Apple News
Apple แจ้งเตือนผู้ใช้ iPhone กว่า 92 ประเทศในการตกเป็นเป้าหมายจาก ‘การโจมตีสปายแวร์รับจ้าง’
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Apple ได้ส่งการแจ้งเตือนภัยคุกคามไปยังผู้ใช้งานใน 92 ประเทศ โดยมีการเตือนว่าอาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยสปายแวร์ของทหารรับจ้าง ซึ่งข้อมูลต่างๆ อยู่ในความเสี่ยงครับ
เว็บไซต์ TechCrunch ระบุว่า Apple ได้ส่งการแจ้งเตือนไปยังแต่ละคนดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณตี 2 ตามเวาลในไทยด้วยการจัดส่งทางอีเมลและ iMessage โดยใช้รายละเอียดการติดต่อที่เกี่ยวข้องกับ Apple ID ของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ การแจ้งเตือนยังปรากฏที่ด้านบนสุดของหน้าจอหากผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ appleid.apple.com ซึ่งข้อมูลการเตือนมีตามข้อความด้านล่างนี้ครับ
“Apple ตรวจพบว่าคุณตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยสปายแวร์ของทหารรับจ้างที่พยายามโจมตี iPhone ที่เชื่อมโยงกับ Apple ID -xxx- ของคุณจากระยะไกล เราไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่เราส่งการแจ้งเตือนนี้ เนื่องจากอาจช่วยให้ผู้โจมตีสปายแวร์รับจ้างปรับพฤติกรรมเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับได้ในอนาคตได้ การโจมตีนี้มีแนวโน้มที่จะมุ่งเป้าไปที่คุณโดยเฉพาะเนื่องจากว่ารู้ว่าคุณเป็นใครหรือสิ่งที่คุณทำ แม้ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำสำเร็จแน่นอนเมื่อตรวจพบการโจมตีดังกล่าว แต่ Apple มีความมั่นใจสูงในคำเตือนนี้ — โปรดดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป”
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Apple เคยทำครับ เพราะในปี 2021 ในเอกสารสนับสนุนที่อัปเดท Apple กล่าวว่าได้ส่งการแจ้งเตือนภัยคุกคามที่คล้ายกันไปยังผู้ใช้ในกว่า 150 ประเทศมาแล้ว คือ “มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก มีความซับซ้อน และธรรมชาติของการโจมตีสปายแวร์รับจ้างทั่วโลกทำให้พวกเขากลายเป็นภัยคุกคามดิจิทัลที่ทันสมัยที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และด้วยเหตุนี้ Apple จึงไม่ถือว่าการโจมตีหรือการแจ้งเตือนภัยคุกคามที่เกิดขึ้นนั้นมาจากผู้โจมตีหรือภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ใดโดยเฉพาะ”
หรือหากเป็นเวลาใกล้ๆ มานี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกันในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดย Apple ได้ส่งคำเตือนที่คล้ายกันนี้ไปยังนักข่าวและนักการเมืองบางคนในอินเดีย จากนั้นไม่นาน กลุ่มผู้สนับสนุนที่ไม่แสวงหากำไร Amnesty International ก็รายงานว่าพบสปายแวร์ Pegasus ซึ่งเป็นบริษัทอาวุธไซเบอร์ของอิสราเอลที่รุกรานกลุ่ม NSO บน iPhone ของนักข่าวชื่อดังในอินเดียครับ
ในตอนนี้หากใครที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนข้างต้น Apple แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น ความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยฉุกเฉินที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วโดย Digital Security Helpline ที่ Access Now ที่ไม่หวังผลกำไร หรือสามารถติดต่อสายด่วนรักษาความปลอดภัยดิจิทัลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ผ่านทางเว็บไซต์
ส่วนใครที่ไม่ได้รับข้อความแจ้งเตือนทาง Apple ก็แนะนำให้เปิดใช้งานโหมดล็อคดาวน์บนอุปกรณ์เพื่อการป้องกันเพิ่มเติมครับ
ที่มา : MacRumors, TechCrunch