Apple News
Apple iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max สรุป 10 ฟีเจอร์เด่น มีอะไรใหม่?
Apple iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว มาสรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันเลย ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันเลย
iPhone 14 Pro รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมจอภาพแบบติดตลอด, กล้องความละเอียด 48MP ครั้งแรกบน iPhone, คุณสมบัติการตรวจจับการชนกัน, คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม และวิธีใหม่สุดล้ำสำหรับรับการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ด้วย Dynamic Island
Apple iPhone 14 Pro และ Pro Max มีอะไรใหม่?
1. ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา
iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มาพร้อมดีไซน์แบบสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรมและกระจกผิวด้านที่สวยงามใน 4 สีสวยงาม ยังคงมีคุณสมบัติด้านความทนทานระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมด้วยตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield อีกทั้งยังมีความสามารถในการทนน้ำและฝุ่นที่ช่วยปกป้องเครื่องจากน้ำหกใส่และอุบัติเหตุต่างๆ ด้วย
2. จอภาพสว่างกว่าเดิม 2 เท่า
iPhone 14 Pro สองรุ่นใหม่มีให้เลือกระหว่างรุ่น 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ใช้จอภาพ Super Retina XDR ใหม่ พร้อม ProMotion แบบติดตลอดเป็นครั้งแรกบน iPhone ที่มีอัตราการรีเฟรชที่ 1Hz ใหม่ และอีกหลายเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงาน สามารถแสดงเวลา วิดเจ็ต และกิจกรรมสดๆ ให้เหลือบมองได้ทุกเมื่อ และจอภาพใหม่นี้มีระดับความสว่าง HDR สูงสุดเฉพาะจุดเทียบเท่ากับ Pro Display XDR และถือเป็นความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดขณะอยู่กลางแจ้งที่มากที่สุดในสมาร์ทโฟน สูงสุด 2,000 นิต หรือสว่างกว่า iPhone 13 Pro ถึงสองเท่า
3. Dynamic Island อินเทอร์แอ็คทีฟที่ไม่เคยมีมาก่อน
ด้วยดีไซน์รอยบากบนหน้าจอของ iPhone ใหม่ ที่เป็นการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สามารถปรับการทำงานในแบบเรียลไทม์เพื่อแสดงการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงส่วนควบคุมต่างๆ ได้ง่ายขึ้นเพียงแค่แตะค้างไว้ ส่วนกิจกรรมเบื้องหลังที่ทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น แอปแผนที่ แอปเพลง หรือนาฬิกานับถอยหลัง จะปรากฏให้เห็นตลอดเวลาและโต้ตอบได้
4. กล้อง 48MP ครั้งแรกบน iPhone
ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูล Pro มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 48MP ใหม่ ที่มีเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ซึ่งจะปรับการทำงานเข้ากับภาพที่ถ่าย เป็นการรวมพิกเซลทุก 4 จุด ให้กลายเป็น 1 ควอดพิกเซลขนาดใหญ่ ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีมากขึ้น และมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์รุ่นที่ 2
5. กล้องทุกตัวดีขึ้นกว่าเดิม
กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ใหม่ ที่มีพิกเซลขนาด 1.4 µm ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่าเดิมพร้อมด้วยรายละเอียดที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น ทำให้การถ่ายภาพมาโครที่ดีอยู่แล้วยิ่งดีขึ้นไปอีก ในขณะที่กล้องเทเลโฟโต้รองรับการซูมแบบออปติคัล 3 เท่า และกล้องหน้า TrueDepth ใหม่ที่มีรูรับแสงขนาด f/1.9 ช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นครั้งแรกที่มีออโต้โฟกัส จึงสามารถโฟกัสได้เร็วยิ่งขึ้นในสภาวะแสงน้อยและถ่ายรูปหมู่ได้ในระยะที่ไกลออกไปกว่าเดิม
6. การตรวจจับการชนกัน
iPhone 14 ทั้งหมดมาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสุดล้ำที่สามารถให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินในเวลาที่สำคัญที่สุด ด้วยอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ Dual-core ใหม่ที่สามารถตรวจวัดแรง G ได้สูงสุดถึง 256 พร้อมด้วยไจโรสโคปที่มีช่วงไดนามิกสูง ทำให้ตอนนี้คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันที่อยู่ใน iPhone สามารถตรวจจับเหตุรถชนรุนแรงและโทรติดต่อบริการฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้หมดสติหรือไม่สามารถหยิบ iPhone ได้
7. SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
iPhone 14 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ที่ผสานส่วนประกอบแบบเฉพาะเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับซอฟต์แวร์ เพื่อให้สายอากาศสามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้โดยตรง และรองรับการรับส่งข้อความผ่านบริการฉุกเฉินเมื่ออยู่นอกพื้นที่ให้บริการเซลลูลาร์หรือ Wi-Fi
8. A16 Bionic ชิปที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน
ป A16 Bionic ใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ช่วยปลดล็อคประสบการณ์ Dynamic Island, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน และเป็นหัวใจสำคัญของระบบกล้องระดับโปร เรียกได้ว่าเป็นขุมพลังเบื้องหลังฟีเจอร์ด้านการประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์ โดยทั้ง CPU, GPU, Neural Engine และโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพจะทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ
9. ไม่มีถาดซิมแล้ว
iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เลิกใช้ถาดใส่ซิมการ์ดสำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยตอนนี้การรองรับ 5G บน iPhone ได้ขยายครอบคลุมพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์กว่า 250 ราย ที่อยู่ในตลาดมากกว่า 70 แห่งทั่วโลก พร้อมรองรับการทำงานเพิ่มเติมบนเครือข่ายแบบสแตนอโลนหลายแห่ง
10. มาพร้อม iOS 16
iOS 16 ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถใหม่ๆ บน iPhone 14 Pro โดยมาพร้อมหน้าจอล็อคที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ และยังมีฟีเจอร์ด้านการติดต่อสื่อสาร การแชร์ และฟีเจอร์อันชาญฉลาดแบบใหม่ ซึ่งร่วมกันเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์กับ iPhone โดยหน้าจอล็อคจะมีความเฉพาะตัว สวยงาม และให้ประโยชน์ได้มากขึ้นกว่าที่เคย
สำหรับราคา iPhone 14 Pro ราคา 41,900 บาท และ iPhone 14 Pro Max ราคา 44,900 บาท สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 กันยายน เวลา 19:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 16 กันยายน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจของ iPhone 14 Pro ทั้งสองรุ่นใหม่ แฟนๆ Apple น่าจะถูกใจกันทุกฟีเจอร์แน่นอน อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ