เมื่อ 10 ปีที่แล้ว Apple ได้ประกาศเปิดตัว MacBook ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอ Retina ที่เรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก โดยถือเป็น Mac รุ่นใหม่ที่สร้างความแปลกใหม่และปฏิวัติวงการเลยทีเดียว

Apple เปิดตัว MacBook ขนาด 12 นิ้ว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2015 ในงาน “Spring Forward” ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย งานดังกล่าวเน้นไปที่ Apple Watch เป็นหลัก ก่อนเปิดตัวในเดือนถัดไป ดังนั้นการเปิดตัว MacBook รุ่นใหม่จึงสร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆ คน Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้แนะนำ MacBook รุ่นใหม่ว่าเป็น “การคิดค้นใหม่” ของโน้ตบุ๊ก

กลายเป็น MacBook ที่ถูกถกเถียงกันอย่างมากเนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่ได้สูง มีพอร์ต USB-C เพียงช่องเดียวสำหรับการชาร์จและถ่ายโอนข้อมูล อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้น คีย์บอร์ดแบบ Butterfly และราคาที่สูง (ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 43,900 บาท ในปี 2015 เกือบเท่ากับราคา MacBook Proในตอนนี้)
สำหรับสเปคตัวเครื่องในตอนนั้นของ MacBook 12 นิ้ว มีจอภาพ Retina LED-backlit ขนาด 12 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2304 x 1440 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 226 พิกเซลต่อนิ้ว โดยมีอัตราส่วนภาพ 16:10 ความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 3.5 มม. ถึง 13.1 มม. และหนัก 920 กรัม รุ่นนี้ใช้ชิพ Intel Core M แบบ Dual-core สามารถเลือกรุ่นความเร็วได้คือ 1.1GHz, 1.2GHz หรือ 1.3GHz ใช้ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ 14 นาโนเมตร พร้อมหน่วยความจำออนบอร์ด LPDDR3 1600MHz ขนาด 8GB และ Flash Storage ความจุสูงสุด 512GB


อย่างไรก็ตาม MacBook ขนาด 12 นิ้ว ได้เผยให้เห็นถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mac โดยเป็นอุปกรณ์ Apple เครื่องแรกที่มีพอร์ต USB-C, แบตเตอรี่แบบเรียงชั้น, คีย์บอร์ดแบบ Butterfly และแทร็กแพดแบบสัมผัส นอกจากนี้ยังเป็น MacBook เครื่องแรกที่มีการออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพ, จอภาพ Retina ในรุ่นที่ไม่ใช่ Pro, ตัวเลือกสีต่างๆ มากมาย และไม่มีพัดลมหรือโลโก้ Apple แบบมีไฟที่ด้านหลัง
ในปี 2016 ก็ได้ปรับปรุง MacBook ขนาด 12 นิ้ว โดยเพิ่มโปรเซสเซอร์ Intel Skylake Core M3, M5 และ M7 อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นและพื้นที่จัดเก็บ PCIe ที่เร็วขึ้น รวมถึงตัวเลือกสี Rose Gold ในปี 2017 ก็ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel Kaby Lake Core M3, i5 และ i7 รวมถึงคีย์บอร์ดแบบ Butterfly รุ่นที่ 2 ที่ดีขึ้น
MacBook 12 นิ้วถูกแทนที่ด้วย MacBook Air รุ่นปี 2018 ได้เพิ่มพอร์ต USB-C มาพร้อมพัดลมระบายความร้อนตัวเดียว และหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น
เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม:
ที่มา: macrumors