Apple News
ดูแลสุขภาพหัวใจในเดือนแห่งความรัก ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกาย และการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
ในเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งความรัก คงไม่มีเวลาใดที่จะเหมาะไปกว่านี้อีกแล้วในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของสุขภาพหัวใจ
การเคลื่อนไหวร่างกายและการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหัวใจ โดยระดับคาร์ดิโอฟิตเนสของแต่ละคนจะวัดจากค่า VO2 max ซึ่งเป็นปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ร่างกายสามารถใช้ในระหว่างการออกกำลังกาย และสามารถเพิ่มขึ้นได้เมื่อมีการออกแรง งานวิจัยยังบ่งชี้ด้วยว่าระดับคาร์ดิโอฟิตเนสเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่สำคัญยิ่งกว่าปัจจัยเสี่ยงทั่วไปอย่างการสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
โดยปกติแล้วการวัดค่านี้สามารถทำได้ในคลินิกเฉพาะทางเท่านั้น แต่ Apple Watch สามารถประมาณ ระดับคาร์ดิโอฟิตเนส โดยใช้เซ็นเซอร์อันทรงพลัง และผู้ใช้ยังสามารถดูได้ด้วยว่าระดับคาร์ดิโอฟิตเนสของตนเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ในช่วงสัปดาห์ เดือน หรือปีที่ผ่านมา และหากระดับความฟิตของผู้ใช้อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ พวกเขาสามารถรับการแจ้งเตือนบน Apple Watch พร้อมด้วยคำแนะนำในการปรับปรุงความฟิตให้ดีขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงเรื่องที่ควรพูดคุยกับแพทย์ประจำตัวด้วย
จากข้อเท็จจริงที่สำคัญด้านสุขภาพเหล่านี้ Apple Heart and Movement Study ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยที่สำคัญต่อสาธารณะที่นำโดย Apple และเปิดตัวในปี 2019 จึงได้แชร์ ข้อค้นพบใหม่ๆ เกี่ยวกับคาร์ดิโอฟิตเนสและการทำกิจกรรมในปีที่ผ่านมา
เคล็ดลับและคำแนะนำทั่วไป
Apple มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ผู้ใช้เป็นศูนย์กลางในการดูแลสุขภาพของตนเอง Apple Watch จึงมาพร้อมคุณสมบัติอันทรงพลังในการแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับสภาวะสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น และส่งเสริมให้พวกเขาดำเนินการกับข้อมูลนี้ ดังนั้น เกือบทุกๆ วัน เราจะได้ยินจากผู้ใช้ว่าพวกเขาสามารถดำเนินการดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง และผู้ใช้ Apple Watch ก็มี 5 วิธีหลักๆ ในการดูแลรักษาสุขภาพหัวใจของตนเองอย่างใกล้ชิด
1. ระดับคาร์ดิโอฟิตเนส: คุณสมบัติคาร์ดิโอฟิตเนสจะให้ค่าประมาณ VO2 Max ที่ได้รับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ (ความสามารถของร่างกายในการใช้ออกซิเจนระหว่างออกกำลังกาย) และ American Heart Association ยังยกให้ค่า VO2 Max เป็นตัวบ่งชี้สุขภาพโดยรวมที่ทรงพลังอีกด้วย ผู้ใช้สามารถเลือกรับการแจ้งเตือนได้ หากค่า VO2 Max ของพวกเขาลดมาอยู่ในเกณฑ์ “ต่ำ” ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของสภาวะสุขภาพที่ร้ายแรงในระยะยาว แต่ยังโชคดีที่คุณสามารถปรับปรุงค่านี้ได้โดยการออกกำลังกายให้บ่อยขึ้นหรือเข้มข้นมากขึ้น และสามารถติดตามค่านี้ได้อย่างง่ายดาย
2. การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า: Apple Watch จะตรวจหาอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วหรือช้าผิดปกติอยู่ในเบื้องหลัง ในเวลาที่คุณพัก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง สิ่งนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้ระบุสถานการณ์ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการตรวจร่างกายเพิ่มเติม หากอัตราการเต้นของหัวใจผู้ใช้สูงกว่า 120 bpm หรือต่ำกว่า 40 bpm ในขณะที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลา 10 นาที ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือน ผู้ใช้สามารถปรับเกณฑ์ bpm หรือเปิดปิดการแจ้งเตือนเหล่านี้ได้
3. การแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ: คุณสมบัติแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอบน Apple Watch สามารถตรวจสอบจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นระยะๆ เพื่อตรวจหาจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะ AFib AFib คือจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอ เมื่อห้องชั้นบนของหัวใจเต้นไม่ตรงกับห้องล่าง บุคคลที่มีภาวะ AFib บางรายอาจไม่มีอาการใดๆ และหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ภาวะ AFib อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือลิ่มเลือดที่อาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองได้
4. แอป ECG: แอป ECG ช่วยให้ผู้ใช้ที่มีอาการ เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะสามารถบันทึก ECG และบันทึกอาการของตนเองได้ แอป ECG ใช้เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า ที่ติดตั้งอยู่ใน Digital Crown และคริสตัลด้านหลังเพื่อบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบจุดเดียว โดยผู้ใช้สามารถบันทึกรูปแบบคลื่น ผลลัพธ์ วันที่ เวลา และอาการใดๆ และเอ็กซ์พอร์ตจากแอปสุขภาพเป็น PDF เพื่อแชร์กับแพทย์ได้
5. ประวัติภาวะ Afib: ประวัติภาวะ AFib เป็นคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครที่ช่วยให้คุณประมาณระยะเวลาที่หัวใจอยู่ในภาวะ AFib สำหรับผู้ใช้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการดังกล่าว การวิจัยพบว่าระยะเวลาที่หัวใจอยู่ในภาวะ AFib อาจสัมพันธ์กับความรุนแรงของอาการ ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต และความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ประวัติภาวะ AFib ยังช่วยให้ผู้ใช้ติดตามปัจจัยการใช้ชีวิตที่เฉพาะเจาะจง เช่น การนอนหลับ การออกกำลังกาย และน้ำหนัก ซึ่งอาจส่งผลต่อระยะเวลาที่หัวใจอยู่ในภาวะ AFib อีกด้วย ที่ผ่านมา ไม่เคยมีวิธีติดตามช่วงเวลาที่หัวใจอยู่ในภาวะ AFib หรือเปรียบเทียบกับปัจจัยที่สำคัญในการใช้ชีวิตได้โดยง่ายมาก่อน แต่วันนี้ คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่สวม Apple Watch