Apple News
แอปเปิลเตรียมวางจำหน่าย Apple Vision Pro เพิ่มในอีกหลายประเทศตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน
ลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ สามารถสั่งซื้อ Apple Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ส่วนลูกค้าในออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร จะสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน
Apple ประกาศว่า Apple Vision Pro จะพร้อมจำหน่ายในประเทศและภูมิภาคใหม่เพิ่มเติม โดยลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 13 มิถุนายน เวลา 18:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนเป็นต้นไป ส่วนลูกค้าในออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร สามารถสั่งซื้อ Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน เวลา 5:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมเป็นต้นไป ทั้งนี้ Vision Pro ผสานคอนเทนต์ดิจิทัลเข้ากับโลกจริงเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมอบประสบการณ์เชิงมิติพื้นที่อันทรงประสิทธิภาพที่สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของผู้คน ตลอดจนการร่วมกันทำงาน การสานสัมพันธ์ การย้อนความทรงจำ การเพลิดเพลินกับความบันเทิง และอีกมากมาย
“Apple Vision Pro ได้รับเสียงตอบรับอย่างคึกคักเป็นพิเศษ และเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้แนะนำความมหัศจรรย์แห่งการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ไปสู่ลูกค้ามากขึ้นทั่วโลก” Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าว “เราตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเห็นผู้คนจำนวนมากได้สัมผัสกับความเหลือเชื่อที่เป็นไปได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานคนเดียวหรือการทำงานร่วมกันด้วยผืนผ้าใบที่ไม่จำกัดสำหรับแอปต่างๆ การย้อนความทรงจำที่มีค่าในแบบสามมิติ การดูซีรีส์และภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร หรือการเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เชิงมิติพื้นที่แบบใหม่ที่สุดล้ำเหนือจินตนาการ”
คอมพิวเตอร์เชิงมิติพื้นที่นวัตกรรมสุดล้ำ
Apple Vision Pro ขับเคลื่อนด้วย visionOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสุดล้ำที่มาพร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้เชิงมิติพื้นที่ที่ใช้งานง่าย และมีระบบส่งข้อมูลเข้าที่น่าอัศจรรย์ ทำให้ผู้ใช้ไปยังส่วนต่างๆ ได้โดยการสั่งงานด้วยดวงตา มือ และเสียง ระบบปฏิบัติการ visionOS พัฒนาต่อยอดขึ้นมาจากผลงานวิศวกรรมและนวัตกรรมการออกแบบหลายทศวรรษที่ใช้ใน iOS, iPadOS และ macOS โดยทำงานเป็นหนึ่งเดียวกับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ในระบบนิเวศของ Apple เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจบนอุปกรณ์ Apple ที่ผู้ใช้ชื่นชอบ
ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับแอปได้ง่ายๆ เพียงแค่มองไปที่แอป แล้วแตะนิ้วเข้าหากัน และยังสามารถพูดเพื่อสั่งให้ป้อนข้อความตามคำบอก ใช้คีย์บอร์ดเสมือนจริงในการพิมพ์ หรือแม้แต่สั่งให้ Siri เปิดหรือปิดแอป เล่นสื่อ ตอบคำถาม และอีกมากมาย ทั้งยังมีผืนผ้าใบที่ไม่จำกัด ทำให้แอปเป็นอิสระจากกรอบของจอภาพในโลกจริง ดังนั้นจึงแสดงแอปเอาไว้ข้างกันในขนาดใดก็ได้ ผู้ใช้จึงมีพื้นที่ทำงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกัน และความบันเทิง ที่สำคัญยังมาพร้อมสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีสมาธิ ลดสิ่งรบกวนสายตา และเพลิดเพลินกับประสบการณ์ผ่านทิวทัศน์อันสวยงามและมีชีวิตชีวาของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างเต็มอิ่มสมจริง เช่น ฮาเลอาคาลา โจชัวทรี โยเซมิตี หรือแม้แต่บนดวงจันทร์
สำหรับ visionOS 2 ที่จะพร้อมให้อัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีภายในปีนี้ จะทำให้ผู้ใช้ Apple Vision Pro ทุกคนสามารถเข้าถึงคุณสมบัติที่ช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมกับการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ รวมถึงวิธีการอันทรงพลังในการแปลงรูปภาพให้เป็นความทรงจำแบบ 3D, การใช้คำสั่งมือที่เข้าใจง่ายเพื่อเข้าถึงมุมมองบ้านและข้อมูลสำคัญได้อย่างสะดวกเพียงแค่เหลือบตามอง, ความสามารถใหม่ๆ สำหรับจอภาพเสมือน Mac โหมดเดินทาง และการใช้งานในฐานะผู้ใช้ทั่วไป ตลอดจนการปรับปรุงใหม่ๆ ให้กับแอปทำสมาธิ, Safari และ Apple TV และอีกมากมาย
แอป เกม และประสบการณ์ที่มีให้เลือกมากมาย
ตอนนี้ App Store มีแอปที่ออกแบบมาสำหรับ Apple Vision Pro มากกว่า 2,000 รายการ และยังใช้ได้กับแอป iOS และ iPadOS กว่า 1.5 ล้านแอป ยิ่งไปกว่านั้นยังทำงานได้กับแอปอีกมากมายบน Mac โดยใช้คุณสมบัติจอภาพเสมือน Mac ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นเคียงข้างกัน1 ความสามารถเฉพาะของ Vision Pro ที่รองรับการจับคู่กับแอปที่พัฒนาขึ้นโดยชุมชนนักพัฒนาทั่วโลกของ Apple ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่มีความอเนกประสงค์สำหรับผู้ใช้อย่างเหนือคาด
พื้นที่ทำงานส่วนตัวขนาดใหญ่ที่พกพาไปไหนก็ได้
แอปธุรกิจและแอปเพื่อการทำงานชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Box, Craft, Fantastical, MindNode, Slack, Things 3, Webex, Zoom และแอปต่างๆ จาก Microsoft 365 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับเพื่อนร่วมงานและจัดการงานในชีวิตประจำวันได้สำเร็จ ผู้ใช้ยังสามารถอัดฉีดประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นด้วยแอปยูทิลิตี้ เช่น AirLauncher, GlanceBar, Splitscreen, Screens 5 และ Widgetsmith ตลอดจนการจับคู่กับอุปกรณ์เสริม Bluetooth เช่น Magic Keyboard และ Magic Trackpad สำหรับ Magic Mouse นั้นจะมาพร้อมกับ visionOS 2 ภายในปีนี้
โรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร
สุดยอดบริการสตรีมมิ่งพร้อมให้รับชมผ่านทาง Apple Vision Pro ไม่ว่าจะเป็น Apple TV+, Amazon Prime Video, Disney+ กับ Hulu, Max, Peacock, Paramount+ กับ Showtime, Pluto TV และ Tubi2 ส่วนแอป Apple TV นั้นก็มาพร้อม Apple Original ทั้งหมดจาก Apple TV+ รวมถึงภาพยนตร์ 3D อีกกว่า 250 เรื่อง โดยที่สมาชิก Apple TV+ สามารถรับชมบางเรื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม3 ผู้ใช้ Vision Pro สามารถสนุกไปกับบริการสตรีมมิ่งและวิดีโอออนไลน์เพิ่มเติมผ่านแอปต่างๆ เช่น IMAX, Juno, Supercut และ Television หรือจะรับชมผ่าน Safari ก็ได้เช่นกัน โดยแอปที่รองรับ SharePlay และ Persona เชิงมิติพื้นที่ จะทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนต์ไปพร้อมกันราวกับกำลังอยู่ในสถานที่เดียวกัน4
ดูกีฬาจากที่นั่งแถวหน้าสุดพร้อมกระดานคะแนนส่วนตัว
ผู้ใช้ Apple Vision Pro สามารถรับชมการแข่งขันกีฬาและติดตามนักกีฬาคนโปรดได้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนผ่านแอปจากลีกและค่ายกีฬาดัง ไม่ว่าจะเป็น NBA, MLS, MLB, NHL, PGA TOUR, The Masters, UFC, World Surf League และ Red Bull TV นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอย่างการดูแบบหลายมุมมอง การแสดงข้อมูลนักกีฬาและสถิติการแข่งขันได้ในแบบเรียลไทม์ การแม็ปวัตถุจริง และอีกมากมาย ที่ช่วยผสานข้อดีของกระดานคะแนนจริงหรือหน้าจอที่สองรวมไว้ในมุมมองที่เห็น ทำให้แฟนกีฬาสามารถติดตามการถ่ายทอดสดกีฬาระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ ได้จากแอปของผู้ให้บริการเคเบิลทีวีและผู้แพร่ภาพการแข่งขันกีฬาชั้นนำ
อุปกรณ์เล่นเกมสุดล้ำ
ผู้ใช้สามารถสนุกไปกับเกมต่างๆ นับพัน รวมทั้งกว่า 250 เกมใน Apple Arcade โดยบรรดาเกมเชิงมิติพื้นที่และคอนเทนต์ที่อัปเดตใหม่จะเปิดตัวบน Apple Arcade อย่างต่อเนื่อง เกมที่ออกใหม่ก็เช่น Alto’s Odyssey – The Lost City, Crossy Road Castle และ Where Cards Fall และยังมีเกมเชิงมิติพื้นที่ให้เลือกเล่นผ่าน App Store ด้วย เช่น Blackbox ซึ่งเป็นเกมที่ชนะรางวัล Apple Design Award ปี 2024, Loóna และ DapTap ทางด้านเกมยอดนิยมที่ให้ความรู้สึกสมจริง เช่น Job Simulator นั้น ก็โดดเด่นบน Apple Vision Pro เพราะผู้เล่นสามารถใช้เพียงแค่ดวงตาและมือเพื่อจำลองอาชีพต่างๆ ได้ เช่น เชฟทำอาหารหรือเสมียนในร้านค้า ผู้เล่นยังสามารถเข้าถึงเกม iPad และ iPhone ตลอดจนเกม PC และเกมคอนโซลโดยใช้แอปต่างๆ อย่าง Steam Link รวมถึงเกมอีกมากมายบน Mac ซึ่งทั้งหมดสามารถควบคุมได้ด้วย PlayStation DualSense และ Xbox Wireless Controller
ผืนผ้าใบที่ไม่จำกัดความคิดสร้างสรรค์
แอปเพื่อการออกแบบใหม่ๆ อย่าง AirDraw และ Da Vinci Eye ได้รับการพัฒนาให้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะตัวของการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ เช่น ความสามารถในการใช้ดวงตาและมือเพื่อสเก็ตช์ วาด และระบายสี เช่นเดียวกับแอป djay ที่ชนะรางวัล Apple Design Award ปี 2024 ที่ทำให้ศิลปินสามารถรังสรรค์ดนตรีได้ในอากาศอย่างไม่น่าเชื่อ หรือแอป Lowe’s Style Studio ที่ให้ผู้ใช้ออกแบบห้องครัวในฝันได้เอง
ประสบการณ์การเล่าเรื่องในแบบเหนือชั้น
Apple Vision Pro มาพร้อม Apple Immersive Video ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ใช้วิดีโอระดับ 8K แบบ 3D ภายใต้มุมมองภาพแบบ 180 องศา และระบบเสียงตามตำแหน่ง เพื่อนำพาผู้ชมไปอยู่ ณ จุดศูนย์กลางเรื่องราว โดยในแอป Apple TV จะมีภาพยนตร์และซีรีส์ Apple Immersive ให้เลือกรับชมเพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนใน App Store นั้นก็มีประสบการณ์อินเทอร์แอ็คทีฟที่เต็มอิ่มสมจริงไม่เหมือนใคร เช่น Encounter Dinosaurs, ภาพยนตร์ของ GUCCI เรื่อง Who Is Sabato De Sarno? A Gucci Story และที่เพิ่งฉายล่าสุดอย่าง What If…? An Immersive Story จาก Marvel Studios และ ILM Immersive
ในเดือนนี้ นักพัฒนาทั่วโลกกำลังจะเปิดตัวแอปและเกมใหม่สำหรับ Apple Vision Pro ซึ่งรวมถึง DingTalk, Douyin VR Live, Migu Video, Taobao, Tencent Video และ Weibo ในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง; แอปต่างๆ จาก Yahoo! JAPAN, LIFULL HOME’S, U-NEXT และ Nikkei ในญี่ปุ่น; และ SINGTEL CAST, StarHub TV+ และ mewatch ในสิงคโปร์ โดยทั้งหมดจะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันแรก และยังมีแอปอีกจำนวนมากที่จะเปิดตัวบน Vision Pro ในเดือนถัดไป เช่น MUBI และ Soul Spire ในสหราชอาณาจักร; Canal+, Foxar, OQEE และ SeLoger ในฝรั่งเศส; BILD, OTTO และ ZDF ในเยอรมนี; Classix และ Sportsnet ใน Canada ตลอดจนแอป Domain ในออสเตรเลีย นอกจากนี้เครื่องมือการทำงานระดับโลกอย่างแอปจาก Microsoft 365, บริการด้านความบันเทิงอย่าง Disney+ และอีกมากมาย ก็จะพร้อมใช้งานในหลายๆ ประเทศและภูมิภาคเหล่านี้เมื่อมีการเปิดตัวด้วย
ธุรกิจต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรมให้การตอบรับกับการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่อย่างดี บริษัทในกลุ่ม Fortune 100 เกินครึ่งหนึ่งซื้อ Apple Vision Pro เพื่อนำไปพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัยแก่องค์กรและลูกค้าของตนเอง มีทั้งแอปที่ช่วยให้ผู้คนออกแบบงาน 3D ไปด้วยกัน บ้างก็ใช้ในการฝึกอบรมพนักงานเป็นการเฉพาะ รวมถึงการแนะนำการปฏิบัติงานภาคสนามจากระยะไกล และอีกมากมาย นอกจากนี้ Vision Pro ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลในหลายด้าน เช่น การศึกษาชั้นคลินิก การวางแผนการผ่านตัด ภาพทางการแพทย์ และพฤติกรรมสุขภาพ
การออกแบบฮาร์ดแวร์และนวัตกรรมที่ยากจะหาใครเทียบ
Apple Vision Pro ได้รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพการประมวลผลระดับปรากฏการณ์ภายใต้ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดและสวมใส่ได้ ระบบจอภาพความละเอียดสูงพิเศษใช้เทคโนโลยี OLED ระดับไมโครที่อัดแน่นความละเอียดไว้ถึง 23 ล้านพิกเซลในจอภาพทั้ง 2 ข้าง ทั้งที่จอภาพแต่ละข้างมีขนาดเท่ากับแสตมป์ดวงหนึ่งเท่านั้น แต่กลับให้พิกเซลแก่ดวงตาแต่ละข้างของคุณได้มากกว่าทีวี 4K เช่นเดียวกับระบบเสียงตามตำแหน่งสุดล้ำที่ใช้ไดรเวอร์ขยายสัญญาณ 2 ตัวที่ทำงานเป็นอิสระต่อกัน เพื่อมอบระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณ และให้ความรู้สึกราวกับเสียงมาจากพื้นที่รอบตัวผู้ใช้ นอกจากนี้ Vision Pro ยังมาพร้อมระบบติดตามดวงตาประสิทธิภาพสูงที่สามารถส่งข้อมูลเข้าระบบได้อย่างฉับไวและไม่ยุ่งยาก โดยที่ EyeSight จะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับผู้คนรอบข้างได้เสมอ ทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพราะ Vision Pro ขับเคลื่อนด้วย Apple Silicon ที่มีดีไซน์แบบชิปคู่อันเป็นเอกลักษณ์ โดยชิป M2 ทำหน้าที่มอบประสิทธิภาพอันทรงพลังได้อย่างโดดเด่น ขณะที่ชิป R1 จะคอยประมวลผลข้อมูลเข้าจากกล้อง 12 ตัว, เซ็นเซอร์ 5 ตัว และไมโครโฟน 6 ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่เห็นจะให้ความรู้สึกราวกับกำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าผู้ใช้
ค่านิยมของ Apple รวมไว้อยู่ใน Apple Vision Pro
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ Apple อื่นๆ ทั้งหมด ค่านิยมของ Apple ได้ผสานรวมอยู่ใน Apple Vision Pro
คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่ทรงพลังผสานรวมอยู่ใน visionOS ทั้งหมดได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาใหม่เพื่อการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ VoiceOver, ซูม, ฟิลเตอร์สี, การควบคุมสวิตช์, การใช้งานเครื่องตามที่กำหนด และอีกมากมาย โดยผู้ใช้สามารถเลือกวิธีส่งข้อมูลเข้าในแบบที่ต้องการด้วยการควบคุมตัวชี้และการควบคุมการอยู่นิ่ง และสั่งให้มีการติดตามดวงตาได้ด้วยดวงตาข้างที่ถนัดเพียงข้างเดียว และภายในปีนี้ visionOS จะรองรับคุณสมบัติคำบรรยายสดในทุกส่วนของระบบ รวมถึงอุปกรณ์รับฟัง Made for iPhone และโปรเซสเซอร์รับฟังสำหรับประสาทหูเทียม
แอปการศึกษาจะมาพร้อมรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ แอปใหม่อย่าง Art Universe, Beautiful Things, Complete HeartX, JigSpace, LookUp Dictionary, Museas, Pocket Rocket และ Sky Guide ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้มุมมองใหม่ๆ ด้านศิลปะ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อวกาศ และอีกมากมาย ภายใต้ฉากและวัตถุเชิงปริมาตรในมิติที่เต็มอิ่มสมจริง
Apple Vision Pro มาพร้อมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม โดย Optic ID จะวิเคราะห์ม่านตาของผู้ใช้เพื่อใช้ปลดล็อค Apple Vision Pro, ป้อนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ และทำการชำระเงินด้วย Apple Pay ขณะที่ทิศทางดวงตาของผู้ใช้ที่มองไปมาระหว่างการไปยังส่วนต่างๆ ของ Vision Pro จะได้รับการเก็บรักษาเป็นส่วนตัว ข้อมูลการติดตามดวงตาจะไม่ถูกแชร์กับ Apple หรือแอปหรือเว็บไซต์ของบริษัทอื่น
Apple Vision Pro กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม
Apple Vision Pro ได้รับการออกแบบมาให้ใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงใช้ทองคำและตะกั่วบัดกรีรีไซเคิล 100% ในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น และ Vision Pro ยังได้มาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังปลอดสารปรอท, สารหน่วงการติดไฟกลุ่มโบรมีน, PVC และเบริลเลียม ส่วนบรรจุภัณฑ์นั้นก็ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก 100% ซึ่งทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 มากยิ่งขึ้น วันนี้ Apple มีความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับการดำเนินงานในระดับองค์กรทั่วโลก และเราวางแผนที่จะทำให้ซัพพลายเชนในการผลิตทั้งหมดรวมถึงอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
- Apple Vision Pro จะพร้อมจำหน่ายในสาขา Apple Store ทุกแห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รวมถึง Apple Store ทางออนไลน์ ในราคาเริ่มต้นที่ $3,499 โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 256GB, 512GB และ 1TB
- ลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ จะสามารถสั่งซื้อ Apple Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 13 มิถุนายน เวลา 6:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนเป็นต้นไป
- ส่วนลูกค้าในออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร จะสามารถสั่งซื้อ Apple Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน เวลา 5:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมเป็นต้นไป
- Apple Vision Pro มาพร้อม visionOS 1.2 และรองรับภาษาในประเทศและภูมิภาคเหล่านี้ สำหรับ visionOS 2 นั้นจะพร้อมให้ผู้ใช้ Apple Vision Pro ทุกคนใช้งานได้ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีภายในปีนี้
- ลูกค้าสามารถซื้อ Apple Vision Pro ผ่านทาง Apple Store ทางออนไลน์, แอป Apple Store หรือสาขา Apple Store ที่พร้อมให้บริการช่วยเหลือแบบเฉพาะบุคคลโดย Apple Specialist ลูกค้ายังสามารถจองการสาธิต Vision Pro ทางออนไลน์ระยะ 30 นาทีได้ด้วย โดยจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสาธิตให้ทราบหลังจากที่เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า
- เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ Apple Vision Pro ลูกค้าจะต้องสแกนใบหน้าให้สำเร็จโดยใช้ iPhone หรือ iPad ที่มี Face ID พร้อมด้วยแอป Apple Store เวอร์ชั่นล่าสุด การสแกนใบหน้าดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงขนาดของตัวกันแสงและแถบคาดศีรษะที่พอดีกับการสวมใส่
- Apple Vision Pro มาพร้อมแถบคาด Solo Knit, แถบคาด Dual Loop, ตัวกันแสงขนาดเฉพาะบุคคลพร้อมโฟมรองตัวกันแสง 2 ชิ้น, ตัวครอบ Apple Vision Pro, ผ้าเช็ดทำความสะอาด, แบตเตอรี่, สายชาร์จ USB-C และอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C
- สำหรับผู้ใช้ที่จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาสายตา ทาง Apple ได้ร่วมมือกับ ZEISS ในการพัฒนาชิ้นเลนส์เสริม ZEISS Optical Inserts ซึ่งจะประกบกับ Apple Vision Pro ด้วยแม่เหล็ก ทำให้ผู้ใช้ได้รับความคมชัดจากจอภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพ5 ZEISS Optical Inserts ชนิดเลนส์สำหรับการอ่านจะจำหน่ายในราคา $99 ส่วน ZEISS Optical Inserts ชนิดเลนส์ตามค่าสายตาจะจำหน่ายในราคา $149
- เคสเดินทางสำหรับ Apple Vision Pro จะจำหน่ายในราคา $199
- AppleCare+ สำหรับ Apple Vision Pro จะจำหน่ายในราคา $499
- โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Apple Vision Pro ที่ apple.com/apple-vision-pro