Apple News
พาชม Apple Central World แบบ Exclusive ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการ 31 กรกฎาคมนี้
ก่อนหน้านี้ Apple Central World ร้านค้าปลีกแห่งที่สองและเป็นร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในย่านใจกลางเมืองอย่างราชประสงค์ เราจะเห็นว่ามีโลโก้ Apple ที่เล่นลวดลาย “กรุงเทพ” พร้อมกับชื่อเมืองหลวงของประเทศไทยฉบับเต็มล้อมรอบร้าน ซึ่งสีสันที่เราเห็น Apple ต้องการให้เราไปสัมผัสกับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ที่เป็นการจุดประกายความอยากรู้อยากเห็น ต่อยอดจินตนาการ และทำไอเดียที่ไม่ใช่แค่ร้านค้าทั่วไป แต่เป็นทั้งที่แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ทดลอง และลงมือทำทุกความชอบของคุณให้เป็นจริงนั่นเอง
ในวันนี้เรา iPhone-Droid จะมาพาชม Apple Central World แบบ Exclusive พรีวิวแบบเต็มๆ กันครับว่าภายในมีอะไรบ้าง
Apple Central World เป็น Apple Store สาขาที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิด Apple Iconsiam เป็นสาขาแรกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา เป็น Apple Store สาขาที่ 4 ใน Southeast Asia และเป็นสาขาที่ 511 ของโลก
ดีไซน์ Apple Central World
สำหรับ Apple Central World ถือว่าใช้ดีไซน์ร้านที่เหมือนกับร้าน Apple Store ทั่วโลก ที่มาเป็นกระจกพร้อมหลังคา Tree Canopy ที่ยื่นออกมา โดยลานด้านนอกจะมีต้นไม้เพิ่มความสีเขียวสวยงามและม้านั่งรอบร้านที่ให้ผู้คนได้มานั่งพบปะกันได้อย่างสบาย ซึ่งความพิเศษแบบสุดๆ ที่หาที่ไหนในโลกไม่ได้อีกในตอนนี้ คือ Apple Central World เป็นสาขาแรกของโลกที่เห็นวิวได้แบบ 360 องศา ทำให้เมื่อเข้าไปในร้านแล้วทุกอย่างดูโล่งแล้วสบายตา
ชั้นที่ 1
เมื่อเข้าไปในร้าน ชั้น 1 จะเป็น Product Zone โซนจัดแสดงแบบอิสระ ซึ่งก็คือ ส่วนที่ขายอุปกรณ์ต่างๆ ที่ Apple ตัดสรรค์มาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac รุ่นต่างๆ, Apple Watch และอุปกรณ์เสริมแบบครบครันเลยทีเดียวครับ
โดยที่รอบๆ ตัวร้านชั้น 1 จะเรียกว่า Avenue Zone ที่วางเป็นอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้เราให้เลือกซื้อและลองรับชมกันได้ครับ ซึ่งต้องบอกโซนนี้มีของให้เลือกเพียบ!!!
หูฟังจาก Beats หรือลำโพงรุ่นต่างๆ ก็มีให้ครบครัน
อุปกรณ์ทั้งแท่นชาร์จไร้สาย, HDD/SSD ต่างๆ หรือโปรแกรมก็มีให้เลือกซื้อครับ
เคสแบบต่างๆ มีให้เลือกแบบจุใจ!
ที่ชั้น 1 ยังมี Genius Bar สำหรับการนั่งปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับสินค้าต่างๆ ของ Apple หรือมานั่งพักผ่อนชาร์จแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
หากใครที่รับชมชั้น 1 หมดแล้ว ก็สามารถเดินขึ้น-ลงระหว่างชั้นที่ 2 หรือชั้นใต้ดินผ่านบันไดวนที่โอบล้อมแกนไม้หรือ Tree Canopy ได้
หรือใครจะโดยสารลิฟต์ทรงกระบอกที่หุ้มด้วยสแตนเลสสตีลที่ขัดเงาเหมือนกระจกก็ได้เช่นกัน
ชั้นใต้ดิน
ชมชั้นแรกไปแล้ว ตัวของ Apple Central World ยังมี Boardroom ที่ชั้นล่างสุด (ใต้ดิน) ซึ่งเป็นห้องพื้นที่สำหรับให้ผู้ประกอบการ, นักพัฒนา และเจ้าของธุรกิจได้มารับการให้คำปรึกษาและคำแนะนำแบบเป็นส่วนตัวจากทีม Apple
ชั้นที่ 2
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ขนาดย่อมตามสไตล์ของ Apple Store โดยมี Forum ที่เป็นกำแพงวิดีโอ (Video Wall) อยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นบริการโปรแกรม Today at Apple หรือจุดการเรียนรู้และสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ Apple เป็นผู้จัดขึ้น
บริเวณรอบๆ ชั้น 2 ยังมี Product Zone ที่วางอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ให้เลือกชมและซื้อติดไม้ติดมือกันไปได้เหมือนชั้นที่ 1 ครับ
Apple Central World จะเปิดให้บริการในวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. โดยที่ร้านมีสมาชิกทีมทั้งหมดกว่า 130 คน พร้อมให้บริการลูกค้าใน 17 ภาษา ซึ่งการเปิดจะเปิดให้บริการโดยดำเนินการตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขภาพที่ใช้กับพนักงานและผู้มาเยือนเหมือนกับ Apple Store ทุกแห่งทั่วโลกครับ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดในการสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิ และการเว้นระยะห่างทางสังคม
ดังนั้นการเข้าชม Apple Central World ในวันศุกร์นี้จะเปิดให้เฉพาะผู้ที่นัดหมายไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ลูกค้าสามารถไปที่ apple.com/th/centralworld เพื่อเลือกเวลาที่สะดวกได้เลยครับ ซึ่งการจองนี้ไม่สามารถโอนสิทธิ์ได้ เนื่องจากทางร้านสามารถเปิดรับผู้เยี่ยมชมแต่ละรอบได้ในจำนวนที่จำกัด และผู้เข้าชมอาจต้องรอก่อนเข้าชมร้าน
คลิปวิดีโอ พาชม Apple Central World