และจำกัดเพดานการใช้ปริมาณข้อมูลได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณการใช้งานโดยการจำกัดความเร็ว (bit rate) หรือการลดความละเอียดของรูปภาพ เป็นต้น
14. ปรับปรุง File Browser
Android นั้นถือว่าสะดวกสบายมากในการจัดการไฟล์ตัวเครื่องด้วยตัว File Browser ที่มีมากับตัวระบบ โดยในเวอร์ชั่นใหม่นี้มีการปรับปรุงระบบค้นหาไฟล์ และเพิ่มตัวเลือกในการใช้งานที่มากกว่าเดิม ซึ่งเรียกใช้งานเมนูเหล่านี้ได้ง่าย ๆ จากแถบด้านข้าง
15. ตั้งค่าสีการแสดงผล
ฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นการปรับความสมดุลของสี RGB ในการแสดงผลของหน้าจอได้เอง แล้วอย่าไปปรับเล่นจนสีผิดเพี้ยนล่ะ ^^
16. จัดการพลังงานได้อย่างประสิทธิภาพ
การจัดการพลังงานเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญไม่แพ้ฟีเจอร์อื่น ๆ ซึ่งเราได้รู้จัก Doze Mode สำหรับจัดการพลังงานใน Android 6.0 Marshmallow และใน Android N จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือเมื่อหน้าจอดับ และเมื่อไม่มีการขยับหรือใช้งาน
17. รองรับภาษา Java 8
Android มีคอมไพเลอร์ตัวใหม่ Java Android Compiler Kit รองรับ Java 8 แล้ว ซึ่งการพัฒนาแอพต่อจากนี้จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
18. ซูมหน้าจอ
ฟีเจอร์นี้เป็นการขยายภาพหน้าจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะได้มองเห็นกันแบบชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่มีอยู่ใน Android N ส่วนชื่อทางการของตัว N จะเป็นอะไรนั้น ต้องรอติดตามดูกันต่อไป หรือถ้าใครนึกชื่อขนมหวานเจ๋ง ๆ ได้ ก็สามารถเข้าไปช่วย Google คิดชื่อได้ที่ www.android.com
ที่มา : PhoneArena